systematic study was conducted to m

systematic study was conducted to make a comparative evaluation of the effects of blending n-butane and n-pentagonal with bio diesel at 10% and 20% by volume on engine performance and on the physic chemical characteristics of particulate emissions from a single cylinder, direct injection diesel engine.The engine was operated at a constant engine speed and at three engine loads. Compared to bio diesel, butane–bio diesel blends lead to a maximum of 1.6% increase in the brake thermal efficiency (BTE) and an increase in the brake specific fuel consumption (BSFC) by 1.9–3.9% at low and medium engine loads. Pentagonal–bio diesel blends result in an improvement in the BTE and a maximum of 2% increase in the BSFC. Compared to bio diesel, both the blended fuels can reduce the particulate mass and elemental carbon (EC) emissions, with butane being more effective than pentagonal. The blended fuels also show a lower emission of total particle-phase poly cyclic aromatic hydrocarbons (PAHs) and also a lower carcinogenic potential. However, the proportion of particulate-bound organic carbon (OC) and water-soluble organic carbon (WSOC) are increased for the both blended fuels, especially for 20% butane in blends.The emissions of volatile and solid particles are reduced significantly in terms of their counts for both kinds of blended fuels at medium and high engine loads, whereas the total particle counts for both 10% and 20% butane in blended fuels are increased at low engine load due to a significant increase in particles with diameter less than 15 mm.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระบบการวิจัยเพื่อทำการประเมินเปรียบเทียบผลของการผสมผสาน นำ n และ n-ห้าเหลี่ยมกับไบโอดีเซล 10% และ 20% โดยประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ และการเปลี่ยนลักษณะทางเคมีของการปล่อยฝุ่นจากกระบอกเดียว เครื่องยนต์ดีเซลฉีดตรงนั้น เครื่องยนต์ถูกดำเนินการ ที่ความเร็วคงเครื่องยนต์ และ ที่สามโปรแกรมโหลด เมื่อเทียบกับไบโอดีเซล นำ – ไบโอดีเซลผสมนำไปสูงสุดเพิ่มขึ้น 1.6% ประสิทธิภาพความร้อนของเบรก (BTE) และการเพิ่มขึ้นของปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉพาะเบรค (BSFC) 1.9 – 3.9% ที่โหลดเครื่องยนต์ต่ำ และปานกลาง ห้า – ไบโอดีเซลผสมผลในการปรับปรุงใน BTE แบบและจำนวนเพิ่มขึ้น 2% BSFC เปรียบเทียบกับไบโอดีเซล เชื้อทั้งสองแบบผสมผสานสามารถลดมวลฝุ่นและปล่อยก๊าซคาร์บอนธาตุ (EC) กับนำมีประสิทธิภาพกว่าห้าเหลี่ยม เชื้อเพลิงผสมแสดงมลพิษต่ำรวมอนุภาคเฟสโพลีทุกรอบหอมไฮโดรคาร์บอน (PAHs) และล่าง carcinogenic เป็นไปด้วย อย่างไรก็ตาม สัดส่วนของคาร์บอนอินทรีย์ฝุ่นผูก (องศาเซลเซียส) และที่ละลายในคาร์บอนอินทรีย์ (WSOC) จะเพิ่มขึ้นในทั้งสองแบบผสมผสานเชื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำ 20% ในการผสม ปล่อยของอนุภาคของแข็ง และระเหยจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญในความแตกต่างทั้งชนิดของเชื้อเพลิงผสมที่โหลดเครื่องยนต์สูง และปานกลาง ในขณะที่การนับจำนวนอนุภาคทั้งหมดสำหรับนำ 10% และ 20% ในเชื้อเพลิงผสมจะเพิ่มที่โหลดในเครื่องยนต์ที่ต่ำเนื่องจากการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในอนุภาคมีเส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า 15 mm

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ระบบการศึกษาได้ดำเนินการเพื่อให้การประเมินผลการเปรียบเทียบผลของการผสม n-บิวเทนและ n-ห้าเหลี่ยมที่มีไบโอดีเซลอยู่ที่ 10% และ 20% โดยปริมาตรต่อประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์และในลักษณะทางเคมีฟิสิกส์ของอนุภาคมลพิษจากกระบอกเดียวโดยตรง ฉีดเครื่องยนต์ดีเซล engine.The ดำเนินการที่ความเร็วของเครื่องยนต์อย่างต่อเนื่องและที่สามโหลดเครื่องยนต์ เมื่อเทียบกับไบโอดีเซล, บิวเทนไบโอดีเซลผสมนำไปสู่​​การได้สูงสุด 1.6% การเพิ่มขึ้นของประสิทธิภาพการเบรกความร้อน (BTE) และการเพิ่มขึ้นของเบรกเฉพาะการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง (BSFC) โดย 1.9-3.9% ที่โหลดเครื่องยนต์ต่ำและปานกลาง ห้าเหลี่ยมชีวภาพผสมดีเซลส่งผลให้เกิดการปรับปรุงใน BTE และสูงสุดของการเพิ่มขึ้น 2% ใน BSFC เมื่อเทียบกับไบโอดีเซลทั้งเชื้อเพลิงผสมสามารถลดมวลอนุภาคและธาตุคาร์บอน (EC) ปล่อยก๊าซเรือนกระจกกับบิวเทนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าห้าเหลี่ยม เชื้อเพลิงผสมนอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงการลดลงของการปล่อยก๊าซรวมอนุภาคโพลีเฟสวงจรอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน (PAHs) และยังเป็นสารก่อมะเร็งที่มีศักยภาพต่ำ อย่างไรก็ตามสัดส่วนของสารอินทรีย์คาร์บอนอนุภาค-ผูกพัน (OC) และน้ำที่ละลายอินทรีย์คาร์บอน (WSOC) จะเพิ่มขึ้นสำหรับเชื้อเพลิงผสมทั้งสองโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบิวเทน 20% ในการปล่อย blends.The ของอนุภาคของแข็งระเหยและจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญในแง่ ของจำนวนของพวกเขาทั้งสองชนิดของเชื้อเพลิงผสมที่ขนาดกลางและโหลดของเครื่องยนต์ที่สูงในขณะที่การนับอนุภาครวมทั้ง 10% และบิวเทน 20% ในเชื้อเพลิงผสมจะเพิ่มขึ้นที่โหลดเครื่องยนต์ต่ำเนื่องจากการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในอนุภาคที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า 15 มิลลิเมตร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ศึกษามีวัตถุประสงค์เพื่อให้การประเมินเปรียบเทียบผลของการผสมและ n-butane n-pentagonal กับไบโอดีเซลที่ 10% และ 20% โดยปริมาตรต่อสมรรถนะเครื่องยนต์ และ ฟิสิกส์ เคมี ในลักษณะของการปล่อยอนุภาคจากกระบอกเดียว , เครื่องยนต์ดีเซลฉีดตรงเครื่องยนต์ ดำเนินการที่ความเร็วรอบเครื่องยนต์คงที่ และที่ 3 เครื่องยนต์โหลด .เทียบกับไบโอ ดีเซล และไบโอดีเซลผสมนําบิวเทนสูงสุดเพิ่มขึ้น 1.6% ในเบรคประสิทธิภาพเชิงความร้อน ( BTE ) และการเพิ่มขึ้นของปริมาณการใช้เชื้อเพลิงจำเพาะเบรก ( BSFC ) โดย 1.9 – 4% ที่โหลดเครื่องยนต์ต่ำและปานกลาง ห้าเหลี่ยม –ไบโอดีเซลผสมผลในการปรับปรุงใน BTE และสูงสุดเพิ่มขึ้น 2% ในน้ำมันเชื้อเพลิง . เทียบกับไบโอ ดีเซลทั้งเชื้อเพลิงผสมสามารถลดอนุภาคมวลและธาตุคาร์บอน ก๊าซบิวเทน ( EC ) ด้วยประสิทธิภาพมากกว่าห้าเหลี่ยม . เชื้อเพลิงผสมยังแสดงการลดลงของจำนวนอนุภาคพอลิไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน ( PAHs ) เป็นสารก่อมะเร็ง และยังต่ำกว่าศักยภาพ อย่างไรก็ตามสัดส่วนของอนุภาคผูกอินทรีย์คาร์บอน ( OC ) และละลายอินทรีย์คาร์บอน ( wsoc ) เพิ่มขึ้นสำหรับทั้งเชื้อเพลิงผสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบิวเทน 20% ผสม ไอเสียระเหยและอนุภาคของแข็งจะลดลงอย่างมากในแง่ของการนับสำหรับทั้งสองชนิดของเชื้อเพลิงผสมที่โหลดเครื่องยนต์ปานกลางและสูงส่วนอนุภาคนับรวมทั้ง 10% และ 20% ในเชื้อเพลิงบิวเทนผสมเพิ่มที่โหลดของเครื่องยนต์ต่ำเนื่องจากการเพิ่มขึ้นในอนุภาคที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า 15 มิลลิเมตร