The Maharishi had come out to teach

The Maharishi had come out to teach with the "avowed intention" to change "the course of human history".[100] When he first began teaching he had three main aims: to revive the spiritual tradition in India, that meditation was for everyone and not just for recluses, and to show that Vedanta is compatible with science.[204] The Maharishi had a message of happiness, writing in 1967, that "being happy is of the utmost importance. Success in anything is through happiness. Under all circumstances be happy. Just think of any negativity that comes at you as a raindrop falling into the ocean of your bliss".[93] His philosophy featured the concept that "within everyone is an unlimited reservoir of energy, intelligence, and happiness".[18] He emphasised the naturalness of his meditation technique as a simple way of developing this potential.[212]

Beginning in 1962, the Maharishi began to recommend the daily practice of yoga exercises or asanas to further accelerate growth.[213]

He also taught that practising Transcendental Meditation twice a day would create inner peace and that "mass meditation sessions" could create outer peace by reducing violence and war.[93] According to a TM website, the performance of yagyas by 7,000 pandits in India, plus hundreds of Yogic Flyers in Germany, brought "coherence and unity in the collective consciousness of Germany" and caused the fall of the Berlin Wall.[214][215][216] One religion scholar, Michael York, considers the Maharishi to have been the most articulate spokesman for the spiritual argument that a critical mass of people becoming enlightened through the practice of "meditation and yogic discipline" will trigger the New Age movement's hoped-for period of postmillennial "peace, harmony, and collective consciousness".[217] Religious studies scholar Carl Olson writes that the TM technique was based on "a neo-Vedanta metaphysical philosophy in which an unchanging reality is opposed to an ever-changing phenomenal world" and that the Maharishi says it is not necessary to renounce worldly activities to gain enlightenment, unlike other ascetic traditions.[212]

According to author Jack Forem, the Maharishi stated that the experience of transcendence, which resulted in a naturally increasing refinement of mind and body, enabled people to naturally behave in more correct ways. Thus, behavioral guidelines did not need to be issued, and were best left to the teachings of various religions: "It is much easier to raise a man's consciousness than to get him to act righteously" the Maharishi said.[218]

Some religious studies scholars have further said that Maharishi Mahesh Yogi is one of a number of Indian gurus who brought neo-Hindu adaptations of Vedantic Hinduism to the west.[219][220][221] Author Meera Nanda calls neo-Hinduism "the brand of Hinduism that is taught by Maharishi Mahesh Yogi, Deepak Chopra, and their clones".[222] J.R. Coplin, a sociologist and MIU graduate, says that the Maharishi saw his own purpose as "the 'revival' of the knowledge of an integrated life based upon Vedic principles and Vedantist reality".[41]

Author Barry Miles writes that, in spite of the media's scepticism for the Maharishi's spiritual message, they seized upon him because young people seemed to listen to his pro-establishment, anti-drug message with one TM participant saying the Maharishi "signaled the beginning of the post-acid generation

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ศูนย์อายุรเวชมหาที่ได้ออกมาสอน ด้วย "เจตนา avowed" การเปลี่ยน "หลักสูตรประวัติศาสตร์ของมนุษย์"[100] เมื่อแรกเริ่มสอนเขามีจุดมุ่งหมายหลักที่สาม: ฟื้นประเพณีจิตวิญญาณในอินเดีย ที่นั่งสมาธิได้ทุกคน และไม่เพียงแต่ สำหรับ recluses และ เพื่อแสดงว่าเวดันเข้ากันได้กับวิทยาศาสตร์[204] ศูนย์อายุรเวชมหาที่มีข้อความของความสุข 1967 เขียนว่า "มีความสุขได้ความ ความสำเร็จในสิ่งที่ผ่านความสุข ภายใต้สถานการณ์ทั้งหมดมีความสุข เพียงคิดว่า negativity ใด ๆ มาเป็น raindrop ล้มลงในความสุขของคุณที่คุณ"[93] ปรัชญาของเขาที่โดดเด่นแนวคิดที่ว่า "ภายในทุกคนคืออ่างเก็บน้ำที่ไม่จำกัดของพลังงาน ข่าวกรอง และความสุข"[18] เขา emphasised naturalness เทคนิคการทำสมาธิของเขาเป็นแบบอย่างของการพัฒนาศักยภาพนี้[212]เริ่มต้นในปี 1962 ศูนย์อายุรเวชมหาการเริ่มแนะนำการปฏิบัติประจำวันออกกำลังกายโยคะ หรืออาสนะทั้งเร่งการเจริญเติบโต[213]เขายังสอนให้ ฝึกสมาธิ Transcendental สามีจะสร้างความสงบสุข และว่า "โดยรวมสมาธิ" สามารถสร้างความสงบภายนอก โดยการลดความรุนแรงและสงครามAccording [93] ลงเว็บไซต์ TM ประสิทธิภาพของ yagyas โดย pandits 7000 ในอินเดีย หลายร้อยใบปลิว Yogic ในเยอรมนี นำ "ศักยภาพและความสามัคคีในจิตสำนึกรวมของเยอรมนี" และทำให้เกิดการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลิน[214][215][216] นักวิชาการศาสนาหนึ่ง Michael York พิจารณาศูนย์อายุรเวชมหาจะมีโฆษกชัดที่สุดสำหรับอาร์กิวเมนต์จิตวิญญาณคนเป็น enlightened ผ่านการปฏิบัติ "สมาธิและวินัย yogic" จำนวนมากจะทริกเกอร์ของขบวนการยุคใหม่หวังสำหรับระยะ postmillennial "สันติภาพ สามัคคี และสติรวม"นักวิชาการศาสนา [217] Carl โอลสันเขียนว่า เทคนิค TM เป็นไปตาม "นีโอเวดันขัดแย้งปรัชญาซึ่งความเป็นจริงที่ไม่เปลี่ยนแปลงตรงข้ามกับการเปลี่ยนแปลงปรากฏการณ์โลก" และที่ศูนย์อายุรเวชมหาที่กล่าวว่า มันไม่จำเป็นต้องสละกิจกรรมทางเพื่อตรัสรู้ ซึ่งแตกต่างจากประเพณีอื่น ๆ นักพรต[212]ตามผู้เขียน Forem แจ็ค ศูนย์อายุรเวชมหาที่ระบุว่า ประสบการณ์ของการปรองดอง ซึ่งส่งผลให้ละเอียดลออเพิ่มขึ้นตามธรรมชาติของร่างกายและจิต เปิดใช้งานผู้ทำงานในวิธีที่ถูกต้องมากขึ้นตามธรรมชาติ ดังนั้น แนวทางพฤติกรรมได้ไม่จำเป็นต้องออก และซ้ายสุดกับคำสอนของศาสนาต่าง ๆ: "มันง่ายมากที่จะยกระดับจิตสำนึกของคนกว่าจะได้รับเขาทำ righteously " ศูนย์อายุรเวชมหาที่ว่า[218]นักวิชาการศาสนาบางคนได้เพิ่มเติมกล่าวว่า ศูนย์อายุรเวชมหาฤาษีมเหศโยคีเป็นจำนวนกูรูส์อินเดียที่นำนีโอฮินดูท้องของศาสนาฮินดู Vedantic ทางตะวันตก[219][220][221] นันดาราผู้เขียนเรียกนีโอศาสนาฮินดู "แบรนด์ของศาสนาฮินดูที่สอน โดยศูนย์อายุรเวชมหาฤาษีมเหศโยคี ดีพัคโชปรา และโคลนของพวกเขา"[222] J.R. Coplin, sociologist และบัณฑิต MIU กล่าวว่า ศูนย์อายุรเวชมหาที่เห็นวัตถุประสงค์ของตัวเองเป็น "การ 'ฟื้นฟู' ความรู้ชีวิตการรวมตามหลักการพระเวทและ Vedantist ความเป็นจริง"[41]ไมล์ Barry ผู้เขียนเขียนว่า แม้ว่า scepticism ของสื่อข้อความทางจิตวิญญาณของศูนย์อายุรเวชมหา พวกเขายึดตามเขา เพราะคนหนุ่มสาวที่ดูเหมือนจะ ฟังของเขาข้อความสนับสนุนก่อตั้ง ยาเสพติดที่ มี TM หนึ่ง ผู้เข้าร่วมว่า ศูนย์อายุรเวชมหา "สัญญาณเริ่มต้นของการสร้างกรดหลัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ศาสนาฮินดูได้ทรงออกมาสอนด้วย "ความตั้งใจยอมรับ" เพื่อเปลี่ยน "หลักสูตรของประวัติศาสตร์ของมนุษย์" [100] เมื่อแรกที่เขาเริ่มสอนเขามีสามจุดมุ่งหมายหลัก:. ที่จะฟื้นฟูประเพณีทางจิตวิญญาณในประเทศอินเดีย, การทำสมาธิที่ถูกสำหรับทุกคน และไม่เพียง แต่สำหรับสันโดษและเพื่อแสดงให้เห็นว่าอุปนิษัทเข้ากันได้กับวิทยาศาสตร์. [204] ฮินดูมีสารแห่งความสุข, การเขียนในปี 1967 ว่า "มีความสุขเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด. ประสบความสำเร็จในสิ่งที่จะผ่านความสุข. ภายใต้ทั้งหมด สถานการณ์มีความสุข. แค่คิดของการปฏิเสธใด ๆ ที่มาที่คุณเป็นน้ำฝนที่ตกลงมาในมหาสมุทรของความสุขของคุณ ". [93] ปรัชญาของเขาให้ความสำคัญแนวคิดที่ว่า" ทุกคนที่อยู่ในอ่างเก็บน้ำที่ไม่ จำกัด ของพลังงานสติปัญญาและความสุข " [18] เขาเน้นความเป็นธรรมชาติของเทคนิคการทำสมาธิของเขาเป็นวิธีที่ง่ายในการพัฒนาที่มีศักยภาพนี้. [212] เริ่มต้นในปี 1962 ฮินดูเริ่มที่จะแนะนำการปฏิบัติในชีวิตประจำวันของการออกกำลังกายโยคะหรือ asanas เพื่อเร่งการเจริญเติบโต. [213] นอกจากนี้เขายัง สอนว่าการฝึกสมาธิวันละสองครั้งจะสร้างความสงบภายในและว่า "สมาธิมวลชน" สามารถสร้างความสงบด้านนอกโดยการลดความรุนแรงและสงคราม. [93] อ้างอิงจากเว็บไซต์ TM ประสิทธิภาพการทำงานของ yagyas โดย 7,000 pandits ในอินเดียบวกร้อย ใบปลิว Yogic ในประเทศเยอรมนีนำ "การเชื่อมโยงกันและความสามัคคีในจิตสำนึกร่วมกันของเยอรมัน" และก่อให้เกิดการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลิน. [214] [215] [216] นักวิชาการศาสนาหนึ่ง, ไมเคิลยพิจารณาฮินดูจะได้รับ โฆษกชัดเจนที่สุดสำหรับอาร์กิวเมนต์จิตวิญญาณที่มวลที่สำคัญของผู้คนกลายเป็นพุทธะผ่านการปฏิบัติของ "การทำสมาธิและวินัย yogic" จะทำให้การเคลื่อนไหวของยุคใหม่ของความหวังสำหรับระยะเวลาของการ postmillennial "สันติภาพความสามัคคีและมีจิตสำนึกร่วมกัน". [217] การศึกษาทางศาสนานักวิชาการคาร์ลโอลสันเขียนว่าเทคนิค TM อยู่บนพื้นฐานของ "ปรัชญาเลื่อนลอยนีโออุปนิษัทซึ่งในความเป็นจริงที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นศัตรูกับโลกปรากฎการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา" และฮินดูกล่าวว่ามันไม่จำเป็นที่จะสละกิจกรรมทางโลกที่จะได้รับ ตรัสรู้ซึ่งแตกต่างจากประเพณีนักพรตอื่น ๆ . [212] ตามที่ผู้เขียนแจ็ค Forem, ฮินดูกล่าวว่าประสบการณ์ของการมีชัยซึ่งมีผลในการปรับแต่งที่เพิ่มขึ้นตามธรรมชาติของจิตใจและร่างกายทำให้คนที่จะประพฤติตามธรรมชาติวิธีการที่ถูกต้องมากขึ้น ดังนั้นแนวทางพฤติกรรมไม่จำเป็นต้องมีการออกและถูกทิ้งไว้ที่ดีที่สุดในคำสอนของศาสนาต่าง ๆ : "มันเป็นเรื่องง่ายที่จะยกระดับจิตสำนึกของมนุษย์มากกว่าที่จะรับเขาที่จะทำหน้าที่อย่างชอบธรรม" ศาสนาฮินดูกล่าวว่า [218]. บางการศึกษาทางศาสนา นักวิชาการได้กล่าวต่อไปอีกว่า Mahesh ฤษีโยคีเป็นหนึ่งในจำนวนของผู้เชี่ยวชาญด้านอินเดียที่นำมาดัดแปลงนีโอฮินดูศาสนาฮินดู Vedantic ไปทางทิศตะวันตก. [219] [220] [221] ผู้เขียนเรียก Meera ดานีโอฮินดู "แบรนด์ของศาสนาฮินดู ที่สอนโดย Mahesh ฤษีโยคี Deepak Chopra และโคลนของพวกเขา ". [222] JR Coplin สังคมวิทยาและจบการศึกษา MIU กล่าวว่าศาสนาฮินดูเห็นจุดประสงค์ของตัวเองว่า" 'การฟื้นตัวของความรู้เกี่ยวกับชีวิตแบบบูรณาการตาม บนหลักการเวทและ Vedantist ความจริง ". [41] ผู้เขียนแบร์รี่ไมล์เขียนว่าทั้งๆที่มีความสงสัยของสื่อสำหรับข้อความทางจิตวิญญาณของศาสนาฮินดูพวกเขาคว้าเขาเพราะคนหนุ่มสาวที่ดูเหมือนจะฟังโปรจัดตั้งของเขาข้อความต่อต้านยาเสพติดด้วย หนึ่งในผู้เข้าร่วม TM บอกว่าศาสนาฮินดู "ส่งสัญญาณเริ่มต้นของยุคโพสต์กรด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โดย Maharishi ออกมาสอนเรื่อง " เริ่ด " เจตนา " ที่จะเปลี่ยนหลักสูตรของประวัติศาสตร์ของมนุษย์ " [ 100 ] เมื่อเขาเริ่มสอนเขาได้ สาม มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อฟื้นฟูประเพณีทางจิตวิญญาณในอินเดียว่า สมาธิสำหรับทุกคนและไม่เพียง แต่สำหรับ recluses และแสดงให้เห็นว่าแอบเป็นเข้ากันได้กับ วิทยาศาสตร์ [ 204 ] ฮินดูมีข้อความความสุขของการเขียนใน 1967 ," ความสุขเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ความสำเร็จในเรื่องอะไรคือความสุข ภายใต้สถานการณ์ทั้งหมดมีความสุข แค่คิดว่า negativity ที่มาที่คุณเป็นหยาดฝนร่วงลงสู่มหาสมุทรแห่งความสุขของคุณ " [ 93 ] ปรัชญาของเขาให้แนวคิดว่า " ภายในทุกคนเป็นอ่างเก็บน้ำไม่ จำกัด ของพลังงาน ข่าวกรอง และความสุข "[ 18 ] เขาเน้นความเป็นธรรมชาติของเทคนิคการทำสมาธิของเขาเป็นวิธีที่ง่ายในการพัฒนาศักยภาพนี้ [ 212 ]

เริ่มในปี 1962 , ฮินดูเริ่มแนะนำให้ฝึกทุกวัน ฝึกโยคะอาสนะเพื่อเพิ่มเติมหรือเร่งการเจริญเติบโต [ 213 ]

นอกจากนี้เขายังสอนว่า ฝึกเดินนาวันละสองครั้งจะสร้างสันติภาพ และว่า " บำบัด " สมาธิมวลสามารถสร้างสันติภาพโดยการลดความรุนแรงและสงครามภายนอกภายใน [ 93 ] ตามเว็บไซต์ TM , ประสิทธิภาพของ yagyas โดย 7000 บัณฑิตในอินเดีย บวกร้อย yogic ใบปลิวในเยอรมนีเอา " การมองโลกและความสามัคคีในกลุ่มจิตของเยอรมนี " และก่อให้เกิดการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลิน [ 214 ] [ 215 ] [ 216 ] หนึ่งศาสนา นักวิชาการ ไมเคิล ยอร์คพิจารณา Maharishi เพื่อมีมากประกบโฆษกทางจิตวิญญาณการโต้แย้งว่ามวลวิกฤตของผู้คนกลายเป็นพุทธะผ่านการปฏิบัติของ " ธรรมและวินัย " yogic จะเรียกยุคใหม่การเคลื่อนไหวของหวังสำหรับงวด postmillennial " สันติภาพ , สามัคคี และจิตสำนึก " ร่วมกัน[ 217 ] ศาสนาศึกษาบัณฑิต คาร์ล โอลสันเขียนว่าเทคนิคนี้ขึ้นอยู่กับ " นีโออภิปรัชญาปรัชญาอุปนิษัทซึ่งในความจริงที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือตรงข้ามกับโลก " ปรากฏการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และว่า ฮินดู บอกว่า ไม่จําเป็นต้องละทิ้งกิจกรรมทางโลกให้ได้ตรัสรู้ ซึ่งแตกต่างจากประเพณีโยคีอื่น [ 212 ]

ตาม ผู้เขียน forem แจ็ค ,ที่ฮินดูกล่าวว่าประสบการณ์ของวิชชา ซึ่งส่งผลให้เกิดตามธรรมชาติเพิ่มการปรับแต่งของจิตใจและร่างกาย ทำให้ผู้คนย่อมทำตัวถูกต้องมากกว่าวิธี ดังนั้น แนวทางพฤติกรรม ไม่ต้องออก และเป็นซ้ายที่ดีที่สุดในคำสอนของศาสนาต่าง ๆ :" มันง่ายมากที่จะเพิ่มผู้ชายสติมากกว่า ให้เขาทำอย่างมีสติ " ฮินดูกล่าวว่า [ 218 ]

บางศาสนาศึกษาบัณฑิตกล่าวเพิ่มเติมว่า Maharishi Mahesh Yogi เป็นหนึ่งของจำนวนของ gurus ชาวฮินดูอินเดีย ที่นำนีโอดัดแปลงของ vedantic ศาสนาฮินดูไปทางทิศตะวันตก[ 219 ] [ 220 ] [ 221 ] เขียนด้วยนันเรียกนีโอศาสนาฮินดู " แบรนด์ของศาสนาฮินดูที่ถูกสอนโดย Maharishi Mahesh Yogi Deepak Chopra , และโคลนของพวกเขา " [ 222 ] เจอาร์ coplin , นักสังคมวิทยาและ Miu บัณฑิตกล่าวว่า ฮินดูเห็นวัตถุประสงค์ของเขาเป็น " ' ' ของการฟื้นฟู ความรู้ของชีวิตแบบบูรณาการ ตามหลักความเป็นจริง และเวท vedantist " [ 41 ]

เขียนแบร์รี่ไมล์ เขียนว่าทั้งๆที่มีความสงสัยของสื่อสำหรับ Maharishi มโนมัยข้อความ พวกเขายึดตามเขา เพราะคนหนุ่มสาวดูเหมือนจะฟังการจัดตั้งโปรของเขาต่อต้านยาเสพติดข้อความหนึ่งซึ่งผู้เข้าร่วมพูด Maharishi " ส่งสัญญาณเริ่มต้นของกรดรุ่นโพสต์