แกล้งดิน เป็นแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช  การแปล - แกล้งดิน เป็นแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช  ไทย วิธีการพูด

แกล้งดิน เป็นแนวพระราชดำริของพระบาท

แกล้งดิน เป็นแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เกี่ยวกับการแก้ปัญหาดินเปรี้ยว หรือดินเป็นกรด โดยมีการขังน้ำไว้ในพื้นที่ จนกระทั่งเกิดปฏิกิริยาเคมีทำให้ดินเปรี้ยวจัด จนถึงที่สุด แล้วจึงระบายน้ำออกและปรับสภาพฟื้นฟูดินด้วยปูนขาว จนกระทั่งดินมีสภาพดีพอที่จะใช้ในการเพาะปลูกได้


หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จฯ เยี่ยมราษฎรในเขตจังหวัดนราธิวาส เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๔ ทรงพบว่า ดินในพื้นที่พรุที่มีการชักน้ำออก เพื่อจะนำที่ดินมาใช้ทำการเกษตรนั้น แปรสภาพเป็นดินเปรี้ยวจัด ทำให้เพาะปลูกไม่ได้ผล จึงมีพระราชดำริให้ส่วนราชการต่าง ๆ พิจารณาหาแนวทางในการปรับปรุงพื้นที่พรุที่มีน้ำแช่ขังตลอดปีให้เกิด ประโยชน์ในทางการเกษตรมากที่สุด และให้คำนึงถึงผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ด้วย การแปรสภาพเป็นดินเปรี้ยวจัด เนื่องจากดินมีลักษณะเป็นเศษอินทรียวัตถุ หรือซากพืชปนเน่าเปื่อยอยู่ข้างบน และมีระดับความลึก ๑ - ๒ เมตร เป็นดินเลนสีเทาปนน้ำเงิน ซึ่งมีสารประกอบกำมะถัน ที่เรียกว่า สารประกอบไพไรท์ (Pyrite : FeS2) อยู่มาก ดังนั้น เมื่อดินแห้ง สารไพไรท์จะทำปฏิกิริยากับอากาศ ปลดปล่อยกรดกำมะถันออกมา ทำให้ดินแปรสภาพเป็นดินกรดจัดหรือเปรี้ยวจัด ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จึงได้ดำเนินการสนองพระราชดำริโครงการ " แกล้งดิน " เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงความเป็นกรดของดิน เริ่มจากวิธีการ " แกล้งดินให้เปรี้ยว " คือทำให้ดินแห้งและเปียกสลับกันไป เพื่อเร่งปฏิกิริยาทางเคมีของดิน ซึ่งจะไปกระตุ้นให้สารไพไรท์ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ ปลดปล่อยกรดกำมะถันออกมา ทำให้ดินเป็นกรดจัดจนถึงขั้น " แกล้งดินให้เปรี้ยวสุดขีด " จนกระทั่งถึงจุดที่พืชไม่สามารถเจริญงอกงามได้ จากนั้นจึงหาวิธีการปรับปรุงดินดังกล่าวให้สามารถปลูกพืชได้ วิธีการแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยวจัดตามแนวพระราชดำริ คือควบคุมระดับน้ำใต้ดิน เพื่อป้องกันการเกิดกรดกำมะถัน จึงต้องควบคุมน้ำใต้ดินให้อยู่เหนือชั้นดินเลนที่มีสารไพไรท์อยู่ เพื่อมิให้สารไพไรท์ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนหรือถูกออกซิไดซ์
วิธีการปรับปรุงดินเปรี้ยวจัดเพื่อการเกษตร[แก้]
1. เพื่อใช้ปลูกข้าว เขตชลประทาน - ดินที่มีค่า pH น้อยกว่า 4.0 ใช้ปูนอัตรา 1.5 ตัน/ไร่ - ดินที่มีค่า pH ระหว่าง 4.0-4.5 ใช้ในอัตรา 1 ตัน/ไร่ เขตเกษตรน้ำฝน - ดินที่มีค่า pH น้อยกว่า 4.0 ใช้ปูนในอัตรา 2.5 ตัน/ไร่ - ดินที่มีค่า pH ระหว่าง 4.0-4.5 ใช้ปูนอัตรา 1.5 ตัน/ไร่ ขั้นตอนการปรับปรุงดินเปรี้ยว หลังจากหว่านปูนให้ทำการไถแปร และปล่อยน้ำให้แช่ขังในนาประมาณ 10 วัน จากนั้นระบายน้ำออกเพื่อชะล้างสารพิษ และขังน้ำใหม่เพื่อรอปักดำ

2. เพื่อใช้ปลูกพืชล้มลุก

การปลูกพืชผัก มีวิธีการ คือ ยกร่อง กว้าง 6-7 เมตร คูระบายน้ำกว้าง 1.5 เมตร และลึก 50 ซม. ไถพรวนดินและตากดินทิ้งไว้ 3-5 วัน ทำแปลงย่อยบนสันร่อง ยกแปลงให้สูง 25-30 ซม. กว้าง 1-2 เมตร เพื่อระบายน้ำบนสันร่องและเพื่อป้องกันไม่ให้แปลงย่อยแฉะ เมื่อรดน้ำหรือเมื่อมีฝนตก ใส่หินปูนฝุ่นหรือดินมาร์ล 2-3 ตัน/ไร่ คลุกเคล้าให้เข้ากับดิน ทิ้งไว้ 15 วัน ใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยอินทรีย์ 5 ตัน/ไร่ ก่อนปลูก 1 วัน เพื่อปรับปรุงดิน การปลูกพืชไร่บางชนิด กระทำได้ 2 วิธี คือ แบบยกร่องสวนและแบบปลูกเป็นพืชครั้งที่ 2 หลังจากการทำนา การปลูกพืชไร่แบบยกร่องสวนมีวิธีเตรียมพื้นที่เช่นเดียว กับการปลูกพืชผัก การปลูกพืชไร่หลังฤดูทำนา ซึ่งอยู่ในช่วงปลายฤดูฝน การเตรียมพื้นที่ต้องยกแนวร่องให้สูงกว่าการปลูกบนพื้นที่ดอน 10-20 ซม. เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำแช่ขังถ้ามีฝนตกผิดฤดู ถ้าพื้นที่นั้นได้รับการปรับปรุงโดยการใช้ปูนมาแล้ว คาดว่าคงไม่จำเป็นต้องใช้ปูนอีก

3. เพื่อปลูกไม้ผล

สร้างคันดินกั้นน้ำล้อมรอบแปลงเพื่อป้องกันน้ำขัง และติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อระบายน้ำออกตามต้องการ ยกร่องปลูกพืชตามวิธีการปรับปรุงพื้นที่ที่มีดินเปรี้ยวจัดเพื่อปลูกไม้ผล น้ำในคูระบายน้ำจะเป็นน้ำเปรี้ยว ต้องระบายออกเมื่อเปรี้ยวจัดและสูบน้ำจืดมาแทน ช่วงเวลาถ่ายน้ำ 3-4 เดือนต่อครั้ง ควบคุมระดับน้ำในคูระบายน้ำ ไม่ให้ต่ำกว่าชั้นดินเลนที่มีสารประกอบไพไรท์ เพื่อป้องกันการเกิดปฏิกิริยาที่จะทำให้ดินมีความเป็นกรดเพิ่มขึ้น ใส่ปูน อาจเป็นปูนขาว ปูนมาร์ล หรือหินปูนฝุ่น โดยหว่านทั่วทั้งร่องที่ปลูกอัตรา 1-2 ตัน/ไร่ กำหนดระยะปลูกตามความเหมาะสมของแต่ละพืช ขุดหลุม กว้าง ยาว และลึก 50-100 ซม. แยกดินชั้นบนและดินชั้นล่าง ทิ้งไว้ 1-2 เดือน เพื่อฆ่าเชื้อโรค เอาส่วนที่เป็นหน้าดินผสมปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก หรือบางส่วนของดินชั้นล่างแล้วกลบลงไปในหลุมให้เต็ม ใส่ปุ๋ยหมัก 1 กก./ต้น โดยผสมคลุกเคล้าให้เข้ากับปูนในอัตรา 15 กก./หลุม ดูแลปราบวัชพืช โรค แมลง และให้น้ำตามปกติ สำหรับการใช้ปุ๋ยบำรุงดินขึ้นกับความต้องการและชนิดของพืชที่จะปลูก

0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
แกล้งดินเป็นแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเกี่ยวกับการแก้ปัญหาดินเปรี้ยวหรือดินเป็นกรดโดยมีการขังน้ำไว้ในพื้นที่จนกระทั่งเกิดปฏิกิริยาเคมีทำให้ดินเปรี้ยวจัดจนถึงที่สุดแล้วจึงระบายน้ำออกและปรับสภาพฟื้นฟูดินด้วยปูนขาวจนกระทั่งดินมีสภาพดีพอที่จะใช้ในการเพาะปลูกได้หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จฯ เยี่ยมราษฎรในเขตจังหวัดนราธิวาสเมื่อปีพ.ศ. ๒๕๒๔ ทรงพบว่าดินในพื้นที่พรุที่มีการชักน้ำออกเพื่อจะนำที่ดินมาใช้ทำการเกษตรนั้นแปรสภาพเป็นดินเปรี้ยวจัดทำให้เพาะปลูกไม่ได้ผลจึงมีพระราชดำริให้ส่วนราชการต่างๆ พิจารณาหาแนวทางในการปรับปรุงพื้นที่พรุที่มีน้ำแช่ขังตลอดปีให้เกิดประโยชน์ในทางการเกษตรมากที่สุดและให้คำนึงถึงผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ด้วยการแปรสภาพเป็นดินเปรี้ยวจัดเนื่องจากดินมีลักษณะเป็นเศษอินทรียวัตถุหรือซากพืชปนเน่าเปื่อยอยู่ข้างบนและมีระดับความลึก ๑ - ๒ เมตรเป็นดินเลนสีเทาปนน้ำเงินซึ่งมีสารประกอบกำมะถันที่เรียกว่าสารประกอบไพไรท์ (Pyrite: FeS2) อยู่มากดังนั้นเมื่อดินแห้งสารไพไรท์จะทำปฏิกิริยากับอากาศปลดปล่อยกรดกำมะถันออกมาทำให้ดินแปรสภาพเป็นดินกรดจัดหรือเปรี้ยวจัดศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริจึงได้ดำเนินการสนองพระราชดำริโครงการ "แกล้งดิน" เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงความเป็นกรดของดินเริ่มจากวิธีการ "แกล้งดินให้เปรี้ยว" คือทำให้ดินแห้งและเปียกสลับกันไปเพื่อเร่งปฏิกิริยาทางเคมีของดินซึ่งจะไปกระตุ้นให้สารไพไรท์ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศปลดปล่อยกรดกำมะถันออกมาทำให้ดินเป็นกรดจัดจนถึงขั้น "แกล้งดินให้เปรี้ยวสุดขีด" จนกระทั่งถึงจุดที่พืชไม่สามารถเจริญงอกงามได้จากนั้นจึงหาวิธีการปรับปรุงดินดังกล่าวให้สามารถปลูกพืชได้วิธีการแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยวจัดตามแนวพระราชดำริคือควบคุมระดับน้ำใต้ดินเพื่อป้องกันการเกิดกรดกำมะถันจึงต้องควบคุมน้ำใต้ดินให้อยู่เหนือชั้นดินเลนที่มีสารไพไรท์อยู่เพื่อมิให้สารไพไรท์ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนหรือถูกออกซิไดซ์วิธีการปรับปรุงดินเปรี้ยวจัดเพื่อการเกษตร [แก้]1. เพื่อใช้ปลูกข้าวเขตชลประทาน - ดินที่มีค่า pH น้อยกว่า 4.0 ใช้ปูนอัตรา 1.5 ตัน/ไร่ -ดินที่มีค่าค่า pH ระหว่าง 4.0-4.5 ใช้ในอัตรา 1 ตัน/ไร่เขตเกษตรน้ำฝน - ดินที่มีค่าใช้ปูนในอัตราน้อยกว่า 4.0 ค่า pH 2.5 ตัน/ไร่ - ดินที่มีค่าค่า pH ระหว่าง 4.0-4.5 ใช้ปูนอัตรา 1.5 ตัน/ไร่ขั้นตอนการปรับปรุงดินเปรี้ยวหลังจากหว่านปูนให้ทำการไถแปรและปล่อยน้ำให้แช่ขังในนาประมาณ 10 วันจากนั้นระบายน้ำออกเพื่อชะล้างสารพิษและขังน้ำใหม่เพื่อรอปักดำ2. เพื่อใช้ปลูกพืชล้มลุกการปลูกพืชผักมีวิธีการคือยกร่องกว้าง 6-7 เมตรคูระบายน้ำกว้าง 1.5 เมตรและลึก 50 90X120X60 ซม. ไถพรวนดินและตากดินทิ้งไว้ 3-5 วันทำแปลงย่อยบนสันร่อง 90X120X60 ซม.ยกแปลงให้สูง 25-30 กว้าง 1-2 เมตรเพื่อระบายน้ำบนสันร่องและเพื่อป้องกันไม่ให้แปลงย่อยแฉะเมื่อรดน้ำหรือเมื่อมีฝนตกใส่หินปูนฝุ่นหรือดินมาร์ล 2-3 ตัน/ไร่คลุกเคล้าให้เข้ากับดินทิ้งไว้ 15 วันใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยอินทรีย์ 5 ก่อนปลูกตัน/ไร่ 1 วันเพื่อปรับปรุงดินการปลูกพืชไร่บางชนิดกระทำได้ 2 วิธีคือแบบยกร่องสวนและแบบปลูกเป็นพืชครั้งที่ 2 หลังจากการทำนาการปลูกพืชไร่แบบยกร่องสวนมีวิธีเตรียมพื้นที่เช่นเดียวกับการปลูกพืชผักการปลูกพืชไร่หลังฤดูทำนาซึ่งอยู่ในช่วงปลายฤดูฝนการเตรียมพื้นที่ต้องยกแนวร่องให้สูงกว่าการปลูกบนพื้นที่ดอน 10-20 90X120X60 ซม. เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำแช่ขังถ้ามีฝนตกผิดฤดูถ้าพื้นที่นั้นได้รับการปรับปรุงโดยการใช้ปูนมาแล้วคาดว่าคงไม่จำเป็นต้องใช้ปูนอีก3. เพื่อปลูกไม้ผลสร้างคันดินกั้นน้ำล้อมรอบแปลงเพื่อป้องกันน้ำขังและติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อระบายน้ำออกตามต้องการยกร่องปลูกพืชตามวิธีการปรับปรุงพื้นที่ที่มีดินเปรี้ยวจัดเพื่อปลูกไม้ผลน้ำในคูระบายน้ำจะเป็นน้ำเปรี้ยวต้องระบายออกเมื่อเปรี้ยวจัดและสูบน้ำจืดมาแทน ช่วงเวลาถ่ายน้ำ 3-4 เดือนต่อครั้งควบคุมระดับน้ำในคูระบายน้ำไม่ให้ต่ำกว่าชั้นดินเลนที่มีสารประกอบไพไรท์เพื่อป้องกันการเกิดปฏิกิริยาที่จะทำให้ดินมีความเป็นกรดเพิ่มขึ้นใส่ปูนอาจเป็นปูนขาวปูนมาร์ลหรือหินปูนฝุ่นโดยหว่านทั่วทั้งร่องที่ปลูกอัตรา 1-2 ตัน/ไร่กำหนดระยะปลูกตามความเหมาะสมของแต่ละพืชขุดหลุมกว้างยาว 50-100 และลึก 90X120X60 ซม. แยกดินชั้นบนและดินชั้นล่างทิ้งไว้ 1-2 เดือนเพื่อฆ่าเชื้อโรคเอาส่วนที่เป็นหน้าดินผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักหรือบางส่วนของดินชั้นล่างแล้วกลบลงไปในหลุมให้เต็มใส่ปุ๋ยหมัก 1 กก. / ต้นโดยผสมคลุกเคล้าให้เข้ากับปูนในอัตรา 15 กก. / หลุมดูแลปราบวัชพืชโรคแมลงและให้น้ำตามปกติสำหรับการใช้ปุ๋ยบำรุงดินขึ้นกับความต้องการและชนิดของพืชที่จะปลูก
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
แกล้งดินเป็นแนวพระราชดำริของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเกี่ยวกับการแก้ปัญหาดินเปรี้ยวหรือดินเป็นกรดโดยมีการขังน้ำไว้ในพื้นที่จนกระทั่งเกิดปฏิกิริยาเคมีทำให้ดินเปรี้ยวจัดจนถึงที่สุดแล้วจึงระบายน้ำออกและปรับสภาพฟื้นฟูดิน จนกระทั่งปูนขาวด้วยคุณดินมีสภาพดีพอที่จะใช้ในห้างหุ้นส่วนจำกัดหัวเรื่อง: การเพาะปลูกได้


หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จฯ เยี่ยมราษฎรในห้างหุ้นส่วนจำกัดเขตจังหวัดนราธิวาสเมื่อปี พ.ศ. 2524 ทรงพบว่าดินในพื้นที่พรุที่ มีการชักน้ำออกเพื่อจะนำที่ดินมาใช้ทำการเกษตรนั้นแปรสภาพเป็นดินเปรี้ยวจัดทำให้เพาะปลูกไม่ได้ผลจึงมีพระราชดำริให้ส่วนราชการต่าง ๆ พิจารณาหาแนวทางในการปรับปรุงพื้นที่ พรุที่มีน้ำแช่ขังตลอดปี ให้เกิดประโยชน์ในทางการเกษตรมากที่สุดและให้คำนึงถึงผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ด้วยการแปรสภาพเป็นดินเปรี้ยวจัดเนื่องจากดินมีลักษณะเป็นเศษอินทรียวัตถุหรือซากพืชปนเน่าเปื่อยอยู่ข้างบน และมีระดับความลึก 1-2 เมตรเป็นดินเลนสีเทาปน น้ำเงินซึ่งมีสารประกอบกำมะถันที่เรียกว่าสารประกอบไพไรท์ (Pyrite: FeS2) อยู่มากดังนั้นเมื่อดินแห้งสารไพ ไรท์จะทำปฏิกิริยากับอากาศปลดปล่อยกรด กำมะถันออกมาทำให้ดินแปรสภาพเป็น ดินกรดจัดหรือเปรี้ยวจัดศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริจึงได้ดำเนินการสนองพระราชดำริโครงการ "แกล้งดิน" เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงความเป็นกรดของ ดินเริ่มจากวิธีการ "แกล้งดินให้เปรี้ยว" คือทำให้ดินแห้งและเปียกสลับกัน ไปเพื่อเร่งปฏิกิริยาทางเคมีของดินซึ่งจะไปกระตุ้นให้สารไพไรท์ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศปลดปล่อยกรดกำมะถันออกมาทำให้ดินเป็นกรดจัดจนถึงขั้น " แกล้งดินให้เปรี้ยวสุดขีด "จนกระทั่งถึงจุดที่พืชไม่สามารถเจริญ งอกงามได้จากนั้นจึงหาวิธีการปรับปรุงดินดังกล่าวให้สามารถปลูกพืชได้วิธีการแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยวจัดตามแนวพระราชดำริคือควบคุมระดับน้ำใต้ดินเพื่อป้องกันการเกิดกรด คุณต้องจึงกำมะถันควบคุมน้ำใต้ดินให้ขณะนี้เหนือชั้นคุณดินเลนที่มีสารไพไรท์ขณะนี้เพื่อมิให้สารไพไรท์ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนหรือถูกออกซิไดซ์
วิธีหัวเรื่อง: การปรับปรุงดินเปรี้ยวจัดเพื่อการเกษตร [แก้]
1 เพื่อใช้ปลูกข้าวเขตชลประทาน - ดินที่มีค่าความเป็นกรดด่างน้อยกว่า 4.0 ใช้ปูนอัตรา 1.5 ตัน / ไร่ - ดินที่มีค่าพีเอชระหว่าง 4.0-4.5 ใช้ในอัตรา 1 ตัน / ไร่เขตเกษตรน้ำฝน - ดินที่มีค่าความเป็นกรดด่างน้อย กว่า 4.0 ใช้ปูนในอัตรา 2.5 ตัน / ไร่ - ดินที่มีค่าพีเอชระหว่าง 4.0-4.5 ใช้ปูนอัตรา 1.5 ตัน / ไร่ขั้นตอนการปรับปรุงดินเปรี้ยวหลังจากหว่าน ปูนให้ทำการไถแปรและปล่อยน้ำให้แช่ขังในนาประมาณ 10 วันจาก นั้นระบายน้ำออกเพื่อชะล้างสารพิษ และขังน้ำใหม่เพื่อรอปักดำ

2 ใช้ปลูกเพื่อพืชล้มลุก

หัวเรื่อง: การปลูกพืชผักมีวิธีคือหัวเรื่อง: การยกร่องกว้าง 6-7 เมตรคูระบายน้ำกว้าง 1.5 เมตรและลึก 50 ซม ไถพรวนดินและตากดินทิ้งไว้ 3-5 วันทำแปลงย่อยบนสันร่องยก แปลงให้สูง 25-30 ซม กว้าง 1-2 เมตรเพื่อระบายน้ำบนสันร่องและ เพื่อป้องกันไม่ให้แปลงย่อยแฉะเมื่อรดน้ำหรือเมื่อมีฝนตกใส่หินปูนฝุ่นหรือดินมาร์ล 2-3 ตัน / ไร่คลุกเคล้าให้เข้ากับดินทิ้ง ไว้ 15 วันใส่ปุ๋ย หมักหรือปุ๋ยอินทรีย์ 5 ตัน / ไร่ก่อนปลูก 1 วันเพื่อปรับปรุงดินการปลูกพืชไร่ บางชนิดกระทำได้ 2 วิธีคือแบบยกร่องสวนและแบบ ปลูกเป็นพืชครั้งที่ 2 หลังจากการทำนาการปลูกพืชไร่ แบบยกร่องสวน มีวิธีเตรียมพื้นที่เช่นเดียวกับการ ปลูกพืชผักการปลูกพืชไร่หลังฤดูทำนาซึ่งอยู่ในช่วงปลายฤดูฝนการเตรียมพื้นที่ต้องยกแนวร่องให้สูงกว่าการปลูกบนพื้นที่ดอน 10-20 ซม เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำแช่ขังถ้า มีฝนตกผิดฤดูถ้าพื้นที่นั้นได้รับการปรับปรุงโดยการใช้ปูนมาแล้วคาดว่าคงไม่จำเป็นต้องใช้ปูนอีก

3 เพื่อปลูกไม้ผล

สร้างคันคุณดินกั้นคุณน้ำล้อมรอบแปลงเพื่อป้องกันคุณน้ำขังและติดตั้งเครื่องสูบคุณน้ำเพื่อระบายคุณน้ำออกตามต้องการยกร่องปลูกพืชตามวิธีหัวเรื่อง: การปรับปรุงพื้นที่ที่มีดินเปรี้ยวจัดเพื่อปลูกไม้ผลคุณน้ำในห้างหุ้นส่วนจำกัดคูระบายคุณน้ำ จะเป็นน้ำเปรี้ยวต้องระบายออกเมื่อ เปรี้ยวจัดและสูบน้ำจืดมาแทนช่วงเวลาถ่ายน้ำ 3-4 เดือนต่อครั้งควบคุมระดับน้ำในคู ระบายน้ำไม่ให้ต่ำกว่าชั้นดินเลนที่มีสารประกอบไพไรท์เพื่อป้องกันการเกิด ปฏิกิริยาที่จะทำให้ดินมีความเป็น กรดเพิ่มขึ้นใส่ปูนอาจเป็นปูนขาวปูนมาร์ลหรือหินปูนฝุ่นโดยหว่านทั่วทั้งร่องที่ปลูกอัตรา 1-2 ตัน / ไร่กำหนดระยะปลูกตามความเหมาะสมของ แต่ละพืชขุดหลุมกว้างยาวและลึก 50-100 ซม แยกดินชั้นบนและดินชั้นล่าง ทิ้งไว้ 1-2 เดือนเพื่อฆ่าเชื้อโรคเอาส่วนที่เป็น หน้าดินผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักหรือบางส่วนของดินชั้นล่างแล้วกลบลงไปในหลุมให้เต็มใส่ปุ๋ยหมัก 1 กก / ต้นโดยผสมคลุกเคล้าให้เข้ากับ ปูนในอัตรา 15 กก. / หลุมดูแลปราบวัชพืชโรคแมลงและให้ น้ำตามปกติสำหรับการใช้ปุ๋ยบำรุงดินขึ้นกับความต้องการและชนิดของพืชที่จะปลูก

การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: