The job of econometrics is to speci

The job of econometrics is to specify and quantify these relationships. That is, econometricians formulate a statistical model, usually based on economic theory, confront it with the data, and try to come up with a specification that meets the required goals. The unknown elements in the specification, the parameters, are estimated from a sample of available data. Another job of the econometrician is to judge whether the resulting model is 'appropriate'. That is, check whether the assumptions made to motivate the estimators (and their properties) are correct, and check whether the model can be used for what it is made for. For example, can it be used for prediction or analysing policy changes? Often, economic theory implies that certain restrictions apply to the model that is estimated. For example, (one version of) the efficient market hypothesis implies that stock market returns are not predictable from their own past. An important goal of econometrics is to formulate such hypotheses in terms of the parameters in the model and to test their validity.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

งานของเศรษฐมิติคือเพื่อ ระบุ และกำหนดปริมาณความสัมพันธ์เหล่านี้ คือ econometricians กำหนดโมเดลทางสถิติ มักจะอิงทฤษฎีทางเศรษฐกิจ เผชิญกับข้อมูล และพยายามที่จะมากับสเปคที่ตรงตามเป้าหมายที่ต้องการ องค์ประกอบที่ไม่รู้จักในสเปค พารามิเตอร์ ประมาณจากตัวอย่างของข้อมูลที่มีอยู่ งานอื่นของ econometrician ที่จะตัดสินว่าแบบจำลองการเกิด 'เหมาะสม' คือ ตรวจสอบว่า สมมติฐานการจูงใจการ estimators (และคุณสมบัติ) ถูกต้อง และตรวจสอบว่า รูปแบบสามารถใช้สำหรับทำเป็น ตัวอย่างเช่น ใช้การคาดเดาหรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายวิเคราะห์ มักจะ ทฤษฎีทางเศรษฐกิจหมายถึงว่า ข้อจำกัดบางประการกับรูปแบบที่มีประมาณ ตัวอย่างเช่น, (รุ่น) หมายถึงสมมติฐานประสิทธิภาพของตลาดว่า ตลาดหุ้นกลับไม่สามารถคาดเดาจากอดีตของตัวเอง เป้าหมายสำคัญของเศรษฐมิติคือ การกำหนดสมมติฐานดังกล่าวในแง่ของพารามิเตอร์ในแบบจำลอง และทดสอบความถูกต้อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

งานของเศรษฐคือการระบุและปริมาณความสัมพันธ์เหล่านี้ นั่นคือ econometricians กำหนดแบบจำลองทางสถิติมักจะอยู่บนพื้นฐานของทฤษฎีเศรษฐศาสตร์เผชิญหน้ากับข้อมูลและพยายามที่จะเกิดขึ้นกับสเปคที่เป็นไปตามเป้าหมายที่จำเป็น องค์ประกอบที่ไม่รู้จักในสเปคพารามิเตอร์จะประมาณจากตัวอย่างของข้อมูลที่มีอยู่ การปฏิบัติงานของ econometrician ก็คือการตัดสินว่ารูปแบบที่เกิดขึ้นคือ 'เหมาะสม' นั่นคือการตรวจสอบว่าสมมติฐานที่จะกระตุ้นตัวประมาณ (และคุณสมบัติของพวกเขา) ถูกต้องและตรวจสอบว่ารูปแบบที่สามารถใช้สำหรับสิ่งที่มันจะทำสำหรับ ยกตัวอย่างเช่นมันสามารถนำมาใช้สำหรับการคาดการณ์หรือการวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงนโยบาย? บ่อยครั้งที่ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์หมายความว่าข้อ จำกัด บางอย่างนำไปใช้กับรูปแบบที่เป็นที่คาด ยกตัวอย่างเช่น (รุ่นหนึ่ง) สมมติฐานตลาดที่มีประสิทธิภาพก็หมายความว่าผลตอบแทนการลงทุนในตลาดหุ้นจะไม่สามารถคาดเดาได้จากที่ผ่านมาของตัวเอง เป้าหมายที่สำคัญของเศรษฐคือการกำหนดสมมติฐานดังกล่าวในแง่ของพารามิเตอร์ในรูปแบบและการทดสอบความถูกต้องของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

งานของเศรษฐมิติ คือการระบุและปริมาณความสัมพันธ์เหล่านี้ นั่นคือ econometricians สร้างแบบจำลองทางสถิติมักจะอยู่บนพื้นฐานของทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ เผชิญหน้ากับข้อมูลและพยายามที่จะมาพร้อมกับสเปคที่ตรงตามเป้าหมายที่ต้องการ ไม่ทราบองค์ประกอบในข้อมูลพารามิเตอร์ ประมาณการจากตัวอย่างของข้อมูลที่มีอยู่ งานอื่นของ econometrician ที่จะตัดสินได้ว่า เป็นผลแบบ " เหมาะสม " นั่นคือ ตรวจสอบว่าสมมติฐานที่ทำให้ตัวประมาณ ( และคุณสมบัติของพวกเขา ) ที่ถูกต้องและตรวจสอบว่ารุ่นที่สามารถใช้สำหรับสิ่งที่มันทำสำหรับ ตัวอย่างเช่นมันสามารถใช้เพื่อทำนายหรือวิเคราะห์นโยบายการเปลี่ยนแปลง ? มักจะ ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์แสดงให้เห็นว่าบางข้อ จำกัด ใช้แบบที่เป็นประมาณ ตัวอย่างเช่น ( รุ่นหนึ่ง ) ตลาดสมมติฐานประสิทธิภาพหมายความว่าผลตอบแทนตลาดหุ้นไม่ใช่แบบฉบับจากอดีตของตัวเอง เป้าหมายที่สำคัญของเศรษฐมิติ คือการสร้างสมมติฐานดังกล่าวในแง่ของค่าพารามิเตอร์ในแบบจำลองและการทดสอบความถูกต้องของพวกเขา