This is a tricky one. How much dema

This is a tricky one. How much demand will there actually be? We need to assess
this for each of the services the group will eventually produce. The two main ways
of doing it are by using data from benchmarks (there are a number of companies
providing these, best known being the Gartner Group). But even these tend to be
limited to simple things like ratios of service staff to user or machine populations,
and all that tells you is what happens in terms of headcount, or what companies
happen to be doing now rather than what is possible. In my own experience of
benchmarking helpdesks, for example, the figures show that the average
performance of helpdesks, especially second-line support staff, is adrift of what is
possible by factors of up to four. In other words, the best helpdesks are not just a
little bit more efficient than the average, but up to four times as efficient. Given a
difference as stark as that, the value of benchmarks becomes questionable.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นี้เป็นเรื่องยุ่งยากอย่างใดอย่างหนึ่ง วิธีการที่ต้องการมากจริงจะมี? เราต้องประเมิน
นี้สำหรับแต่ละบริการกลุ่มในที่สุดก็จะผลิต สองวิธีหลัก
ทำมันโดยใช้ข้อมูลจากการวัดประสิทธิภาพ (มีจำนวน บริษัท
ให้เหล่านี้เป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่ม Gartner) แต่แม้เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะ
จำกัด ให้สิ่งที่ง่ายเช่นอัตราส่วนของพนักงานที่ให้บริการไปยังผู้ใช้หรือประชากรเครื่อง
และสิ่งที่จะบอกคุณคือสิ่งที่เกิดขึ้นในแง่ของรายหัวหรือสิ่งที่ บริษัท
เกิดขึ้นที่จะทำตอนนี้มากกว่าสิ่งที่เป็นไปได้ ในประสบการณ์ของตัวเองของ
เปรียบเทียบ Helpdesks ตัวอย่างเช่นตัวเลขที่แสดงให้เห็นว่าค่าเฉลี่ยของประสิทธิภาพการทำงานของ
Helpdesks พนักงานสนับสนุนบรรทัดที่สองโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการลอยของสิ่งที่เป็น
ไปได้โดยปัจจัยถึงสี่ ในคำอื่น ๆ Helpdesks ที่ดีที่สุดไม่ได้มีประสิทธิภาพเพียง
นิด ๆ หน่อย ๆ มากกว่าค่าเฉลี่ย แต่ถึงสี่ครั้งเป็นที่มีประสิทธิภาพ ให้
ความแตกต่างที่สิ้นเชิงกับที่ค่าของมาตรฐานจะกลายเป็นปัญหา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หนึ่งหากินอยู่ จำนวนความต้องการจริงจะมีหรือไม่ เราต้องประเมิน
สำหรับแต่ละบริการกลุ่มจะผลิต สองวิธีหลัก
การทำเช่นนั้นได้ โดยการใช้ข้อมูลเกณฑ์มาตรฐาน (มีจำนวนบริษัท
ให้เหล่านี้ เที่ยวเป็น กลุ่ม Gartner) แต่แม้เหล่านี้มักจะเป็น
จำกัดสิ่งต่าง ๆ อย่างเช่นอัตราส่วนของพนักงานบริการผู้ใช้หรือกลุ่มประชากรเครื่อง,
และทั้งหมดที่บอกเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในแง่ของจำนวนคน หรือว่าบริษัท
เกิดขึ้นต้องทำตอนนี้แทนอะไรได้ ในประสบการณ์ของฉันเอง
benchmarking หน้าที่ให้ความ ตัวอย่าง ตัวเลขแสดงว่าค่าเฉลี่ย
ประสิทธิภาพของหน้าที่ให้ความ เจ้าหน้าที่สนับสนุนบรรทัดที่สองโดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีลอยอะไรอยู่
ไปได้ โดยปัจจัยถึงสี่ ในคำอื่น ๆ หน้าที่ให้ความดีไม่เพียงเป็น
หน่อยที่มีประสิทธิภาพมากกว่าค่าเฉลี่ย แต่มีถึงสี่ครั้งเป็นประสิทธิภาพการ กำหนดเป็น
สิ้นเป็นเชิงเป็นว่า จะมีค่าของเกณฑ์มาตรฐานอาจแตกต่างกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โรงแรมแห่งนี้คือหนึ่งเส้นผมบัง ภูเขา วิธีการอื่นๆอีกมากมายจะมีความต้องการจริงๆแล้วได้ เราจำเป็นต้องประเมิน
นี้สำหรับบริการที่แต่ละกลุ่มจะผลิตได้ในที่สุด สองหลักวิธี
ซึ่งจะช่วยในการทำนั้นเป็นการใช้ข้อมูลจากการวัด ประสิทธิภาพ (มีบริษัท
ซึ่งจะช่วยให้เหล่านี้เป็นที่รู้จักกันอย่างดีที่สุดการ Gartner Group ) แต่แม้จะมีแนวโน้มที่จะตอบแทน
จำกัด(มหาชน)ในเรื่องแบบเรียบง่ายเหมือนกับสัดส่วนของพนักงานที่ให้บริการกับผู้ใช้หรือประชากรเครื่อง
และทั้งหมดที่จะบอกให้คุณมีสิ่งที่จะเกิดขึ้นในเรื่องของจำนวนบุคลากรหนึ่งคนหรือสิ่งที่บริษัท
เกิดอะไรขึ้นจะทำอยู่ในขณะนี้มากกว่าที่จะเป็นไปได้ รับประสบการณ์ในส่วนตัวของผม helpdesks
การวัด ประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่นตัวเลขที่แสดงให้เห็นว่าโดยเฉลี่ย
ซึ่งจะช่วยเพิ่ม ประสิทธิภาพ ของพนักงานฝ่ายสนับสนุนโดยเฉพาะที่สอง - line helpdesks คือปล่อยไปตามยถากรรมในสิ่งที่เป็น
เป็นไปได้โดยมีปัจจัยของได้ถึงสี่. ในคำอื่นๆ helpdesks ที่ดีที่สุดไม่ใช่เพียง
ซึ่งจะช่วยมากกว่าเล็กน้อยมี ประสิทธิภาพ มากกว่าโดยเฉลี่ยแล้วแต่ได้สูงสุดถึงสี่เท่ามี ประสิทธิภาพ
ซึ่งจะช่วยให้ความแตกต่างเป็นสตาร์กเป็นที่มูลค่าของการวัด ประสิทธิภาพ จะกลายเป็นมีปัญหา