The most significant mechanism is t

The most significant mechanism is the generation of hydroxide ions at the negative pole of the battery caused by the current created through the adjacent tissue. Human tissue basically acts to ‘connect the circuit’ around the two poles of the battery. The resulting hydroxide accumulation is comparable to an alkaline caustic injury, leading to tissue liquefaction and necrosis. A tissue pH of >10 can occur rapidly driven by the voltage of the battery, but this is a powered alkaline burn. The higher the voltage, the faster this process occurs. While a clinically significant outcome is 3.2 times more likely with a fresh compared to a spent cell, of particular note, cells that are “dead” or “spent” and no longer meet the specifications required to power a product, still retain sufficient residual voltage to generate hydroxide and cause severe, even fatal, tissue damage. Any button battery with a residual voltage of 1.2 V or greater can cause injuries to surrounding tissue. Systemic heavy metal or lithium poisoning from leakage of button battery contents is not typically an issue, and the pressure of the battery itself is also not a major source of injury.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กลไกที่สำคัญที่สุดคือการสร้างไอออนไฮดรอกไซที่ขั้วลบของแบตเตอรี่ที่เกิดจากการสร้างขึ้นในปัจจุบันผ่านเนื้อเยื่อที่อยู่ติดกัน เนื้อเยื่อของมนุษย์โดยทั่วไปจะทำหน้าที่ 'เชื่อมต่อวงจร' รอบสองขั้วของแบตเตอรี่ การสะสมส่งผลให้ไฮดรอกไซก็เปรียบได้กับการบาดเจ็บกัดกร่อนอัลคาไลน์ที่นำไปสู่​​การทำให้เนื้อเยื่อและเนื้อร้าย ค่า pH ของเนื้อเยื่อ> 10 สามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วโดยที่ขับเคลื่อนด้วยแรงดันไฟฟ้าของแบตเตอรี่ แต่นี่คือการเผาไหม้พลังงานอัลคาไลน์ แรงดันไฟฟ้าที่สูงขึ้นได้รวดเร็วยิ่งขึ้นกระบวนการนี​​้เกิดขึ้น ในขณะที่ผลอย่างมีนัยสำคัญทางคลินิกคือ 3.2 ครั้งมีแนวโน้มที่มีความสดใหม่เมื่อเทียบกับเซลล์ใช้จ่ายของโปรดโดยเฉพาะเซลล์ที่มี "ตาย" หรือ "ใช้เวลา" และไม่ตรงตามข้อกำหนดที่จำเป็นในการใช้พลังงานผลิตภัณฑ์ที่ยังคงรักษาแรงดันไฟฟ้าที่เหลือเพียงพอ เพื่อสร้างไฮดรอกไซและก่อให้เกิดความรุนแรงถึงแก่ชีวิตได้แม้กระทั่งความเสียหายของเนื้อเยื่อ แบตเตอรี่ปุ่มใด ๆ ที่มีแรงดันไฟฟ้าที่เหลือ 1.2 V หรือมากขึ้นอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อรอบ โลหะหนักหรือระบบในลิเธียมเป็นพิษจากการรั่วซึมของเนื้อหาแบตเตอรี่ปุ่มไม่ได้มักจะเป็นปัญหาและความดันของแบตเตอรี่ของตัวเองยังไม่เป็นแหล่งสำคัญของการบาดเจ็บ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กลไกที่สำคัญที่สุดคือรุ่นของไฮดรอกไซด์ไอออนที่ขั้วลบของแบตเตอรี่ที่เกิดจากกระแสไฟฟ้าสร้างผ่านเนื้อเยื่อที่อยู่ติดกัน เนื้อเยื่อพื้นทำหน้าที่เป็น ' เชื่อมต่อวงจร ' รอบสองขั้วของแบตเตอรี่ ซึ่งก็เปรียบได้กับการบาดเจ็บสะสมโซดาไฟ ( ด่าง และนำไปสู่การแปรรูปลักษณะเนื้อเยื่อเนื้อเยื่อที่พีเอช 10 สามารถเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วขับเคลื่อนด้วยแรงดันของแบตเตอรี่ แต่นี่คือขับเคลื่อนด่างไหม้ ที่สูงกว่าแรงดันไฟฟ้า , เร็วขึ้นกระบวนการนี้เกิดขึ้น ในขณะที่ผลทางคลินิกที่สำคัญเป็น 3.2 ครั้งโอกาสกับสดเมื่อเทียบกับที่ใช้โทรศัพท์ หมายเหตุ เฉพาะเซลล์ที่ " ตาย " หรือ " อยู่ " และไม่ตรงตามข้อกําหนดที่จำเป็นในการใช้พลังงานผลิตภัณฑ์ยังคงรักษาเพียงพอแรงดันตกค้างสร้างโซดาไฟ และสาเหตุที่รุนแรง , ร้ายแรง , เนื้อเยื่อเสียหาย แบตเตอรี่ปุ่มใด ๆที่มีแรงดันเหลือ 1.2   V หรือมากกว่า สามารถทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อรอบๆ กลุ่มของโลหะหนักเป็นพิษหรือลิเธียมแบตเตอรี่ปุ่มจากการรั่วไหลของเนื้อหาโดยทั่วไปไม่ใช่ปัญหาและแรงดันของแบตเตอรี่เองยังไม่ได้เป็นแหล่งที่มาของการบาดเจ็บ