East and Southern AfricaWheat grown

East and Southern Africa

Wheat grown in South Africa, Ethiopia, Sudan and Kenya on 2.5 million ha makes up 94 percent of the total area planted to wheat in East and Southern Africa. Tanzania, Zimbabwe and Zambia collectively plant 105 000 ha, with a minor amount being grown in Angola, Mozambique and Somalia. Wheat production in the region has averaged 4.3 million tonnes annually in recent years and 2.8 million tonnes were imported; all countries are net importers. Consumption varies from 61 kg/caput in South Africa to 5 kg/caput in Tanzania. Yield average for the region in the 1993-1995 period was 1.6 tonnes/ha, with high yields of 4.9 tonnes/ha for Zimbabwe and 3.1 tonnes/ha for Zambia and a very low yield of 0.4 tonnes/ha for Somalia (CIMMYT, 1996).

Most of the wheat in East Africa is grown at high elevations (above 1 500 m). Along the equator, the elevation for wheat is 3 000 m or more. Wheat is generally produced under rainfed conditions, except in the lowlands of Somalia, Zambia and Zimbabwe where irrigation is practised. In the highlands, the average rainfall is between 600 and 700 mm and usually falls from June to September. Soils are generally low in nitrogen (N) and phosphorus (P) and some minor elements. Wheat is usually planted from May to July and harvested in September or October. In Kenya, a second crop is sometimes grown. Common wheat is grown in much of East Africa, except in Ethiopia where durum wheat is grown on 60 to 70 percent of the area.

The major diseases in the highlands are stripe rust and Septoria blotches, particularly Septoria tritici blotch. Stem rust can be very damaging to common wheat in Kenya and durum wheat in Ethiopia. Other diseases important in some years are common bunt, loose smut, BYDV and bacterial leaf streak.

In South Africa, during the 1993-1995 period wheat was grown annually on about 1.2 million ha with a production average of nearly 2.0 million tonnes. Average yield was 1.7 tonnes/ha. Low yields result from low rainfall in the Transvaal, the winter wheat area, and from poor soils in areas of heavier rainfall. Stem rust is the most important disease of winter wheat and when associated with root rots, under favourable conditions for the pathogens, can reduce yield by as much as 50 percent. Leaf rust and Septoria tritici blotch are common but generally not overly destructive to yield. Aphids can cause severe damage in some years. Planting occurs from April to August and September, except in the northern Transvaal where planting is from February to March and harvest occurs in July. The rest of the crop is harvested from November to January. Wheat is used for human consumption in the form of bread, cakes, pastries and cookies.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตะวันออกและแอฟริกาใต้ข้าวสาลีที่ปลูกในแอฟริกาใต้ เอธิโอเปีย ซูดาน และเคนยาใน 2.5 ล้านฮา สร้าง 94 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ปลูกกับข้าวสาลีในตะวันออกและแอฟริกาใต้ แทนซาเนีย ซิมบับเว และแซมเบียโดยรวมพืช 105 000 ฮา กับจำนวนเล็กน้อยที่กำลังเติบโตขึ้น ในแองโกลา โมซัมบิกโซมาเลีย การผลิตข้าวสาลีในภูมิภาค averaged 4.3 ล้านตันในปีที่ผ่านมา และ 2.8 ล้านตัน นำเข้า ทุกประเทศเป็นผู้นำเข้าสุทธิ ปริมาณตั้งแต่ kg 61 caput ในแอฟริกาไปจนถึงกิโลกรัม 5 caput ในแทนซาเนีย ผลผลิตเฉลี่ยของภูมิภาคในปี 1993-1995 เป็นระยะ 1.6 ตัน/ฮา มีสูงทำให้ ของ 4.9 ตัน/ฮา ซิมบับเว และ 3.1 ตัน/ฮา แซมเบียและต่ำมากผลตอบแทน ของ 0.4 ตัน/ฮา ในโซมาเลีย (CIMMYT, 1996)ข้าวสาลีในแอฟริกาตะวันออกส่วนใหญ่จะปลูกที่สูง elevations (เหนือ 1 500 m) ตามแนวเส้นศูนย์สูตร ระดับสำหรับข้าวสาลีเป็น 3 000 เมตรหรือมากกว่า ข้าวสาลีโดยทั่วไปผลิตภายใต้เงื่อนไข rainfed ยกเว้นในสกอตแลนด์ตอนใต้ของโซมาเลีย แซมเบีย และซิมบับเวซึ่งปฏิบัติการชลประทาน ไฮแลนด์ ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 600 และ 700 มม. และมักจะตกจากเดือนมิถุนายนถึงกันยายนนี้ ดินเนื้อปูนจะต่ำโดยทั่วไปแล้วไนโตรเจน (N) และฟอสฟอรัส (P) และองค์ประกอบบางอย่างเล็กน้อย ข้าวสาลีเป็นปกติปลูกพฤษภาคม-กรกฎาคม และเก็บเกี่ยวในเดือนกันยายนหรือตุลาคม ประเทศเคนยา บางครั้งมีปลูกพืชที่สอง ข้าวสาลีทั่วไปจะปลูกมากในแอฟริกาตะวันออก ยกเว้นในเอธิโอเปียซึ่งปลูกข้าวสาลี durum ใน 60-70 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่โรคที่สำคัญในไฮแลนด์มีลายสนิมและ Septoria blotches โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผล tritici Septoria สนิมก้านได้มากทำลายข้าวสาลีทั่วไปในประเทศเคนยาและ durum wheat ในเอธิโอเปีย โรคอื่น ๆ ที่สำคัญในบางปีมี bunt ทั่วไป smut หลวม BYDV และแบคทีเรียลีอับประเทศแอฟริกาใต้ ช่วงปี 1993-1995 ข้าวสาลีที่ปลูกเป็นประจำทุกปีในประมาณ 1.2 ล้านฮา ด้วยการผลิตเฉลี่ยของเกือบ 2.0 ล้านตัน ผลตอบแทนเฉลี่ยได้ 1.7 ตัน/ฮา ต่ำทำให้ผล จากปริมาณน้ำฝนต่ำใน Transvaal ตั้งข้าวสาลีฤดูหนาว และดินเนื้อปูนยากจนในพื้นที่ฝนตกหนัก สนิมก้านเป็นโรคสำคัญของข้าวสาลีฤดูหนาว และเมื่อเชื่อมโยงกับราก rots ภายใต้เงื่อนไขที่ดีสำหรับโรค สามารถลดผลตอบแทนมากถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ใบสนิมและ Septoria tritici แผลอยู่ทั่วไป แต่โดยทั่วไปไม่มากเกินไปทำลายให้ Aphids อาจทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงในบางปี ปลูกเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนสิงหาคมและกันยายน ยกเว้นใน Transvaal ภาคเหนือที่ปลูกจากเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม และเก็บเกี่ยวที่เกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคม ส่วนเหลือของพืชจะเก็บเกี่ยวเดือนพฤศจิกายนถึงมกราคม ใช้ข้าวสาลีสำหรับมนุษย์บริโภคในรูปแบบของขนมปัง เค้ก ขนมปัง และคุกกี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภาคตะวันออกและภาคใต้ของแอฟริกาข้าวสาลีที่ปลูกในแอฟริกาใต้, เอธิโอเปียซูดานเคนยาและ 2.5 ล้านเฮกเตอร์ทำให้ขึ้นร้อยละ 94 ของพื้นที่ทั้งหมดที่ปลูกข้าวสาลีในภาคตะวันออกและภาคใต้ของแอฟริกา แทนซาเนียซิมบับเวและแซมเบียรวมพืช 105 000 ฮ่ามีจำนวนเล็กน้อยที่ถูกปลูกในแองโกลาโมซัมบิกและโซมาเลีย การผลิตข้าวสาลีในภูมิภาคได้เฉลี่ย 4,300,000 ตันต่อปีในปีที่ผ่านมา 2.8 ล้านตันนำเข้า; ทุกประเทศที่เป็นผู้นำเข้าสุทธิ การบริโภคแตกต่างกันจาก 61 กก. / หัวในแอฟริกาใต้ถึง 5 กก. / หัวในแทนซาเนีย อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยสำหรับภูมิภาคในช่วง 1993-1995 เป็น 1.6 ตัน / ไร่โดยมีอัตราผลตอบแทนสูง 4.9 ตัน / ไร่สำหรับซิมบับเวและ 3.1 ตัน ​​/ ไร่สำหรับแซมเบียและอัตราผลตอบแทนที่ต่ำมากของ 0.4 ตัน / ไร่สำหรับโซมาเลีย (CIMMYT 1996 ). ส่วนใหญ่ของข้าวสาลีในแอฟริกาตะวันออกที่มีการเติบโตในระดับสูง (สูงกว่า 1 500 เมตร) พร้อมเส้นศูนย์สูตรสูงข้าวสาลีคือ 3 000 เมตรหรือมากกว่า ข้าวสาลีที่ผลิตโดยทั่วไปภายใต้เงื่อนไขที่น้ำฝนยกเว้นในที่ราบลุ่มของโซมาเลียแซมเบียและซิมบับเวชลประทานที่มีประสบการณ์ ในพื้นที่สูงที่ปริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ระหว่าง 600 และ 700 มิลลิเมตรและมักจะตกตั้งแต่มิถุนายนถึงกันยายน ดินโดยทั่วไปมักจะอยู่ในระดับต่ำไนโตรเจน (N) และฟอสฟอรัส (P) และองค์ประกอบบางอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ข้าวสาลีมักจะปลูกตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนกรกฎาคมและเก็บเกี่ยวในเดือนกันยายนหรือตุลาคม ในเคนยาเป็นพืชที่สองเป็นผู้ใหญ่บางครั้ง ข้าวสาลีที่ปลูกร่วมกันมากในแอฟริกาตะวันออกยกเว้นในเอธิโอเปียที่ปลูกข้าวสาลี durum 60 ร้อยละ 70 ของพื้นที่. โรคที่สำคัญในพื้นที่สูงที่มีสนิมและรอยเปื้อนลาย Septoria โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Septoria tritici ตุ่ม สนิมต้นกำเนิดสามารถมากสร้างความเสียหายให้ข้าวสาลีที่พบบ่อยในเคนยาและ durum ข้าวสาลีในประเทศเอธิโอเปีย โรคที่สำคัญอื่น ๆ ในบางปีมีแรงทั่วไปเขม่าหลวม BYDV และแนวใบแบคทีเรีย. ในแอฟริกาใต้ในช่วงระยะเวลาที่ข้าวสาลี 1993-1995 ปลูกเป็นประจำทุกปีประมาณ 1.2 ล้านเฮกเตอร์ที่มีค่าเฉลี่ยของการผลิตของเกือบ 2.0 ล้านตัน ผลผลิตเฉลี่ย 1.7 ตัน / ไร่ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนที่ต่ำจากปริมาณน้ำฝนต่ำ Transvaal พื้นที่ข้าวสาลีฤดูหนาวและจากดินที่ไม่ดีในพื้นที่ของปริมาณน้ำฝนที่หนักกว่า สนิมต้นกำเนิดเป็นโรคที่สำคัญที่สุดของข้าวสาลีฤดูหนาวและเมื่อเกี่ยวข้องกับรากเน่าภายใต้เงื่อนไขที่ดีสำหรับเชื้อโรคสามารถลดอัตราผลตอบแทนได้มากถึงร้อยละ 50 ใบสนิมและ Septoria tritici ตุ่มเป็นเรื่องธรรมดา แต่โดยทั่วไปไม่ทำลายมากเกินไปที่จะให้ผลผลิต เพลี้ยสามารถก่อให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงในบางปี ปลูกเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนสิงหาคมและกันยายนยกเว้นในภาคเหนือ Transvaal ที่ปลูกคือตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคมและการเก็บเกี่ยวจะเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคม ส่วนที่เหลือของพืชที่มีการเก็บเกี่ยวจากพฤศจิกายน-มกราคม ข้าวสาลีที่ใช้สำหรับการบริโภคของมนุษย์ในรูปแบบของขนมปังขนมเค้กขนมอบและคุกกี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตะวันออกและภาคใต้แอฟริกา

ข้าวสาลีปลูกในแอฟริกาใต้ เอธิโอเปีย ซูดานและเคนยาใน 2.5 ล้านไร่ ทำให้ตั้ง 94 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ปลูกข้าวสาลีในภาคตะวันออกและภาคใต้ของแอฟริกา แทนซาเนียซิมบับเวและแซมเบียเรียกโรงงาน 105 000 ฮา กับผู้เยาว์ยอดการเติบโตในแองโกลา , โมซัมบิก และ โซมาเลีย การผลิตข้าวในพื้นที่มีจำนวน 43 ล้านตันต่อปีในปีล่าสุด และ 2.8 ล้านตันถูกนำเข้า ; ทุกประเทศผู้นำเข้าสุทธิ การบริโภคที่แตกต่างจาก 61 กก. / ศีรษะในแอฟริกาใต้ 5 กิโลกรัม / ศีรษะในแทนซาเนีย ผลผลิตเฉลี่ยในภูมิภาคในช่วงพ.ศ. 2536-2538 เป็น 1.6 ตัน / ไร่ ด้วยผลผลิตสูงของ 4.9 ตัน / ไร่ในซิมบับเวและ 3.1 ตัน / ไร่ และให้ผลผลิตต่ำมากสำหรับแซมเบีย 0.4 ตัน / เฮกตาร์ ( ประเทศเม็กซิโกโซมาเลีย ,1996 ) .

ส่วนใหญ่ของข้าวสาลีในแอฟริกาตะวันออกที่ปลูกที่ระดับสูง ( ข้างบน 1 500 เมตร ) ตามแนวเส้นศูนย์สูตร ระดับความสูงของข้าวสาลี 3 000 เมตรหรือมากกว่านั้น ข้าวสาลีที่ผลิตภายใต้เงื่อนไขโดยทั่วไปอาศัยน้ำฝน ยกเว้นในสกอตแลนด์ตอนใต้ของโซมาเลียและซิมบับเว แซมเบีย ที่ชลประทานเป็นฝึก . ใน ไฮแลนด์ , ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 600 และ 700 มิลลิเมตร และมักจะตกจากมิถุนายน - กันยายนดินโดยทั่วไปจะต่ำในไนโตรเจน ( N ) และฟอสฟอรัส ( P ) และองค์ประกอบย่อยบางส่วน ข้าวสาลีมักปลูกตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม และเก็บเกี่ยวในเดือนกันยายนหรือตุลาคม ในเคนยา ข้าวนาปรังบางครั้งก็โต ข้าวสาลีที่ร่วมกันปลูกมากในทวีปแอฟริกาตะวันออก ยกเว้นในเอธิโอเปียที่ข้าวสาลี durum ปลูก 60 ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่

โรคที่สำคัญในที่ราบสูงเป็นริ้วสนิม และ septoria blotches , โดยเฉพาะอย่างยิ่ง septoria tritici ตุ่ม . ก้านสนิมสามารถเสียหายมากทั่วไปในเคนยาและข้าวสาลี durum ข้าวสาลีในเอธิโอเปีย โรคที่สำคัญอื่น ๆในบางปีจะตีธรรมดา หลวม หนังโป๊ bydv และแนวใบไม้ bacterial

ในแอฟริกาใต้ในช่วงพ.ศ. 2536-2538 ช่วงข้าวสาลี ปลูกปีละประมาณ 12 ล้านไร่ และมีการผลิตเฉลี่ยเกือบ 2 ล้านตัน ผลผลิตเฉลี่ย 1.7 ตัน / เฮกตาร์ ต่ำผลผลิตต่ำ ผลจากฝนตกในทรานสวาล พื้นที่ข้าวสาลีฤดูหนาว และจากดินในพื้นที่ยากจนของหนักฝนได้ ก้านสนิมเป็นสิ่งสำคัญที่สุดโรคข้าวสาลีฤดูหนาวและเมื่อเชื่อมโยงกับรากเน่า , ภายใต้เงื่อนไขที่ดีสำหรับเชื้อโรค ,สามารถลดผลผลิตโดยมากที่สุดเท่าที่ร้อยละ 50 สนิมใบและ septoria tritici รอยทั่วไป แต่โดยทั่วไปไม่สุดเหวี่ยงทำลายผลผลิต เพลี้ยอ่อนสามารถทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงในบางปี การเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนสิงหาคมและกันยายน ยกเว้นในภาคเหนือ Transvaal ที่ปลูกจากเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม และการเก็บเกี่ยวเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคม ส่วนของพืชที่ถูกเก็บเกี่ยวจากเดือนพฤศจิกายนถึงมกราคมข้าวสาลีที่ใช้สำหรับการบริโภคของมนุษย์ในรูปแบบของขนมปัง เค้ก ขนมอบ และคุกกี้