The herbicides used on cash crops c

The herbicides used on cash crops can affect not only whether the residues of that cash crop should be grazed or harvested for feed but also if a secondary crop (cover crop) planted after the cash crop can be used for forage.
If you graze or harvest forage from cropland then there are two restrictions related to herbicides that you need to consider.
1) If you are going to be grazing or harvesting the crop or its residues then you need to look at the grazing/harvest restrictions posted on the herbicide.
2) If you want to grow a forage crop after your cash crop then you need to look at the crop rotation intervals (plant back restriction) on the label.
A pesticide label is a legal document and the instructions must be followed to avoid violating federal law. If a rotation restriction is listed on the label but not for the species you plan to plant you must follow the restriction listed for “other crops” or the longest rotation restriction listed on the label. Unfortunately, this often limits the use of brassicas such as turnips and radishes as they are not often listed on labels.
Products containing atrazine (Aatrex, Anthem ATZ, Breakfree ATZ, Harness Extra, Lexar EZ etc.) are commonly used in corn for weed control. The restriction for grazing/harvesting corn silage or corn residue itself is only 45 days in many of these products. However, products that contain atrazine restrict the planting of any crop other than corn or sorghum until the following year and restrict the planting of spring seeded small grains, small seeded legumes, and grasses the year following application. Thus if atrazine is used on corn ground, then you should not use any cover crop for forage; however, you can plant a cover crop assuming the risk of crop failure due to potential of atrazine carryover injury. The potential of a herbicide for carryover injury is hard to predict because it depends on several factors, including rate of herbicide applied, soil texture, pH, rainfall, and the half-life of the herbicides (the time it takes for 50% of the active ingredient to dissipate).
Those that rent ground for residue or cover crop grazing should talk with the grower to be sure that the herbicides applied allow use of the forage for feed. Your cattle may not be affected by grazing the forage where a chemical with a grazing restriction/crop rotation restriction is on the label, but there may be other concerns such as problems with the chemical residues in the meat. Sometimes studies were actually conducted to know there is a safety concern. In other cases, the chemical company may not have chosen to conduct all the studies required for labeling. If that’s the case, the government requires the strongest restrictive language be placed on the label. Without the proper tests being conducted the risk for toxicity to cattle or herbicide residues in the meat are unknown. Thus, beef producers should follow these restrictions as part of their Beef Quality Assurance Program thereby “insuring a safe, wholesome, and healthy beef supply.”

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สารเคมีกำจัดวัชพืชที่ใช้พืชสดมีผลต่อไม่ว่าการตกค้างของพืชที่ควร grazed หรือเก็บเกี่ยวสำหรับการดึงข้อมูลแต่ถ้าปลูกพืชรอง (ครอบตัด) หลังจากพืชสามารถใช้ได้สำหรับอาหารสัตว์ ถ้าคุณ graze หรือเก็บเกี่ยวอาหารสัตว์จาก cropland แล้วมีสองข้อจำกัดที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีกำจัดวัชพืชที่ต้องพิจารณา 1) ถ้าคุณกำลัง grazing หรือเก็บเกี่ยวพืชผลหรือของตก แล้วคุณต้องดูข้อจำกัด grazing/เก็บ เกี่ยวลงบนสารกำจัดวัชพืช2 ถ้าคุณต้องการปลูกเป็นพืชอาหารสัตว์จากพืชของคุณ แล้วคุณต้องดูช่วงการปลูกพืชหมุนเวียน (พืชหลังจำกัด) บนฉลาก ป้ายชื่อแมลงเป็นเอกสารทางกฎหมาย และต้องปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อหลีกเลี่ยงการละเมิดกฎหมาย ถ้าข้อจำกัดของการหมุนอยู่บนฉลาก แต่ไม่ใช่สำหรับสายพันธุ์คุณจะปลูก คุณต้องทำตามข้อจำกัดที่ระบุสำหรับ "พืชอื่นๆ" หรือจำกัดหมุนที่ยาวที่สุดที่แสดงบนฉลาก อับ นี้มักจะจำกัดการใช้ brassicas ผลิตและ radishes ไม่มักจะแสดงอยู่บนป้ายชื่อ โดยทั่วไปผลิตภัณฑ์ประกอบด้วย atrazine (Aatrex เพลง ATZ เบรค ATZ เทียมเสริม Lexar EZ ฯลฯ) จะใช้ในข้าวโพดสำหรับควบคุมวัชพืช ข้อจำกัดสำหรับ grazing/เก็บ เกี่ยวข้าวโพดไซเลจต่อหรือข้าวโพดตกค้างเองได้เพียง 45 วันในผลิตภัณฑ์เหล่านี้ อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วย atrazine จำกัดปลูกของพืชใด ๆ ไม่ใช่ข้าวโพดหรือข้าวฟ่างจนปีต่อมา และจำกัดการปลูกธัญพืชเล็กสปริง seeded, seeded กินเล็ก และหญ้าปีต่อแอพลิเคชัน ดังนั้นถ้าใช้ atrazine ข้าวโพดเรา แล้วคุณไม่ควรใช้พืชครอบคลุมใด ๆ สำหรับอาหารสัตว์ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถปลูกพืชปกที่สมมติว่าความเสี่ยงของพืชผลล้มเหลวเนื่องจากศักยภาพของ atrazine carryover บาดเจ็บ ศักยภาพของสารกำจัดวัชพืชสำหรับ carryover บาดเจ็บได้ยากจะทำนายเนื่องจากขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง รวมทั้งอัตราใช้สารกำจัดวัชพืช ดินเนื้อ ค่า pH ปริมาณน้ำฝน และ half-life ของสารเคมีกำจัดวัชพืช (เวลาใช้สำหรับ 50% ของใช้เพื่อกระจายไป)ผู้ที่ให้เช่าที่ดินตกค้างหรือครอบคลุมพืช grazing ควรคุยกับ grower ที่เพื่อให้แน่ใจว่า สารเคมีกำจัดวัชพืชที่ใช้อนุญาตให้ใช้ในอาหารสัตว์ในอาหาร สัตว์เลี้ยงของคุณอาจไม่ได้รับผลกระทบ โดย grazing อาหารสัตว์การที่สารเคมี มีข้อจำกัดวาระจำกัด/พืช grazing อยู่บนป้ายชื่อ แต่อาจมีความกังวลอื่น ๆ เช่นปัญหาการตกค้างสารเคมีในเนื้อ บางครั้งการศึกษาได้จริงดำเนินการรู้จักมีความกังวลด้านความปลอดภัย ในบางกรณี บริษัทสารเคมีอาจไม่เลือกทำการศึกษาทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการติดฉลาก ถ้าเป็นกรณีนี้ รัฐบาลต้องวางบนฉลากภาษาเข้มงวดรัดกุมที่สุด โดยไม่มีการทดสอบที่เหมาะสม ถูกดำเนินความเสี่ยงสำหรับความเป็นพิษกับวัว หรือสารกำจัดวัชพืชตกค้างในเนื้อสัตว์จะไม่รู้จัก ดังนั้น ผู้ผลิตเนื้อควรเป็นไปตามข้อจำกัดเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมการประกันคุณภาพเนื้อของพวกเขาจึง "เคยจัดเนื้อปลอดภัย บริสุทธ์ และสุขภาพ"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สารเคมีกำจัดวัชพืชที่ใช้กับพืชเศรษฐกิจที่สามารถส่งผลกระทบไม่เพียง แต่ไม่ว่าจะเป็นสารตกค้างของพืชเงินสดที่ควรจะกินหญ้าหรือเก็บเกี่ยวสำหรับอาหาร แต่ยังถ้าพืชรอง (พืชคลุม) หลังจากปลูกพืชเศรษฐกิจที่สามารถใช้สำหรับอาหารสัตว์.
ถ้าคุณกินหญ้าหรือเก็บเกี่ยว อาหารสัตว์เพาะปลูกแล้วมีสองข้อ จำกัด ที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีกำจัดวัชพืชที่คุณต้องการที่จะต้องพิจารณา.
1) หากคุณกำลังจะได้รับการแทะเล็มหรือเก็บเกี่ยวพืชหรือสารตกค้างของมันแล้วคุณจะต้องมองไปที่ทุ่งเลี้ยงสัตว์ / ข้อ จำกัด การเก็บเกี่ยวโพสต์ในสารกำจัดวัชพืช.
2 ) ถ้าคุณต้องการที่จะเติบโตเป็นพืชอาหารสัตว์หลังจากพืชเงินสดของคุณแล้วคุณจะต้องมองไปที่ช่วงเวลาการปลูกพืชหมุนเวียน (พืชกลับข้อ จำกัด ) บนฉลาก.
ฉลากสารกำจัดศัตรูพืชเป็นเอกสารทางกฎหมายและคำแนะนำที่จะต้องปฏิบัติตามเพื่อหลีกเลี่ยงการละเมิดกฎหมายของรัฐบาลกลาง . หากข้อ จำกัด การหมุนเป็น บริษัท จดทะเบียนในฉลาก แต่ไม่ได้สำหรับสายพันธุ์ที่คุณวางแผนที่จะปลูกคุณต้องทำตามข้อ จำกัด ที่ระบุไว้สำหรับ "พืชอื่น ๆ " หรือข้อ จำกัด การหมุนที่ยาวที่สุดที่ระบุไว้บนฉลาก แต่น่าเสียดายที่นี้มักจะ จำกัด การใช้งานของ brassicas เช่นผักกาดและหัวไชเท้าที่พวกเขาจะไม่ได้ระบุไว้บนฉลากมัก.
ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของอะทราซีน (Aatrex, เพลงสรรเสริญพระบารมี ATZ, Breakfree ATZ, Harness พิเศษ, Lexar EZ ฯลฯ ) มักใช้ในข้าวโพดวัชพืช การควบคุม ข้อ จำกัด สำหรับการแทะเล็ม / เก็บเกี่ยวข้าวโพดหมักหรือสารตกค้างข้าวโพดตัวเองเป็นเพียง 45 วันในหลายของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของอะทราซีน จำกัด การปลูกพืชอื่นใดนอกเหนือจากข้าวโพดหรือข้าวฟ่างจนกระทั่งปีต่อไปและ จำกัด การปลูกในฤดูใบไม้ผลิเมล็ดธัญพืชขนาดเล็ก, ถั่วเมล็ดขนาดเล็กและหญ้าปีการประยุกต์ใช้ต่อไป ดังนั้นหากมีการใช้อาทราซีนบนพื้นดินข้าวโพดแล้วคุณไม่ควรใช้พืชใด ๆ ที่ครอบคลุมสำหรับอาหารสัตว์; แต่คุณสามารถปลูกพืชคลุมสมมติว่าความเสี่ยงของความล้มเหลวของการเพาะปลูกเนื่องจากการที่มีศักยภาพของการบาดเจ็บเปื้อนอะทราซีน ศักยภาพของสารกำจัดวัชพืชสำหรับการบาดเจ็บยกยอดเป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์เพราะมันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการรวมทั้งอัตราการใช้สารกำจัดวัชพืชเนื้อดิน, ค่า pH, ปริมาณน้ำฝนและครึ่งชีวิตของสารเคมีกำจัดวัชพืช (เวลาที่ใช้ 50% ของ ส่วนผสมจะกระจาย).
ผู้ที่เช่าพื้นดินสำหรับสารตกค้างหรือฝาครอบทุ่งเลี้ยงสัตว์ปลูกพืชควรจะพูดคุยกับผู้ปลูกเพื่อให้แน่ใจว่าสารเคมีกำจัดวัชพืชที่ใช้อนุญาตให้ใช้อาหารสัตว์เลี้ยง วัวของคุณอาจจะไม่ได้รับผลกระทบจากการแทะเล็มหญ้าอาหารที่เป็นสารเคมีที่มีข้อ จำกัด ทุ่งเลี้ยงสัตว์ / ข้อ จำกัด การปลูกพืชหมุนเวียนอยู่บนฉลาก แต่อาจจะมีความกังวลอื่น ๆ เช่นปัญหาเกี่ยวกับสารเคมีตกค้างในเนื้อสัตว์ บางครั้งการศึกษาได้ดำเนินการจริงจะรู้ว่ามีความกังวลด้านความปลอดภัย ในกรณีอื่น ๆ บริษัท เคมีอาจไม่ได้เลือกที่จะดำเนินการศึกษาทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการติดฉลาก หากเป็นกรณีที่รัฐบาลต้องใช้ภาษาที่เข้มงวดที่แข็งแกร่งถูกวางไว้บนฉลาก โดยไม่ต้องมีการทดสอบที่เหมาะสมการดำเนินการความเสี่ยงในการเป็นพิษต่อวัวหรือสารกำจัดวัชพืชตกค้างในเนื้อสัตว์ไม่เป็นที่รู้จัก ดังนั้นผู้ผลิตเนื้อวัวควรเป็นไปตามข้อ จำกัด เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของเนื้อคุณภาพของพวกเขาโปรแกรมการประกันจึง "มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยสุทธ์และอุปทานเนื้อวัวมีสุขภาพดี."