Bacharach and Lawler study is conce

Bacharach and Lawler study is concernet with identifying the conditions in which work groups and interrest groups in oganiziations combine together and from which coalitions emerge. Such groups may be informal and adhoc or may be more formolized allowing for example for the possibility of acknowledging trade union influence on policy development at both state andinstitutional levels.The nature of such coalition will inevitably be bound by context. Workplace trade union oganiziation for instance may be accepted and relatively commonplace in some contexts it may be virtually absent in others. All of these differences will influence the extent to which policy may be re-shaped at an institutional level in differing contexts. Bacharach and Lawler 1980 highlight the dynamic and shifting nature of coalition buiding. Colitions emerge develop and potentially fade in response to shifts in the local context. Principallycoalitions are formed to generate influcence either in pursuit of or opposition to change. Change is the impulse that drives thisdynamic. Change by definition undermines the status quo. Existing practices are often questionned traditionalassumptions can be threaatened and values those who benefit from proposed policychanges and those who play.It is therefore a process thatrequires action and will generatereaction. The tensions and conflicts that flow from these responses therefore need to be seen as inevitable and not irrational as Ball 1987 argues
It is not surprising that innovation process in schools frequently take the form of political conflict between advocacy and opposition groups. Either in public debate or through behind the scenes manoeuvres and lobbying factional goups will seek to advance or defend their interests being for or against the chang. Negotiations and compromises may produce amendmented trade- offs arranged bargains arrived at.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ศึกษาแบแคแร็กและ Lawler เป็น concernet ด้วยการระบุเงื่อนไขในการทำงานที่กลุ่มและกลุ่ม interrest ใน oganiziations รวมกัน และ จาก coalitions ที่เกิด กลุ่มดังกล่าวอาจเป็นแบบเฉพาะกิจและ หรือพฤษภาคมจะอนุญาตให้ตัวอย่างของการยอมรับสหภาพอิทธิพลที่มีต่อนโยบายการพัฒนาระดับทั้งสองรัฐ andinstitutional formolized เพิ่มเติมได้ ลักษณะของรัฐบาลดังกล่าวย่อมจะสามารถผูกตามบริบท เช่นอาจเป็นที่ยอมรับ oganiziation ทำงานสหภาพ และค่อนข้างเป็นธรรมดาในบริบทบางอย่างอาจแทบขาดในผู้อื่น ความแตกต่างเหล่านี้ทั้งหมดจะมีผลต่อขอบเขตที่นโยบายใหม่รูปที่อาจเป็นระดับสถาบันในบริบทที่แตกต่างกัน แบแคแร็กและ Lawler 1980 เน้นธรรมชาติแบบไดนามิก และเลื่อนลอยของสัมพันธมิตร buiding Colitions เกิดพัฒนา และอาจค่อย ๆ ตอบกะในบริบทท้องถิ่น Principallycoalitions ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อสร้าง influcence อย่างใดอย่างหนึ่ง ในการแสวงหาหรือต่อต้านการเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนเป็นกระแสที่ไดรฟ์ thisdynamic เปลี่ยนแปลง โดยนิยามทำลายสภาพ แนวทางปฏิบัติที่มีอยู่มัก questionned traditionalassumptions สามารถ threaatened และค่าที่ได้รับประโยชน์จาก policychanges นำเสนอและผู้เล่น มันจึงเป็นกระบวนการ thatrequires การดำเนินการและจะ generatereaction ความตึงเครียดและความขัดแย้งที่ไหลจากผลตอบรับเหล่านี้จึงต้องถือเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยง และไม่โต้เถียงเป็น 1987 ลูกจน จึงไม่น่าแปลกใจว่า กระบวนการนวัตกรรมในโรงเรียนมักใช้รูปแบบของความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างกลุ่มหลุยและฝ่ายค้าน ในการอภิปรายสาธารณะ หรือผ่านเบื้องหลัง manoeuvres และบรรดา factional goups หาทางที่จะก้าวหน้า หรือปกป้องผลประโยชน์ของพวกเขาสำหรับหรือ กับช้าง และการเจรจาอาจผลิต amendmented ทางเลือกจัดราคามาถึงได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บาคารัคและการศึกษา Lawler concernet จะมีการระบุเงื่อนไขในการที่กลุ่มงานและกลุ่ม interrest ใน oganiziations รวมเข้าด้วยกันและจากการที่พันธมิตรออกมา กลุ่มดังกล่าวอาจจะไม่เป็นทางการและเฉพาะกิจหรืออาจจะมากขึ้นเพื่อให้สามารถ formolized ตัวอย่างสำหรับความเป็นไปได้ของการยอมรับอิทธิพลของสหภาพแรงงานในการพัฒนานโยบายที่ทั้งของรัฐ andinstitutional ธรรมชาติ levels.The ของรัฐบาลดังกล่าวย่อมจะต้องผูกพันตามบริบท oganiziation สหภาพแรงงานในสถานที่ทำงานเช่นอาจจะได้รับการยอมรับและค่อนข้างเป็นเรื่องธรรมดาในบริบทบางอย่างมันอาจจะเป็นความจริงที่ไม่อยู่ในที่คนอื่น ๆ ทั้งหมดของความแตกต่างเหล่านี้จะมีผลต่อขอบเขตที่อาจจะมีนโยบายใหม่ที่มีรูปทรงในระดับที่แตกต่างกันในสถาบันบริบท บาคารัคและ Lawler 1980 เน้นธรรมชาติแบบไดนามิกและการขยับของรัฐบาล Buiding Colitions โผล่ออกมาพัฒนาและอาจจางหายไปในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในบริบทของท้องถิ่น Principallycoalitions จะเกิดขึ้นในการสร้าง influcence อย่างใดอย่างหนึ่งในการแสวงหาความขัดแย้งหรือมีการเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนเป็นแรงกระตุ้นที่ไดรฟ์ thisdynamic เปลี่ยนโดยความหมายทำลายสภาพที่เป็นอยู่ การปฏิบัติที่มีอยู่มักจะ questionned traditionalassumptions สามารถ threaatened และค่าผู้ที่ได้รับประโยชน์จาก policychanges เสนอและผู้ที่ play.It จึงเป็นขั้นตอนการดำเนินการและจะ thatrequires generatereaction ความตึงเครียดและความขัดแย้งที่ไหลจากการตอบสนองเหล่านี้จึงจำเป็นที่จะต้องถูกมองว่าเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และไม่มีเหตุผลเป็นบอล 1987 ระบุ
ไม่น่าแปลกใจว่ากระบวนการนวัตกรรมในโรงเรียนมักจะอยู่ในรูปของความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างผู้สนับสนุนและกลุ่มต่อต้าน ทั้งในการอภิปรายสาธารณะหรือผ่านเบื้องหลังการซ้อมรบและการวิ่งเต้น goups เห็นแก่จะพยายามที่จะก้าวหน้าหรือปกป้องผลประโยชน์ของพวกเขาถูกหรือต่อต้านช้าง การเจรจาต่อรองและการประนีประนอมอาจไม่ชอบการค้า amendmented จัดมาถึงที่ต่อรองราคา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

และศึกษา concernet Bacharach ลอว์เลอร์กับการระบุเงื่อนไขในการทำงานกลุ่ม และกลุ่ม interrest oganiziations รวมเข้าด้วยกัน และจากการที่พันธมิตรออกมา กลุ่มดังกล่าวอาจจะไม่เป็นทางการและ adhoc หรืออาจจะมากกว่า formolized ให้ตัวอย่างสำหรับความเป็นไปได้ของการยอมรับอิทธิพลของสหภาพแรงงาน ในการพัฒนานโยบาย ทั้งในระดับรัฐ andinstitutional .ธรรมชาติ เช่น รัฐบาลย่อมจะผูกพันตามบริบท สถานที่ทำงานสหภาพแรงงาน oganiziation ตัวอย่างเช่นอาจจะยอมรับ และค่อนข้างธรรมดาในบางบริบทมันอาจจะขาดจวนในผู้อื่น ทั้งหมดของความแตกต่างเหล่านี้จะมีอิทธิพลต่อขอบเขตที่นโยบายอาจจะเป็นรูปร่างในระดับสถาบันในบริบทที่แตกต่างBacharach ลอว์เลอร์ 1980 และเน้นแบบไดนามิกและเปลี่ยนธรรมชาติของกลุ่มอาคาร . colitions ออกมาพัฒนา และอาจจางหายไปในการตอบสนองการเปลี่ยนแปลงในบริบทท้องถิ่น principallycoalitions เกิดขึ้นเพื่อสร้าง influcence อย่างใดอย่างหนึ่งในการแสวงหาหรือการต่อต้านการเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้ thisdynamic . เปลี่ยนนิยามเอง สถานะที่เป็นอยู่การปฏิบัติที่มีอยู่มักจะ questionned traditionalassumptions สามารถ threaatened และค่านิยมของผู้ที่ได้รับประโยชน์จากการนำเสนอ policychanges และผู้เล่น ดังนั้นกระบวนการ thatrequires การดําเนินการ และจะ generatereaction . ความตึงเครียดและความขัดแย้งที่ไหลจากการตอบสนองเหล่านี้จึงต้องถูกมองว่าเป็นหลีกเลี่ยงไม่ได้และไม่อาจโต้แย้ง
เป็นลูก 1987มันไม่น่าแปลกใจว่ากระบวนการนวัตกรรมในโรงเรียนมักใช้รูปแบบของความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนและต่อต้าน ในการอภิปรายสาธารณะหรือผ่านเบื้องหลังฉากประลองยุทธ์และการล็อบบี้กลุ่ม goups จะแสวงหาหรือปกป้องผลประโยชน์ของพวกเขาล่วงหน้าสำหรับหรือกับช้างการเจรจาและการประนีประนอมอาจผลิต amendmented การค้า - offs จัดต่อราคามาถึง .