Theories of Democratic Citizenship

Theories of Democratic Citizenship
Concerns about citizenship and democracy are particularly important and visible in recent political and social theory,
both of which call for a reinvigorate and more active and involved citizenship(Barber 1984; Mansbridge 1990; Mansbridge 1992; Paterman 1970;Sandel1996). Of particular relevance to our discussion is Sandel's suggestion that the prevailing model of the relationship between state and citizens is based on the idea that government exists to ensure citizens can make choices consistent with their self-interest by guaranteeing certain procedures (such as voting) and individual right. Obviously, this perspective is consistent with public choice economic and the New Public Management (see Kamensky 1996). But Sandel offers an alternative view of democratic citizenship, one in which individuals are much more actively engaged in governance. In this view, citizens look beyond self-interest to the larger public interest, adopting a broader and longer-term perspective that requires a knowledge of public affairs and also a sense of belonging, a concern for the whole, and a moral bond with the community whose fate it at stake (Sandel 1996,5-6;; see also Schubert 1957)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทฤษฎีสัญชาติประชาธิปไตย ความกังวลเกี่ยวกับสัญชาติและประชาธิปไตยเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง และเห็นล่าสุดทางการเมือง และสังคมทฤษฎีทั้งที่ติดต่อด้วยและเพิ่มเติมงาน และเกี่ยวข้องกับสัญชาติ (ร้าน 1984 Mansbridge 1990 Mansbridge 1992 Paterman 1970Sandel1996) ความเกี่ยวข้องเฉพาะการสนทนาของเรามีคำแนะนำของ Sandel ว่า รุ่นปัจจุบันของความสัมพันธ์ระหว่างรัฐและประชาชนจะขึ้นอยู่กับความคิดที่ว่า รัฐบาลที่มีอยู่เพื่อให้ประชาชนสามารถทำให้เลือกสอดคล้องกับ self-interest การรับประกันบางขั้นตอน (เช่นการลงคะแนนเสียง) และขวาละ อย่างชัดเจน มุมมองนี้จะสอดคล้องกับเศรษฐกิจทางเลือกสาธารณะและการจัดการสาธารณะใหม่ (ดู Kamensky 1996) แต่ Sandel มีมุมมองอื่นของสัญชาติประชาธิปไตย หนึ่งที่บุคคลมีมากเน้นการกำกับดูแลกิจการ ในมุมมองนี้ ประชาชนมองเกิน self-interest เพื่อประโยชน์สาธารณะขนาดใหญ่ ใช้มุมมองกว้าง และเยือนที่ต้องการความรู้ในกิจการสาธารณะ และความเป็นสมาชิก กังวลสำหรับทั้งหมด และศีลธรรมเป็นพันธบัตรกับชุมชนที่มีชะตากรรมที่เดิมพัน (Sandel 1996,5-6;; ดู Schubert 1957)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทฤษฎีของการเป็นพลเมืองประชาธิปไตย
ความกังวลเกี่ยวกับความเป็นพลเมืองและประชาธิปไตยโดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่สำคัญและมองเห็นได้ในทฤษฎีทางการเมืองและสังคมที่ผ่านมา
ซึ่งทั้งสองเรียกร้องให้ประคองและความเป็นพลเมืองใช้งานมากขึ้นและมีส่วนร่วม (ตัดผม 1984; Mansbridge 1990; Mansbridge 1992; Paterman 1970; Sandel1996) ความเกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการสนทนาของเราคือข้อเสนอแนะของแซนเดลที่รูปแบบการแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างรัฐและประชาชนจะขึ้นอยู่กับความคิดที่ว่ารัฐบาลที่มีอยู่เพื่อให้แน่ใจว่าประชาชนสามารถเลือกที่สอดคล้องกับความสนใจของตัวเองของพวกเขาด้วยการให้หลักประกันขั้นตอนบางอย่าง (เช่นการออกเสียงลงคะแนน) และ สิทธิส่วนตัว เห็นได้ชัดว่ามุมมองนี้มีความสอดคล้องกับทางเลือกของประชาชนทางเศรษฐกิจและการบริหารใหม่ (ดู Kamensky 1996) แต่แซนเดมีมุมมองทางเลือกของความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยอย่างใดอย่างหนึ่งในการที่บุคคลจะมีมากขึ้นทำงานอย่างแข็งขันในการกำกับดูแล ในมุมมองนี้ประชาชนมองไกลประโยชน์ของตนเองเพื่อประโยชน์สาธารณะขนาดใหญ่, การใช้ในวงกว้างและมุมมองในระยะยาวที่ต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับกิจการสาธารณะและความรู้สึกของการเป็นกังวลสำหรับทั้งหมดและพันธบัตรที่มีศีลธรรม ชุมชนที่มีชะตากรรมของมันที่สัดส่วนการถือหุ้น (แซนเด 1996,5-6 ;; เห็นชูเบิร์ต 1957)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทฤษฎีประชาธิปไตยพลเมือง
ความกังวลเกี่ยวกับสัญชาติและประชาธิปไตยเป็นสำคัญ และมองเห็นได้ในทฤษฎีทางสังคมและการเมืองล่าสุด
ซึ่งทั้งสองเพื่อเรียกใช้งานมากขึ้น และเกี่ยวข้องกับการประคอง และ ( ผม 1984 ; mansbridge 1990 ; mansbridge 1992 ; paterman 1970 ; sandel1996 )โดยเฉพาะเกี่ยวข้องกับการสนทนาของเราคือ แซนเดลเป็นข้อเสนอแนะว่ามีรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชน ตามแนวคิดที่รัฐบาลมีอยู่ เพื่อให้ประชาชนสามารถเลือกให้สอดคล้องกับผลประโยชน์ของตน โดยรับประกันว่ากระบวนการบางอย่าง ( เช่นการลงคะแนน ) และสิทธิของแต่ละบุคคล เห็นได้ชัดว่ามุมมองนี้จะสอดคล้องกับสาธารณะทางเลือกทางเศรษฐกิจและการจัดการสาธารณะใหม่ ( ดู คามินสกี้ 1996 ) แต่เซนเดล มีมุมมองทางเลือกของพลเมืองประชาธิปไตย ซึ่งหนึ่งในบุคคลมากขึ้นอย่างแข็งขันส่วนร่วมในการปกครอง . ในมุมมองนี้ ประชาชนดูเกินประโยชน์กับสาธารณะขนาดใหญ่สนใจการใช้มุมมองที่กว้างขึ้นและระยะยาวที่ต้องมีความรู้ด้านการประชาสัมพันธ์ และยังรู้สึกผูกพัน , เป็นกังวลสำหรับทั้งหมดและพันธะทางศีลธรรมกับชุมชนที่โชคชะตามันเดิมพัน ( เซนเดล 1996,5-6 ; ; ดูยัง Schubert 1957 )