Dreaming[edit]Rapid eye movement sl

Dreaming[edit]

Rapid eye movement sleep has since its discovery been closely associated with dreaming. Waking up sleepers during a REM phase is a common experimental method for obtaining dream reports; 80% of neurotypical people can give some kind of dream report under these circumstances.[44] Sleepers awakened from REM tend to give longer more narrative descriptions of the dreams they were experiencing, and to estimate the duration of their dreams as longer.[8][45] Lucid dreams are reported far more often in REM sleep.[46] (In fact these could be considered a hybrid state combining essential elements of REM sleep and waking consciousness.)[8] The mental events which occur during REM most commonly have dream hallmarks including narrative structure, convincingness (experiential resemblance to waking life), and incorporation of instinctual themes.[8]

Hobson and McCarley proposed that the PGO waves characteristic of “phasic” REM might supply the visual cortex and forebrain with electrical excitement which amplifies the hallucinatory aspects of dreaming.[11][16] However, people woken up during sleep do not report significantly more bizarre dreams during phasic REMS, compared to tonic REMS.[45] Another possible relationship between the two phenomena could be that the higher threshold for sensory interruption during REM sleep allows the brain to travel further along unrealistic and peculiar trains of thought.[45]

Some dreaming can take place during non-REM sleep. “Light sleepers” can experience dreaming during stage 2 non-REM sleep, whereas “deep sleepers”, upon awakening in the same stage, are more likely to report “thinking” but not “dreaming”. Certain scientific efforts to assess the uniquely bizarre nature of dreams experienced while asleep were forced to conclude that waking thought could be just as bizarre, especially in conditions of sensory deprivation.[45][47] Because of non-REM dreaming, some sleep researchers have strenuously contested the importance of connecting dreaming to the REM sleep phase. The prospect that well-known neurological aspects of REM do not themselves cause dreaming suggests the need to re-examine the neurobiology of dreaming per se.[48] Some of the old guard in paradoxical sleep research (Dement, Hobson, Jouvet), however, tend to resist the idea of disconnecting dreaming from REM sleep.[8][49]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฝัน [แก้ไข]นอนหลับความเคลื่อนไหวของตาอย่างรวดเร็วมีตั้งแต่การค้นพบการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับฝัน ตื่นผู้นอนระยะ REM คือ วิธีการทดลองทั่วไปสำหรับการได้รับรายงานความฝัน 80% ของคน neurotypical สามารถให้บางชนิดของรายงานความฝันภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ [44] ผู้นอนตื่นตัวจาก REM มัก ให้คำอธิบายบรรยายเพิ่มเติมอีกต่อไปของความฝันที่พวกเขาได้พบ และประเมินระยะเวลาของความฝันเป็นอีกต่อไป [8] [45] มีรายงานความฝันชัดเจนมากมักในการนอนหลับ REM [46] (ในความเป็นจริงเหล่านี้อาจจะพิจารณารัฐผสมรวมองค์ประกอบที่สำคัญของ REM และปลุกสำนึก) [8] จิตใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง REM มักมีโครงสร้างบรรยาย convincingness (รูปที่ผ่านการปลุกชีวิต), และประสานชุด instinctual มั่นฝัน [8]Hobson และ McCarley เสนอว่า คลื่น PGO ลักษณะของ REM "phasic" อาจใส่ภาพคอร์เทกซ์และ forebrain ด้วยความตื่นเต้นไฟฟ้าซึ่งกำลังโคจรอยู่ซึ่งด้าน hallucinatory ของฝัน [11] [16] อย่างไรก็ตาม คนที่ตื่นขึ้นในระหว่างการนอนหลับไม่รายงานความฝันแปลกประหลาดมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญระหว่าง REMS phasic เปรียบเทียบกับโทนิค REMS [45] ความสัมพันธ์สุดอื่นระหว่างปรากฏการณ์ทั้งสองอาจที่ขีดจำกัดสูงสำหรับรับความรู้สึกถูกขัดจังหวะในระหว่างนอนหลับ REM ช่วยให้สมองเดินทางไปตามรถไฟที่แปลก และไม่คิดการ [45]ฝันบางสามารถทำได้ในระหว่างไม่-REM นอนหลับ "แสงผู้นอน" ได้สัมผัสฝันระหว่างขั้น 2 ปลอดนอน REM ในขณะที่ "ลึกผู้นอน" เมื่อตื่นขึ้นในระยะเดียวกัน มีแนวโน้มการรายงาน "คิด" แต่ไม่ "ฝัน" ความพยายามบางอย่างทางวิทยาศาสตร์เพื่อประเมินลักษณะแปลกประหลาดโดยเฉพาะมีประสบการณ์ขณะหลับฝันของถูกบังคับให้สรุปว่า ปลุกความคิดอาจจะเพียงเป็นแปลกประหลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพของ sensory มา [45] [47] เนื่องจากของไม่ใช่ REM ฝัน นักวิจัยบางนอนได้หนักจีนแสความสำคัญของการเชื่อมต่อระยะ REM หลับฝัน โน้มที่รู้จักด้านระบบประสาทของ REM ไม่ตัวเองทำให้ฝันแนะนำต้องใหม่ตรวจสอบ neurobiology ของฝันต่อ se [48] ของยามเก่าวิจัย paradoxical นอนหลับ (Dement, Hobson, Jouvet), แต่ มักจะ ต่อต้านความคิดของการยกฝันจากโหมดสลี REM [8] [49]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฝัน [แก้ไข] การนอนหลับตาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วได้ตั้งแต่การค้นพบการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับความฝัน ตื่นขึ้นมาในระหว่างการนอนหลับช่วง REM เป็นวิธีการทดลองที่พบบ่อยสำหรับการได้รับรายงานความฝัน; 80% ของคน neurotypical สามารถให้ชนิดของรายงานความฝันบางอย่างภายใต้สถานการณ์เช่นนี้. [44] หลับตื่นขึ้นมาจาก REM มีแนวโน้มที่จะให้อีกต่อไปรายละเอียดการเล่าเรื่องมากขึ้นของความฝันที่พวกเขากำลังประสบและเพื่อประเมินระยะเวลาของความฝันของพวกเขาในขณะที่อีกต่อไป. [8 ] [45] ความฝันสุวิมลจะมีการรายงานที่ไกลมากขึ้นมักจะอยู่ในการนอนหลับ REM. [46] (ในความเป็นจริงเหล่านี้อาจได้รับการพิจารณาเป็นรัฐไฮบริดรวมองค์ประกอบที่สำคัญของการนอนหลับ REM และมีจิตสำนึกตื่น.) [8] เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางจิตที่เกิดขึ้นในช่วง REM มากที่สุด โดยทั่วไปมีการปฏิบัตในฝันรวมถึงโครงสร้างการเล่าเรื่อง convincingness (คล้ายคลึงกับประสบการณ์ในการดำรงชีวิตตื่น) และการรวมตัวกันของรูปแบบสัญชาตญาณ. [8] โอกาสและ McCarley เสนอว่าคลื่น PGO ลักษณะของ "เฟสิค" REM อาจจัดหาเยื่อหุ้มสมองภาพและ forebrain ด้วยความตื่นเต้นไฟฟ้า ซึ่งขยายด้านประสาทหลอนของฝัน. [11] [16] แต่คนตื่นขึ้นมาระหว่างการนอนหลับไม่รายงานอย่างมีนัยสำคัญมากขึ้นความฝันที่แปลกประหลาดในช่วง REMS เฟสิคเมื่อเทียบกับ REMS โทนิค. [45] อีกความสัมพันธ์ที่เป็นไปได้ระหว่างสองปรากฏการณ์อาจเป็นได้ว่า เกณฑ์ที่สูงขึ้นสำหรับการหยุดชะงักทางประสาทสัมผัสในระหว่างการนอนหลับ REM ช่วยให้สมองที่จะเดินทางต่อไปตามทางรถไฟที่ไม่สมจริงและแปลกประหลาดของความคิด. [45] บางคนฝันสามารถเกิดขึ้นได้ในระหว่างการนอนหลับที่ไม่ REM "หมอนแสง" จะได้พบกับความฝันในระหว่างขั้นตอน 2 นอนหลับที่ไม่ REM ในขณะที่ "หมอนลึก" เมื่อตื่นนอนในขั้นตอนเดียวกันมีแนวโน้มที่จะรายงาน "คิด" แต่ไม่ "ความฝัน" ความพยายามทางวิทยาศาสตร์บางอย่างในการประเมินลักษณะที่แปลกประหลาดไม่ซ้ำกันในฝันที่มีประสบการณ์ในขณะนอนหลับจะถูกบังคับให้สรุปได้ว่าตื่นคิดว่าอาจเป็นเพียงแค่เป็นที่แปลกประหลาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาวะของการกีดกันทางประสาทสัมผัส. [45] [47] เพราะไม่ REM ฝันนักวิจัยการนอนหลับบาง ได้เข้าร่วมประกวดอย่างแรงความสำคัญของการเชื่อมต่อฝันถึงช่วงการนอนหลับ REM ที่ ความคาดหวังที่รู้จักกันดีในด้านระบบประสาทของ REM ไม่ตัวเองทำให้เกิดความฝันให้เห็นความจำเป็นในการสอบใหม่ชีววิทยาของฝันต่อที่. [48] บางส่วนของทหารเก่าในการวิจัยการนอนหลับขัดแย้ง (บ้าโอกาส, Jouvet) อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มที่จะต่อต้านความคิดของการถอดฝันจากการนอนหลับ REM ได้. [8] [49]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฝัน [ แก้ไข ]

เคลื่อนไหวรวดเร็วตาหลับได้ตั้งแต่การค้นพบได้รับการเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับฝัน ตื่นนอนในช่วง REM เฟสเป็นวิธีการทดลอง พบการรายงานฝัน ; 80% ของ neurotypical ผู้คนสามารถให้บางชนิดของฝันรายงานภายใต้สถานการณ์เหล่านี้[ 44 ] ผู้หลับใหลตื่นจากเรมมักจะให้ยาวมากขึ้นอธิบายเรื่องเล่าจากความฝันที่พวกเขาเคยประสบ และประเมินระยะเวลาในความฝันของพวกเขาเป็นอีกต่อไป . [ 8 ] [ 45 ] Lucid ฝันยังไกลบ่อยในการนอนหลับ REM [ 46 ] ( ในความเป็นจริงเหล่านี้อาจจะถือว่าเป็นรัฐรวมองค์ประกอบไฮบริด ที่สำคัญของ REM การนอนหลับและตื่นฟื้น) [ 8 ] จิตเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างเร็มที่สุด มักมีความฝันรวมถึงการออกแบบโครงสร้างการเล่าเรื่อง convincingness ( จากประสบการณ์ เหมือนปลุกชีวิต ) และการประสานรูปแบบ instinctual [ 8 ]

ฮอบสัน และแมคคาเลย์เสนอว่า pgo คลื่นลักษณะของ " phasic " REM อาจจัดหาเยื่อหุ้มสมองภาพและสมองส่วนหน้ากับไฟฟ้าความตื่นเต้นซึ่งขยายด้าน hallucinatory ฝัน [ 11 ] [ 16 ] แต่คนตื่นในระหว่างการนอนหลับไม่รายงานอย่างประหลาด ความฝันใน phasic rems เมื่อเทียบกับยา rems .[ 45 ] อีกเป็นไปได้ที่ความสัมพันธ์ระหว่างสองปรากฏการณ์อาจจะสูงกว่าเกณฑ์ที่การหยุดชะงักในระหว่างการนอนหลับ REM ช่วยให้สมองที่จะเดินทางต่อไปที่สมจริงและรถไฟแปลกคิดว่า [ 45 ]

บางฝันสามารถเกิดขึ้นในระหว่างการนอนหลับ REM ที่ไม่ใช่ . " หมอน " แสงสามารถประสบการณ์ฝันในช่วงระยะที่ 2 ที่ไม่ใช่การนอนหลับ REM , ในขณะที่ " หมอน " ลึก