Dependency culture that extols empa

Dependency culture that extols empathy must tolerate or even promote dependency, since an empathetic actor need a dependent partner and vice versa. Indeed, empathy and dependency stimulate and sustain each other. The Japanese have a variety of commonly used idiomatic phrases expressing dependency or helplessness. Among them are: Otanomi shimasu (“I am asking you,” or “I depend upon you”). When strangers are introduced to each other, they say, “Toroshiku onegai shimasu,” which is equivalent to “How do you do?” but coveys the future dependency of the greeters on each other. Asked “How are you?” conversationally minded Japanese is likely to answer “Okagesamade,” literally meaning “Thank to your protection or benevolence” which may or may not be followed by “I am well” The Japanese concept of dependency should not be understood as implying unilateral passive reliance upon another without reciprocal exchange. The right to be dependent must be “bought” by acts fulfilling obligations or by making concessions. We are still within the framework of social relativism.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัฒนธรรมพึ่งพาที่ extols เอาใจใส่ต้องทน หรือแม้แต่ส่งเสริมพึ่งพา เนื่องจากนักแสดง empathetic เป็นการอ้างอิงคู่ค้าทางระหว่าง แน่นอน เอาใจใส่และขึ้นต่อกันกระตุ้น และรักษากัน ญี่ปุ่นมีหลากหลายวลีสำนวนที่ใช้ทั่วไปที่แสดงอ้างอิงหรือ helplessness เหล่าหมู่: Otanomi shimasu ("ฉันฉันขอให้คุณ" หรือ "ฉันขึ้นอยู่กับคุณ") เมื่อคนแปลกหน้าจะนำมาใช้กัน ว่า "Toroshiku onegai shimasu ซึ่งจะเท่ากับ"ไง "แต่ coveys อ้างอิงในอนาคตของ greeters กัน ถาม "ซำบายดีบ๊อ" ญี่ปุ่น conversationally ราคามีแนวโน้มที่จะตอบ "Okagesamade หมายถึง "ขอขอบคุณคุณป้องกันหรือเมตตา"ซึ่งอาจ หรืออาจไม่เป็นไปตาม"ฉันดี"อย่างแท้จริงไม่ควรเข้าใจญี่ปุ่นแนวคิดของการอ้างอิงเป็นหน้าที่พึ่งฝ่ายแฝงขึ้นอีกโดยไม่มีการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน สิทธิที่จะได้ขึ้นต้อง "ซื้อ" โดยดำเนินการตามภาระผูกพันของกิจการ หรือทำสัมปทาน เราจะยังคงอยู่ภายในกรอบของสังคม relativism

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัฒนธรรมการพึ่งพาที่จ้วงเอาใจใส่ต้องทนหรือแม้กระทั่งการส่งเสริมการพึ่งพาตั้งแต่นักแสดงความเห็นอกเห็นใจคนที่ต้องขึ้นและในทางกลับกัน อันที่จริงการเอาใจใส่และการพึ่งพากระตุ้นและสนับสนุนซึ่งกันและกัน ญี่ปุ่นมีความหลากหลายของที่ใช้กันทั่วไปวลีสำนวนแสดงอ้างอิงหรือทำอะไรไม่ถูก ในหมู่พวกเขา: Otanomi shimasu ("ผมขอให้คุณ" หรือ "ผมขึ้นอยู่กับคุณ") เมื่อคนแปลกหน้าได้รับการแนะนำให้รู้จักกับแต่ละอื่น ๆ พวกเขาพูดว่า "Toroshiku onegai shimasu" ซึ่งเทียบเท่ากับ "คุณจะทำอย่างไร?" แต่ COVEYS พึ่งพาในอนาคตของการต้อนรับในแต่ละอื่น ๆ ถามว่า "คุณเป็นอย่างไร?" ใจ conversationally ญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะตอบ "Okagesamade" หมายตามตัวอักษร "ขอบคุณกับการคุ้มครองหรือความเมตตากรุณาของคุณ" ซึ่งจะหรืออาจจะไม่อาจจะตามมาด้วย "ผมเป็นอย่างดี" แนวคิดของการพึ่งพาญี่ปุ่นไม่ควรจะเข้าใจ ความได้ว่าความเชื่อมั่นเรื่อย ๆ ข้างเดียวที่ซ้อนทับกันโดยไม่ต้องแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน สิทธิที่จะขึ้นอยู่กับจะต้องมีการ "ซื้อ" จากการกระทำการปฏิบัติตามพันธกรณีหรือโดยการทำสัมปทาน เรายังคงอยู่ในกรอบของสังคม relativism

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การ extols วัฒนธรรมที่ต้องอดทน หรือแม้แต่การส่งเสริมการพึ่งพา ตั้งแต่นักแสดง empathetic ต้องการผู้ร่วมงาน และในทางกลับกัน จริงๆ เอาใจใส่ และการกระตุ้น และสนับสนุนซึ่งกันและกัน ญี่ปุ่นมีหลากหลายสำนวนวลีที่ใช้แสดงการอ้างอิงหรือหมดหนทาง . ในหมู่พวกเขา : otanomi shimasu ( " ผมถามเธอ " หรือ " ฉันขึ้นอยู่กับคุณ " )เมื่อคนแปลกหน้าจะแนะนำให้รู้จักกับแต่ละอื่น ๆ พวกเขากล่าวว่า " toroshiku onegai shimasu " ซึ่งเทียบเท่ากับ " คุณจะทำอย่างไร ? " แต่ coveys พึ่งพาอนาคตของ , จีนในแต่ละอื่น ๆ ถามว่า " คุณเป็นอย่างไร ? " Conversationally ใจญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะตอบ okagesamade " ," อักษรความหมาย " ขอบคุณของคุณป้องกันหรือความเมตตากรุณา " ซึ่งอาจจะหรืออาจจะตามด้วยคำว่า " ผม " แนวคิดของญี่ปุ่นพึ่งพาไม่ควรจะเข้าใจได้ว่าฝ่ายเดียวการเรื่อยๆขึ้นอีกโดยไม่มีการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน ที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับต้อง " ซื้อ " ด้วยการกระทำตามภาระหน้าที่ หรือให้สัมปทานเรายังอยู่ในกรอบของสัมพัทธนิยมทางสังคม