BCS theory is the first microscopic

BCS theory is the first microscopic theory of superconductivity since its discovery in 1911. The theory describes superconductivity as a microscopic effect caused by a condensation of Cooper pairs into a boson-like state. The theory is also used in nuclear physics to describe the pairing interaction between nucleons in an atomic nucleus. It was proposed by John Bardeen, Leon Cooper, and John Robert Schrieffer ("BCS") in 1957; they received the Nobel Prize in Physics for this theory in 1972.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทฤษฎี BCS เป็นสภาพตัวนำยิ่งยวดด้วยกล้องจุลทรรศน์ทฤษฎีแรกตั้งแต่การค้นพบใน 1911 ทฤษฎีที่อธิบายสภาพตัวนำยิ่งยวดเป็นผลด้วยกล้องจุลทรรศน์ที่เกิดจากการควบแน่นของคู่คูเปอร์เข้าสู่สถานะเหมือนโบซอน ยังได้ใช้ในนิวเคลียร์ฟิสิกส์ทฤษฎีเพื่ออธิบายการโต้ตอบจับคู่ระหว่าง nucleons ในนิวเคลียสเป็นอะตอม มีการนำเสนอ โดยจอห์นบาร์ดีน ลีออนคูเปอร์ จอห์นโรเบิร์ตชริฟเฟอร์ ("BCS") ใน 1957 ได้รับรางวัลโนเบลในสาขาฟิสิกส์สำหรับทฤษฎีนี้ในการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทฤษฎี BCS เป็นทฤษฎีกล้องจุลทรรศน์แรกของ superconductivity ตั้งแต่การค้นพบในปี 1911 ทฤษฎีอธิบาย superconductivity เป็นผลที่เกิดจากกล้องจุลทรรศน์การรวมตัวของคู่คูเปอร์เป็นรัฐ boson เหมือน ทฤษฎีนี้ยังใช้ในฟิสิกส์นิวเคลียร์เพื่ออธิบายการทำงานร่วมกันการจับคู่ระหว่างนิวคลีออในนิวเคลียส มันเป็นข้อเสนอโดยจอห์น Bardeen, ลีอองคูเปอร์และจอห์นโรเบิร์ต Schrieffer ("BCS") ในปี 1957; พวกเขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ทฤษฎีนี้ในปี 1972

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทฤษฎี BCS เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การค้นพบทางทฤษฎีสภาพนำยวดยิ่งใน 1911 ทฤษฎีสภาพนำยวดยิ่งเป็นกล้องจุลทรรศน์ อธิบายผลที่เกิดจากการควบแน่นของคูเปอร์คู่เป็นโบซอน เหมือนรัฐ ทฤษฎีนี้ยังใช้ในฟิสิกส์อธิบายการปฏิสัมพันธ์ระหว่างนินจุตสุในนิวเคลียสของอะตอม . มันถูกเสนอโดยจอห์น บาร์ดีน ลีออนคูเปอร์และ จอห์น โรเบิร์ต schrieffer ( BCS ) ในปี 1957 ; พวกเขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ทฤษฎีนี้ในปี