BackgroundObesity is one of today?s

Background

Obesity is one of today?s major public health problems in both developed and developing countries. In 2005 there were around 400 million obese adults; this number is estimated to reach one billion by the year 2030 [1]. Reports from the Middle East [2] and Saudi Arabia [3] suggested similar burden of obesity epidemic. The prevalence of overweight and obesity is higher among women, with an estimated prevalence of 63% in the reproductive age group [3] and more than 50% among pregnant women [4]. Obesity in pregnancy is a recognized risk factor for many maternal and neonatal adverse outcomes including increased rate of cesarean section (CS), macrosomia, preeclampsia and gestational diabetes (GDM) [5, 6, 7].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พื้นหลังโรคอ้วนเป็นหนึ่งในวันนี้? s ปัญหาสำคัญทั้งพัฒนาและประเทศกำลังพัฒนา ในปี 2005 มีประมาณ 400 ล้านผู้ใหญ่อ้วน หมายเลขนี้คือประมาณถึงหนึ่งพันล้าน โดยปี 2030 [1] รายงานจากตะวันออกกลาง [2] และซาอุดิอาระเบีย [3] แนะนำคล้ายภาระของการระบาดของโรคอ้วน ความชุกของการมีน้ำหนักเกินและโรคอ้วนมีสูงขึ้นในผู้หญิง มีมีความชุกประมาณ 63% ในกลุ่มอายุเจริญพันธุ์ [3] และมากกว่า 50% ในหญิงตั้งครรภ์ [4] โรคอ้วนในหญิงตั้งครรภ์เป็นปัจจัยเสี่ยงที่รู้จักหลายมารดา และทารกแรกเกิดผลผลรวมอัตราเพิ่มของการคลอด (CS), macrosomia, preeclampsia และโรคเบาหวานครรภ์ (GDM) [5, 6, 7]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พื้นหลังโรคอ้วนเป็นหนึ่งในปัจจุบันปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญทั้งในการพัฒนาและประเทศกำลังพัฒนา ในปี 2005 มีประมาณ 400 ล้านผู้ใหญ่อ้วน; ตัวเลขนี้คาดว่าจะถึงหนึ่งพันล้านในปี 2030 [1] รายงานจากตะวันออกกลาง [2] และซาอุดีอาระเบีย [3] แนะนำภาระที่คล้ายกันของระบาดของโรคอ้วน ความชุกของภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนจะสูงกว่าในกลุ่มผู้หญิงที่มีความชุกประมาณ 63% ในกลุ่มวัยเจริญพันธุ์ [3] และกว่า 50% ในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ [4] โรคอ้วนในการตั้งครรภ์เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ยอมรับสำหรับผลที่ไม่พึงประสงค์หลายมารดาและทารกแรกเกิดรวมทั้งอัตราการเพิ่มขึ้นของการผ่าตัดคลอด (CS) macrosomia, preeclampsia และเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (GDM) [5, 6, 7]