ข้อเสียของการแต่งหน้าผู้หญิงหลายคนค

ข้อเสียของการแต่งหน้า
ผู้หญิงหลายคนคงคิดว่าการแต่งหน้ามีผลดีทำให้หน้าตาดูสวยแต่ไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะตามมาภายหลังเราลองมาดูว่าการแต่งหน้ามีผลเสียอะไรบ้าง
การ ใช้รองพื้นปกปิดริ้วรอยหนาเกินไป หลายคนเชื่อว่าการใช้รองพื้นหนาโดยเฉพาะส่วนที่มีริ้วรอย จะช่วยปกปิดริ้วรอยได้มิดชิด แต่รู้ไหมว่า การทารองพื้นหนา ๆ จะช่วยทำให้มองไม่เห็นกระ จุดด่างดำ และรอยสิวก็จริง แต่มันก็เป็นสิ่งที่เพิ่มอายุคุณได้หลายปี เพราะมันจะไปช่วยเน้นให้เห็นรอยย่น และริ้วรอยบนใบหน้าให้เห็นชัดขึ้น โดยเฉพาะเวลาที่คุณยิ้ม เรียกว่าชัดยิ่งกว่าไม่แต่งหน้าซะอีก

การ ใช้คอนซีลเลอร์ทาบริเวณใต้ตาหลายชั้น เพื่อปกปิดรอยคล้ำ บริเวณใต้ดวงตา แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ได้ช่วยปกปิดเท่าไหร่หรอก มันก็แค่ทำให้รอยคล้ำดูสว่างขึ้นเล็กน้อย และบางคนก็ทำให้ผิวใต้ตากลายเป็นสีเทา ๆ ไปเลย นอกจากนี้ยังทำให้เห็นรอยย่นใต้ตาอีก

การปัดมาสคาราหนาเตอะ และยาว เชื่อไหมว่าขนตาที่ถูกเน้นให้หนาและยาวไปพร้อม ๆ กัน จะทำให้หน้าคุณดูแกขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะถ้าเป็นมาสคาราที่ปัดแล้ว ขนตาดูแห้ง ตรง ไม่มีชีวิตชีวา นอกจากจะไม่เป็นธรรมชาติแล้ว ยังทำให้คุณดูมีอายุขึ้นอีกด้วย ดังนั้นจึงควรปัดมาสคาราโดยเน้นอย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้าไม่หนาก็ยาวเล็กน้อย แต่อย่าให้ดูเกินจริงมากไปก็พอ

การทาปากด้วยเนื้อลิป ไม่ว่าจะสีทอง สีส้ม สีแดง เนื้อลิปสติกแบบนี้ควรใช้ในงานแสดงโชว์ หรืองานแฟชั่นเท่านั้น ไม่ควรนำมาทาในชีวิตประจำวัน เพราะมันจะทำให้ดูมีอายุขึ้นหลายปี

การทาปากแดง แม้จะเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรง แต่ถ้าหากผิวคุณไม่สว่าง ขาว หรือเหลืองขาวจริง ๆ ไม่เหมาะกับลิปสติกสีนี้เลย เพราะมันจะเพิ่มอายุคุณได้อย่างไม่น่าเชื่อ

การทาแก้มแดงเป็นวง หรือชมพูเกินจริง นอกจากจะทำให้คุณดูไม่เป็นธรรมชาติแล้ว ยังปิดผิวอันสว่างใสไปหมด และทำให้ใบหน้าขาดความโดดเด่น เพราะลิปสติกที่เป็นสีสันอยู่แล้ว อายชาโดว์ และคิ้ว ทุกอย่างแย่งซีนกันโดดเด่น จนดูหนัก และแน่นอน ดูมีอายุขึ้นมากเลยด้วย

การถอนขนคิ้วมากเกินไป จนทำให้คิ้วเรียวบางเป็นเส้นเหมือนใช้ดินสอเขียนซะอย่างนั้น แถมยังดูเหมือนคนมีอายุที่คิ้วเริ่มหายไปเรื่อย ดังนั้นจึงควรเลี่ยงการถอนคิ้วมากเกินไป เอาพอสวยรับกับใบหน้า และเป็นธรรมชาติก็พอ

การทาแป้งหนา จริง ๆ แล้วการทาแป้งแบบนี้ควรจะใช้คำว่าโบก หรือพอกซะด้วยซ้ำไป เพราะมันหนาเสียจนทำให้มองไม่เห็นสภาพผิวที่แท้จริงกันเลยทีเดียว ซึ่งนี่ล่ะที่ทำให้พลาดมานักต่อนักแล้ว เพราะมันจะยิ่งเน้นริ้วรอยให้เห็นเด่นชัดกว่าการรองพื้นหนาซะอีก เพราะแป้งเป็นเครื่องสำอางเนื้อแห้งนั่นเอง ดังนั้นจึงควรทาแป้งให้พอประมาณ ยิ่งถ้าคุณลงรองพื้นและคอนซีลเลอร์ไปแล้วล่ะก็ ควรลงแป้งให้บางที่สุดเท่าที่จะทำได้เลย

เห็นไหมล่ะว่า การแต่งหน้าที่ดีและทำให้เราดูสวย ไม่ดูมีอายุนั้น ไม่ได้หมายถึงการใช้เครื่องสำอางในปริมาณที่มาก ๆ เลย แต่คือการที่ใช้เครื่องสำอางแต่ละประเภทให้ตรงจุด และใช้ในปริมาณน้อยที่สุด แต่รู้จักเล่นสีสันต่างหาก ดังนั้น หาก คนไหนยังคงเผลอทำพฤติกรรมทำให้หน้าดูมีอายุอย่างที่ว่ามานี้ ก็เลิกทำแล้วหันมาแต่งหน้าให้ถูกวิธี เพียงเท่านี้ เราก็จะได้ผลดีจากการแต่งหน้าแล้ว

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ข้อเสียของการแต่งหน้า
ผู้หญิงหลายคนคงคิดว่าการแต่งหน้ามีผลดีทำให้หน้าตาดูสวยแต่ไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะตามมาภายหลังเราลองมาดูว่าการแต่งหน้ามีผลเสียอะไรบ้าง
ตามหลักใช้รองพื้นปกปิดริ้วรอยหนาเกินไปหลายคนเชื่อว่าการใช้รองพื้นหนาโดยเฉพาะส่วนที่มีริ้วรอยจะช่วยปกปิดริ้วรอยได้มิดชิดแต่รู้ไหมว่าการทารองพื้นหนาๆ จะช่วยทำให้มองไม่เห็นกระจุดด่างดำและรอยสิวก็จริง เพราะมันจะไปช่วยเน้นให้เห็นรอยย่นและริ้วรอยบนใบหน้าให้เห็นชัดขึ้นโดยเฉพาะเวลาที่คุณยิ้มเรียกว่าชัดยิ่งกว่าไม่แต่งหน้าซะอีก

ตามหลักใช้คอนซีลเลอร์ทาบริเวณใต้ตาหลายชั้นเพื่อปกปิดรอยคล้ำบริเวณใต้ดวงตาแต่จริงๆ แล้วมันไม่ได้ช่วยปกปิดเท่าไหร่หรอกมันก็แค่ทำให้รอยคล้ำดูสว่างขึ้นเล็กน้อยและบางคนก็ทำให้ผิวใต้ตากลายเป็นสีเทาๆ ไปเลย
การปัดมาสคาราหนาเตอะและยาวเชื่อไหมว่าขนตาที่ถูกเน้นให้หนาและยาวไปพร้อมๆ กันจะทำให้หน้าคุณดูแกขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อโดยเฉพาะถ้าเป็นมาสคาราที่ปัดแล้วขนตาดูแห้งตรงไม่มีชีวิตชีวา ยังทำให้คุณดูมีอายุขึ้นอีกด้วยดังนั้นจึงควรปัดมาสคาราโดยเน้นอย่างใดอย่างหนึ่งถ้าไม่หนาก็ยาวเล็กน้อยแต่อย่าให้ดูเกินจริงมากไปก็พอ

การทาปากด้วยเนื้อลิปไม่ว่าจะสีทองสีส้มสีแดงเนื้อลิปสติกแบบนี้ควรใช้ในงานแสดงโชว์หรืองานแฟชั่นเท่านั้นไม่ควรนำมาทาในชีวิตประจำวันเพราะมันจะทำให้ดูมีอายุขึ้นหลายปี

การทาปากแดงแม้จะเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงแต่ถ้าหากผิวคุณไม่สว่างขาวหรือเหลืองขาวจริงๆ ไม่เหมาะกับลิปสติกสีนี้เลยเพราะมันจะเพิ่มอายุคุณได้อย่างไม่น่าเชื่อ

การทาแก้มแดงเป็นวงหรือชมพูเกินจริงนอกจากจะทำให้คุณดูไม่เป็นธรรมชาติแล้วยังปิดผิวอันสว่างใสไปหมดและทำให้ใบหน้าขาดความโดดเด่นเพราะลิปสติกที่เป็นสีสันอยู่แล้วอายชาโดว์และคิ้ว จนดูหนักและแน่นอนดูมีอายุขึ้นมากเลยด้วย

การถอนขนคิ้วมากเกินไปจนทำให้คิ้วเรียวบางเป็นเส้นเหมือนใช้ดินสอเขียนซะอย่างนั้นแถมยังดูเหมือนคนมีอายุที่คิ้วเริ่มหายไปเรื่อยดังนั้นจึงควรเลี่ยงการถอนคิ้วมากเกินไปเอาพอสวยรับกับใบหน้า
การทาแป้งหนาจริงๆ แล้วการทาแป้งแบบนี้ควรจะใช้คำว่าโบกหรือพอกซะด้วยซ้ำไปเพราะมันหนาเสียจนทำให้มองไม่เห็นสภาพผิวที่แท้จริงกันเลยทีเดียวซึ่งนี่ล่ะที่ทำให้พลาดมานักต่อนักแล้ว เพราะแป้งเป็นเครื่องสำอางเนื้อแห้งนั่นเองดังนั้นจึงควรทาแป้งให้พอประมาณยิ่งถ้าคุณลงรองพื้นและคอนซีลเลอร์ไปแล้วล่ะก็ควรลงแป้งให้บางที่สุดเท่าที่จะทำได้เลย

เห็นไหมล่ะว่าการแต่งหน้าที่ดีและทำให้เราดูสวยไม่ดูมีอายุนั้นไม่ได้หมายถึงการใช้เครื่องสำอางในปริมาณที่มากๆ เลยแต่คือการที่ใช้เครื่องสำอางแต่ละประเภทให้ตรงจุดและใช้ในปริมาณน้อยที่สุด ดังนั้นหากคนไหนยังคงเผลอทำพฤติกรรมทำให้หน้าดูมีอายุอย่างที่ว่ามานี้ก็เลิกทำแล้วหันมาแต่งหน้าให้ถูกวิธีเพียงเท่านี้เราก็จะได้ผลดีจากการแต่งหน้าแล้ว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ใช้รองพื้นปกปิดริ้วรอยหนาเกินไป จะช่วยปกปิดริ้วรอยได้มิดชิด แต่รู้ไหมว่าการทารองพื้นหนา ๆ จะช่วยทำให้มองไม่เห็นกระจุดด่างดำและรอยสิวก็จริง เพราะมันจะไปช่วยเน้นให้เห็นรอยย่นและริ้วรอยบนใบหน้าให้เห็นชัดขึ้นโดยเฉพาะเวลาที่คุณยิ้ม เพื่อปกปิดรอยคล้ำบริเวณใต้ดวงตา แต่จริง ๆ ๆ ไปเลย และยาว ๆ กัน โดยเฉพาะถ้าเป็นมาสคาราที่ปัดแล้วขนตาดูแห้งตรงไม่มีชีวิตชีวานอกจากจะไม่เป็นธรรมชาติแล้วยังทำให้คุณดูมีอายุขึ้นอีกด้วย ถ้าไม่หนาก็ยาวเล็กน้อย ไม่ว่าจะสีทองสีส้มสีแดง หรืองานแฟชั่นเท่านั้นไม่ควรนำมาทาในชีวิตประจำวัน แม้จะเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรง แต่ถ้าหากผิวคุณไม่สว่างขาวหรือเหลืองขาวจริง ๆ ไม่เหมาะกับลิปสติกสีนี้เลย หรือชมพูเกินจริง ยังปิดผิวอันสว่างใสไปหมดและทำให้ใบหน้าขาดความโดดเด่นเพราะลิปสติกที่เป็นสีสันอยู่แล้วอายชาโดว์และคิ้วทุกอย่างแย่งซีนกันโดดเด่นจนดูหนักและแน่นอน เอาพอสวยรับกับใบหน้าและเป็นธรรมชาติก็พอทาแป้งหนาจริง ๆ การ หรือพอกซะด้วยซ้ำไป ดังนั้นจึงควรทาแป้งให้พอประมาณ การแต่งหน้าที่ดีและทำให้เราดูสวยไม่ดูมีอายุนั้น ๆ เลย และใช้ในปริมาณน้อยที่สุด แต่รู้จักเล่นสีสันต่างหากดังนั้นหาก เพียงเท่านี้เราก็จะได้ผลดีจากการแต่งหน้าแล้ว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ข้อเสียของการแต่งหน้า

ผู้หญิงหลายคนคงคิดว่าการแต่งหน้ามีผลดีทำให้หน้าตาดูสวยแต่ไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะตามมาภายหลังเราลองมาดูว่าการแต่งหน้ามีผลเสียอะไรบ้างการใช้รองพื้นปกปิดริ้วรอยหนาเกินไปหลายคนเชื่อว่าการใช้รองพื้นหนาโดยเฉพาะส่วนที่มีริ้วรอยจะช่วยปกปิดริ้วรอยได้มิดชิดแต่รู้ไหมว่าการทารองพื้นหนาจะจะช่วยทำให้มองไม่เห็นกระจุดด่างดำและรอยสิวก็จริงเพราะมันจะไปช่วยเน้นให้เห็นรอยย่นและริ้วรอยบนใบหน้าให้เห็นชัดขึ้นโดยเฉพาะเวลาที่คุณยิ้มเรียกว่าชัดยิ่งกว่าไม่แต่งหน้าซะอีก

การใช้คอนซีลเลอร์ทาบริเวณใต้ตาหลายชั้นเพื่อปกปิดรอยคล้ำบริเวณใต้ดวงตาแต่จริงจะแล้วมันไม่ได้ช่วยปกปิดเท่าไหร่หรอกมันก็แค่ทำให้รอยคล้ำดูสว่างขึ้นเล็กน้อยและบางคนก็ทำให้ผิวใต้ตากลายเป็นสีเทาจะไปเลย
การปัดมาสคาราหนาเตอะและยาวเชื่อไหมว่าขนตาที่ถูกเน้นให้หนาและยาวไปพร้อมไม่มี ' จะทำให้หน้าคุณดูแกขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อโดยเฉพาะถ้าเป็นมาสคาราที่ปัดแล้วขนตาดูแห้งตรงไม่มีชีวิตชีวายังทำให้คุณดูมีอายุขึ้นอีกด้วยดังนั้นจึงควรปัดมาสคาราโดยเน้นอย่างใดอย่างหนึ่งถ้าไม่หนาก็ยาวเล็กน้อยแต่อย่าให้ดูเกินจริงมากไปก็พอ

การทาปากด้วยเนื้อลิปไม่ว่าจะสีทองสีส้มสีแดงเนื้อลิปสติกแบบนี้ควรใช้ในงานแสดงโชว์หรืองานแฟชั่นเท่านั้นไม่ควรนำมาทาในชีวิตประจำวันเพราะมันจะทำให้ดูมีอายุขึ้นหลายปี

การทาปากแดงแม้จะเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงแต่ถ้าหากผิวคุณไม่สว่างขาวหรือเหลืองขาวจริงจะไม่เหมาะกับลิปสติกสีนี้เลยเพราะมันจะเพิ่มอายุคุณได้อย่างไม่น่าเชื่อ

การทาแก้มแดงเป็นวงหรือชมพูเกินจริงนอกจากจะทำให้คุณดูไม่เป็นธรรมชาติแล้วยังปิดผิวอันสว่างใสไปหมดและทำให้ใบหน้าขาดความโดดเด่นเพราะลิปสติกที่เป็นสีสันอยู่แล้วอายชาโดว์และคิ้วจนดูหนักและแน่นอนดูมีอายุขึ้นมากเลยด้วย

การถอนขนคิ้วมากเกินไปจนทำให้คิ้วเรียวบางเป็นเส้นเหมือนใช้ดินสอเขียนซะอย่างนั้นแถมยังดูเหมือนคนมีอายุที่คิ้วเริ่มหายไปเรื่อยดังนั้นจึงควรเลี่ยงการถอนคิ้วมากเกินไปเอาพอสวยรับกับใบหน้า
การทาแป้งหนาจริงจะแล้วการทาแป้งแบบนี้ควรจะใช้คำว่าโบกหรือพอกซะด้วยซ้ำไปเพราะมันหนาเสียจนทำให้มองไม่เห็นสภาพผิวที่แท้จริงกันเลยทีเดียวซึ่งนี่ล่ะที่ทำให้พลาดมานักต่อนักแล้วเพราะแป้งเป็นเครื่องสำอางเนื้อแห้งนั่นเองดังนั้นจึงควรทาแป้งให้พอประมาณยิ่งถ้าคุณลงรองพื้นและคอนซีลเลอร์ไปแล้วล่ะก็ควรลงแป้งให้บางที่สุดเท่าที่จะทำได้เลย

เห็นไหมล่ะว่าการแต่งหน้าที่ดีและทำให้เราดูสวยไม่ดูมีอายุนั้นไม่ได้หมายถึงการใช้เครื่องสำอางในปริมาณที่มากจะเลยแต่คือการที่ใช้เครื่องสำอางแต่ละประเภทให้ตรงจุดและใช้ในปริมาณน้อยที่สุดดังนั้นหากคนไหนยังคงเผลอทำพฤติกรรมทำให้หน้าดูมีอายุอย่างที่ว่ามานี้ก็เลิกทำแล้วหันมาแต่งหน้าให้ถูกวิธีเพียงเท่านี้เราก็จะได้ผลดีจากการแต่งหน้าแล้ว