ข้อดีของ Big five ก็คือ จำนวนข้อน้อย มีประมาณ 50 ข้อ และคำตอบจะมีให้เลือก 5 ระดับ คือ strongly disagree, disagree, neither disagree nor agree, agree, strongly agree และแบ่งบุคลิกภาพของผู้ใช้แบบทดสอบได้ชัดเจน เป็น 5 กลุ่ม ซึ่งคล้ายกับทฤษฎีบุคลิกภาพของจุง และ ทฤษฎีการวัดบุคลิกภาพแบบ Eysenck ถ้าเรามีความเข้าใจในทฤษฎีมากเท่าไหร่ ก็จะเป็นประโยชน์ในการนำไปใช้คัดเลือกตำแหน่งงานที่เหมาะสม