การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงทดล

การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงทดลอง (Experimental Study) ศึกษาองค์ประกอบทางเคมี สารประกอบฟีนอลิก และฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในผลิตภัณฑ์กาแฟถั่วเหลือง 3 สายพันธุ์ ได้แก่ กาแฟถั่วเหลืองสายพันธุ์ สจ.5, เชียงใหม่ 60 และเชียงใหม่ 84-2 โดยใช้อุณหภูมิในการคั่ว 230 องศาเซลเซียส ในระยะเวลาที่แตกต่างกัน คือ คั่วอ่อนใช้เวลา 12 นาที คั่วกลางใช้เวลา 15 นาที และคั่วเข้มใช้เวลา 17 นาที
ผลการทดลอง พบว่า เมื่อเวลาในการคั่วเพิ่มขึ้น ทำให้เปอร์เซ็นต์ความชื้น, เถ้า และโปรตีนลดลง แต่เปอร์เซ็นต์ไขมัน และคาร์โบไฮเดรตเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้น โดยกาแฟถั่วเหลืองสายพันธุ์ เชียงใหม่ 60 จะมีเปอร์เซ็นต์คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมันสูง สำหรับการศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระด้วยวิธี DPPH และ FRAP assay พบว่า ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในผลิตภัณฑ์กาแฟถั่วเพิ่มขึ้นตามเวลาในการคั่ว และการศึกษาปริมาณสารประกอบฟีนอลิก ด้วยวิธี Folin - Ciocalteu colorimetric พบว่า ปริมาณสารประกอบฟีนอลิกเพิ่มขึ้นตามเวลาในการคั่วด้วย
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าเวลาในการคั่วเพิ่มขึ้นทำให้สารอาหารบางตัวในกาแฟถั่วเหลืองเพิ่มขึ้น และฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้น โดยสูตรกาแฟสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการสารอาหารประเภท คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมันสูง คือ กาแฟถั่วเหลืองสายพันธุ์ เชียงใหม่ 60 คั่วนาน 17 นาที
มีพลังงานสูงที่สุด คิดเป็น 449 กิโลแคลอรี่ต่อ 100 กรัม และถ้าบริโภคกาแฟ 2 ช้อนชา ต่อ กาแฟ
1 แก้ว จะให้พลังงาน 25 กิโลแคลอรี่ต่อกรัม และสูตรกาแฟสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการสารต้านอนุมูลอิสระ คือ กาแฟถั่วเหลืองสายพันธุ์ เชียงใหม่ 84-2 คั่วนาน 17 นาที

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงทดลอง (ศึกษา) ศึกษาองค์ประกอบทางเคมีสารประกอบฟีนอลิกและฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในผลิตภัณฑ์กาแฟถั่วเหลือง 3 สายพันธุ์ได้แก่กาแฟถั่วเหลืองสายพันธุ์ สจ.5 เชียงใหม่ 60 และเชียงใหม่ 84-2 โดยใช้อุณหภูมิในการคั่ว 230 องศาเซลเซียสในระยะเวลาที่แตกต่างกันคือคั่วอ่อนใช้เวลา 12 นาทีคั่วกลางใช้เวลา 15 นาทีและคั่วเข้มใช้เวลา 17 นาที
ผลการทดลองพบว่าเมื่อเวลาในการคั่วเพิ่มขึ้นทำให้เปอร์เซ็นต์ความชื้น เถ้าและโปรตีนลดลงแต่เปอร์เซ็นต์ไขมันและคาร์โบไฮเดรตเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นโดยกาแฟถั่วเหลืองสายพันธุ์เชียงใหม่ 60 จะมีเปอร์เซ็นต์คาร์โบไฮเดรตโปรตีนและไขมันสูงสำหรับการศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระด้วยวิธี DPPH FRAP assay พบว่าฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในผลิตภัณฑ์กาแฟถั่วเพิ่มขึ้นตามเวลาในการคั่วและการศึกษาปริมาณสารประกอบฟีนอลิกด้วยวิธี Folin - Ciocalteu เคียงพบว่าปริมาณสารประกอบฟีนอลิกเพิ่มขึ้นตามเวลาในการคั่วด้วย
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าเวลาในการคั่วเพิ่มขึ้นทำให้สารอาหารบางตัวในกาแฟถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นและฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้นโดยสูตรกาแฟสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตโปรตีนและไขมันสูง กาแฟถั่วเหลืองสายพันธุ์เชียงใหม่ 60 นาทีคั่วนาน 17
มีพลังงานสูงที่สุดคิดเป็น 449 กิโลแคลอรี่ต่อ 100 กรัมและถ้าบริโภคกาแฟ 2 ช้อนชาต่อกาแฟ
1 แก้วจะให้พลังงาน 25 กิโลแคลอรี่ต่อกรัมและสูตรกาแฟสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการสารต้านอนุมูลอิสระคือกาแฟถั่วเหลืองสายพันธุ์เชียงใหม่ 84-2 คั่วนาน 17 นาที

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงทดลอง(ทดลองการศึกษา)ศึกษาองค์ประกอบทางเคมีสารประกอบฟีนอลิก และฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในผลิตภัณฑ์กาแฟถั่ว 3 สายพันธุ์ได้แก่กาแฟถั่วเหลืองสายพันธุ์ สจ.5 ,เชียงใหม่ 60 และเชียงใหม่ 84-2 โดยใช้อุณหภูมิในการคั่ว 230 องศาเซลเซียสในระยะเวลาที่แตกต่างกันคือคั่วอ่อนใช้เวลาคั่วกลางใช้เวลา 12 นาที 15 นาที 17 นาทีและคั่วเข้มใช้เวลา
ผลการทดลองพบว่าเมื่อเวลาในการคั่วเพิ่มขึ้นทำให้เปอร์เซ็นต์ความชื้น,เถ้าและโปรตีนลดลงแต่เปอร์เซ็นต์ไขมันและคาร์โบไฮเดรตเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นโดยกาแฟถั่วเหลืองสายพันธุ์เชียงใหม่ 60 จะมีเปอร์เซ็นต์คาร์โบไฮเดรตโปรตีนและไขมันสูงสำหรับการศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระด้วยวิธี dpphfrap สอบพบว่า ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในผลิตภัณฑ์กาแฟถั่วเพิ และการศึกษาปริมาณสารประกอบฟีนอลิกด้วยวิธี folin - ciocalteu colorimetric พบว่าปริมาณสารประกอบฟีนอลิกเพิ่มขึ้นตามเวลาในกาดังนั้นจะเห็นได้ว่าเวลาในการคั่วเพิ่มขึ้นทและฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้น โดยสูตรกาแฟสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการสารอาห คาร์โบไฮเดรตโปรตีนและไขมันสูงกาแฟถั่วเหลืองสายพันธุ์เชียงใหม่ 60 คั่วนาน 17 นาที
มีพลังงานสูงที่สุดคิดเป็น 449 กิโลแคลอรี่ต่อ และถ้าบริโภคกาแฟ 100 กรัมต่อ 2 ช้อนชากาแฟ
1 แก้วจะให้พลังงาน 25 กิโลแคลอรี่ต่อกรัม และสูตรกาแฟสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการสารต้า กาแฟถั่วเหลืองสายพันธุ์คือเชียงใหม่ 84-2 คั่วนาน 17 นาที