The industries such as textile, pap

The industries such as textile, paper, cosmetic, rubber, food, leather, etc. are the malefactors for polluting the water resources by dumping or by inadvertent discharge of dye contaminated wastewater directly into the water bodies. The water pollution caused not only destructs the aquatic ecosystem but may also result in entry of pollutants into the food chain thus harming the human and other organisms by producing carcinogenic, teratogenic and mutagenic effects. This wastewater from the industries can be treated by number of processes such as adsorption on activated carbon, photo-catalytic degradation in advanced oxidation process , poly-electrolyte promoted osmosis-membrane distillation, nano-filtration, biological treatment , coagulation/flocculation , electrochemical treatment, ozonation , etc. Adsorption of dyes on activated carbon from aqueous solution is the most extensively used technique for wastewater treatment due to its low cost, large surface area, simplistic design, chemical stability, high adsorption capacity and insensitivity towards toxic elements. Several low-cost activated carbon based adsorbents, such as corn, cotton , silkworm cocoon, pine cone , orange peel , rice husk , apricot stone , tea leaves , rubber tires, coconut shell , bamboo culms, jute processing wastes , etc. have been studied in past for treating the wastewater.

The use of renewable feedstock for biodiesel production is gaining popularity due to depletion of fossil fuels as well as the adverse effect of emissions on environment caused from the utilization of fossil fuels. The recent focus is on algae for biodiesel production due to its high photosynthetic efficiency, fast growth and higher biomass output compared to other renewable non-edible feedstocks. However, the high costs of algae cultivation and harvesting make the downstream process of biodiesel production quite expensive. Therefore, the preparation of biochar i.e. activated carbon from residual biomass of algae waste left after the biodiesel production is promising approach for wastewater treatment building and hence, the sustainable pathway for biodiesel from algae. This not only makes the overall process cost-effective but also resolves the problem of solid waste disposal. After lipid extraction from algae biomass by cell disruption and conversion of lipids to biodiesel via transesterification, the remaining biomass contains mainly polysaccharides and proteins which can be converted to activated carbon (biochar). Very few studies in literature are mentioned regarding the physical activation of lipid extracted algae residue for biochar preparation. Biochar has been produced via number of processes using different feedstocks and for different applications. Chan et al., 2011a and Chen et al., 2011b) studied the adsorption of metals, copper and zinc, onto biochar prepared via pyrolysis of hardwood and corn straw . studied the adsorption of lead from water onto biochar derived from hydrothermal liquefaction of pinewood and rice husk. Hossain et al. studied the use of biochar in combination with fertilizer in improving the yield of Hyparrhenia hirta ( Hossain et al., 2015). Andrenelli et al. (2016) reported that the addition of pelletized biochar in soil increases the water retention capacity of soil . López-Cano et al. (2016) studied the advantage of using biochar to increase the composting of olive mill waste .

Congo red dye is extremely water soluble and has strong affinity for cellulose. Due to this, it is majorly used in textile industries to colour wool and silk fabrics with yellow fluorescence and in paper, plastics and printing industries. Due to its complex structure, congo red dye does not biodegrade easily. Moreover, chemically this dye metabolize to benzidine which is a human carcinogen.The literature studies report it as a mutagenic and reproductive effector. It also causes allergic reaction towards skin and gastrointestinal tract. It may also attack and disturb blood clotting factors and respiratory system. Due to these reasons, an attempt was made to adsorb congo red dye from aqueous solution

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อุตสาหกรรมเช่นกระดาษ เครื่องสำอาง ยาง สิ่งทอ อาหาร หนัง ฯลฯ ได้ malefactors สำหรับมลพิษแหล่งน้ำ โดยการทุ่มตลาด หรือไม่ตั้งใจปล่อยน้ำเสียสีย้อมที่ปนเปื้อนลงในแหล่งน้ำโดยตรง มลพิษทางน้ำที่เกิดขึ้นไม่เพียงแต่ destructs ระบบนิเวศทางน้ำ แต่ยังอาจส่งผลในรายการของสารมลพิษเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารจึง ทำร้ายชีวิตมนุษย์ และอื่น ๆ โดยการผลิตผลกระทบ teratogenic สาร และ mutagenic น้ำเสียจากอุตสาหกรรมนี้สามารถรักษาได้ โดยจำนวนของกระบวนการดูดซับบนคาร์บอน ลดภาพตัวเร่งปฏิกิริยาในกระบวนการออกซิเดชันขั้นสูง โพลีอิเล็กโทรไลต์ส่งเสริมกลั่น osmosis-เมมเบรน กรองนาโน บำบัดทางชีวภาพ แข็งตัว/เกาะกลุ่ม ไฟฟ้าเคมีบำบัด กัมมันต์ ฯลฯ ดูดซับสีย้อมบนคาร์บอนละลายเป็นส่วนใหญ่ใช้เทคนิคอย่างกว้างขวางสำหรับบำบัดน้ำเสียเนื่องจากต้นทุนต่ำ ขนาดใหญ่พื้นที่ผิว ออกแบบเรียบง่าย ความเสถียรทางเคมี การดูดซับสูง และต่อต้านไปสู่องค์ประกอบที่เป็นพิษ หลายโลว์คาร์บอนคะแนน adsorbents ข้าวโพด ฝ้าย รังไหม สน เปลือกส้ม แกลบ บ๊วยหิน ใบชา ยางยาง กะลามะพร้าว ไม้ไผ่ culms ปอกระเจาการประมวลผลเสีย ฯลฯ ได้รับการศึกษาในอดีตสำหรับการรักษาน้ำเสียการใช้วัตถุดิบทดแทนสำหรับผลิตไบโอดีเซลได้รับความนิยมเนื่องจากการสูญเสียของเชื้อเพลิงฟอสซิลรวมทั้งผลกระทบของมลพิษสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล เน้นล่าเป็นสาหร่ายสำหรับผลิตไบโอดีเซลเนื่องจากประสิทธิภาพการสังเคราะห์แสงสูง เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และผลผลิตชีวมวลสูงเมื่อเทียบกับวมวล-กินอื่น ๆ ทดแทน อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายสูงของสาหร่ายเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวได้กระบวนการปลายน้ำของการผลิตไบโอดีเซลค่อนข้างแพง ดังนั้น การเตรียมการของเกษตรกรเช่นถ่านจากชีวมวลเหลือทิ้งหลังจากการผลิตไบโอดีเซลเป็นวิธีการแนวโน้มสำหรับอาคารบำบัดน้ำเสียขยะสาหร่าย และด้วยเหตุ นี้ ทางเดินที่ยั่งยืนสำหรับไบโอดีเซลจากสาหร่าย ซึ่งไม่เพียงทำให้โดยรวมคุ้มค่า แต่ยัง แก้ปัญหาของการกำจัดขยะ หลังจากดูดไขมันจากชีวมวลสาหร่ายเซลล์ทรัพยและแปลงไขมันไบโอดีเซลผ่านเพิ่ม ชีวมวลคงเหลือประกอบด้วยส่วนใหญ่ไรด์และโปรตีนซึ่งสามารถแปลงเป็นคาร์บอน (เกษตรกร) การศึกษาน้อยมากในวรรณคดีกล่าวถึงเกี่ยวกับการทำงานทางกายภาพของสารสาหร่ายสกัดไขมันสำหรับเกษตรกรเตรียม เกษตรกรได้ถูกผลิตผ่านทางหมายเลข ของกระบวนการโดยใช้วมวลแตกต่างกัน และ สำหรับการใช้งานที่แตกต่างกัน จัน et al. 2011a และ Chen et al. 2011b) ศึกษาการดูดซับโลหะ ทองแดง และ สังกะสี สู่เกษตรกรเตรียมผ่านไพโรไลซิฟางไม้เนื้อแข็งและข้าวโพด ศึกษาการดูดซับของตะกั่วจากน้ำเกษตรกรมาจาก hydrothermal liquefaction ของไพน์วู้ดและข้าวแกลบ เอ้ et al.ศึกษาการใช้ของเกษตรกรร่วมกับปุ๋ยในการปรับปรุงผลผลิตของ Hyparrhenia hirta (เอ้ et al. 2015) Andrenelli et al. (2016) รายงานว่า การเพิ่มขึ้นของเกษตรกร pelletized ในดินเพิ่มความจุกักเก็บน้ำของดิน ยูโรโซนและกองโน et al. (2016) ศึกษาประโยชน์ของการใช้เกษตรกรในการเพิ่มการสีมะกอกหมักCongo red dye is extremely water soluble and has strong affinity for cellulose. Due to this, it is majorly used in textile industries to colour wool and silk fabrics with yellow fluorescence and in paper, plastics and printing industries. Due to its complex structure, congo red dye does not biodegrade easily. Moreover, chemically this dye metabolize to benzidine which is a human carcinogen.The literature studies report it as a mutagenic and reproductive effector. It also causes allergic reaction towards skin and gastrointestinal tract. It may also attack and disturb blood clotting factors and respiratory system. Due to these reasons, an attempt was made to adsorb congo red dye from aqueous solution

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อุตสาหกรรมเช่นสิ่งทอ, กระดาษ, เครื่องสำอาง, ยาง, อาหาร, หนัง, ฯลฯ เป็นผู้ร้ายสำหรับมลพิษทรัพยากรน้ำโดยการทุ่มตลาดหรือโดยการปล่อยโดยไม่ได้ตั้งใจของย้อมปนเปื้อนน้ำเสียเข้าสู่ร่างกายโดยตรงน้ำ มลพิษทางน้ำที่เกิดขึ้นไม่เพียง แต่การทำลายระบบนิเวศในน้ำ แต่ยังอาจส่งผลให้การเข้ามาของสารมลพิษในห่วงโซ่อาหารจึงทำร้ายชีวิตของมนุษย์และอื่น ๆ โดยการผลิตสารก่อมะเร็งและสารก่อการกลายพันธุ์ teratogenic ผลกระทบ น้ำเสียจากอุตสาหกรรมนี้สามารถรักษาได้โดยจำนวนของกระบวนการเช่นการดูดซับคาร์บอนย่อยสลายภาพตัวเร่งปฏิกิริยาในกระบวนการออกซิเดชั่ขั้นสูงโพลีอิเล็กโทรไลเลื่อนตำแหน่งออสโมซิเมมเบรนกลั่นนาโนกรองการรักษาทางชีวภาพแข็งตัว / ตะกอนการรักษาทางเคมีไฟฟ้า , โอโซน ฯลฯ การดูดซับสีย้อมบนถ่านจากสารละลายจะถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางมากที่สุดเทคนิคการบำบัดน้ำเสียเนื่องจากต้นทุนต่ำของพื้นที่ขนาดใหญ่พื้นผิวการออกแบบที่เรียบง่าย, เสถียรภาพทางเคมี, การดูดซับสูงและไม่รู้สึกที่มีต่อองค์ประกอบที่เป็นพิษ ต้นทุนต่ำถ่านดูดซับขึ้นอยู่หลายประการเช่นข้าวโพด, ผ้าฝ้าย, รังไหม, สนกรวยเปลือกส้มแกลบหิน apricot, ใบชา, ยาง, กะลามะพร้าว, ลำไม้ไผ่เสียการประมวลผลปอ, ฯลฯ ได้รับการ การศึกษาในอดีตที่ผ่านมาการบำบัดน้ำเสียได้.

การใช้วัตถุดิบทดแทนสำหรับการผลิตไบโอดีเซลได้รับความนิยมเพราะการสูญเสียเชื้อเพลิงฟอสซิลเช่นเดียวกับผลกระทบของการปล่อยก๊าซที่มีต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล โฟกัสที่ผ่านมาอยู่ในสาหร่ายสำหรับการผลิตไบโอดีเซลเนื่องจากประสิทธิภาพการสังเคราะห์แสงสูง, การเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและการส่งออกชีวมวลที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับวัตถุดิบที่ไม่ใช่กินทดแทน แต่ค่าใช้จ่ายสูงในการเพาะปลูกและการเก็บเกี่ยวสาหร่ายทำให้กระบวนการปลายน้ำของผลิตไบโอดีเซลมีราคาแพงมาก ดังนั้นการเตรียมความพร้อมของ biochar เช่นถ่านจากชีวมวลที่เหลือของเสียสาหร่ายที่เหลือหลังจากการผลิตไบโอดีเซลเป็นวิธีการที่มีแนวโน้มสำหรับการสร้างระบบบำบัดน้ำเสียและด้วยเหตุนี้ทางเดินที่ยั่งยืนสำหรับการผลิตไบโอดีเซลจากสาหร่าย นี้ไม่เพียงทำให้กระบวนการโดยรวมค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ แต่ยังแก้ปัญหาของการกำจัดขยะมูลฝอย หลังจากการสกัดไขมันจากสาหร่ายชีวมวลจากการหยุดชะงักของเซลล์และการเปลี่ยนแปลงของไขมันในไบโอดีเซลผ่าน transesterification, ชีวมวลที่เหลือส่วนใหญ่มี polysaccharides และโปรตีนซึ่งสามารถแปลงถ่าน (biochar) การศึกษาน้อยมากในวรรณคดีที่กล่าวถึงเกี่ยวกับการเปิดใช้งานทางกายภาพของไขมันที่สกัดสารตกค้างสาหร่ายสำหรับการเตรียม biochar biochar ได้รับการผลิตผ่านทางหมายเลขของกระบวนการโดยใช้วัตถุดิบที่แตกต่างกันและสำหรับการใช้งานที่แตกต่างกัน Chan et al., 2011a และเฉิน et al., 2011b) การศึกษาการดูดซับโลหะทองแดงและสังกะสีบน biochar เตรียมได้โดยไพโรไลซิจากไม้เนื้อแข็งและข้าวโพดฟาง การศึกษาการดูดซับของตะกั่วจากน้ำเข้าสู่ biochar มาจาก hydrothermal เหลวของไพน์วู้ดและแกลบ Hossain, et al ศึกษาการใช้งานของ biochar ร่วมกับปุ๋ยในการปรับปรุงอัตราผลตอบแทนที่ Hyparrhenia hirta นี้ (Hossain et al., 2015) Andrenelli et al, (2016) รายงานว่านอกเหนือจาก biochar เม็ดในดินเพิ่มความสามารถในการกักเก็บน้ำของดิน โลเปซอัลคาโนเอต (2016) การศึกษาความได้เปรียบของการใช้ biochar เพื่อเพิ่มปุ๋ยหมักของเสียโรงงานมะกอก.

คองโกสีย้อมสีแดงเป็นอย่างมากน้ำที่ละลายน้ำได้และมีความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งสำหรับเซลลูโลส เนื่องจากนี้จะมีการใช้ majorly ในอุตสาหกรรมสิ่งทอสีขนสัตว์และผ้าไหมที่มีการเรืองแสงสีเหลืองและในกระดาษพลาสติกและอุตสาหกรรมการพิมพ์ เนื่องจากโครงสร้างที่ซับซ้อนคองโกสีย้อมสีแดงไม่ย่อยสลายได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้สารเคมีย้อมเผาผลาญนี้จะ benzidine ซึ่งเป็นมนุษย์การศึกษา carcinogen.The วรรณกรรมรายงานว่ามันเป็น effector ก่อกลายพันธุ์และการเจริญพันธุ์ นอกจากนี้ยังทำให้เกิดอาการแพ้ต่อผิวหนังและระบบทางเดินอาหาร นอกจากนี้ยังอาจรบกวนการโจมตีและปัจจัยการแข็งตัวของเลือดและระบบทางเดินหายใจ เนื่องจากเหตุผลเหล่านี้เป็นความพยายามที่จะดูดซับสีย้อมสีแดงคองโกจากสารละลาย