King Chulalongkorn is regarded as o

King Chulalongkorn is regarded as one of greatest kings of Siam. The Thai call him "The Great Beloved King" As the oldest son of king Mongkut, Prince Chulalongkorn succded hid father in 1868 at the age of fifteen. Because of his immaturity, Chap Prays Si Suriyawong served as regent for four years. During this time, he traveled to neighboring western colonies including Singapore, Java and India, to study western politics, administration, lifestyle and colonialism. Later during his reign, he also visited Europe twice, in 1897 and 1907

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กษัตริย์ถือเป็นหนึ่งในกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสยาม คนไทยเรียกเขา "เดอะดีรักคิงเป็นบุตรเก่าแก่ที่สุดของมงกุฎ succded เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ hid พ่อในปี 1868 ที่อายุสิบห้า เนื่องจากร้านของเขา Chap อธิษฐานศรีสุริยวงศ์ทำหน้าที่เป็นรีเจ้นท์สี่ปี ในช่วงเวลานี้ เขาเดินทางกับเพื่อนบ้านรวมทั้งสิงคโปร์ ชวา และ อินเดีย การศึกษาการเมืองตะวันตก การดูแล ไลฟ์สไตล์ และลัทธิอาณานิคมตะวันตก ต่อมาในช่วงรัชกาล เขายังไปที่ยุโรปสอง 1897 และ 1907

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งสยาม ไทยเรียกเขาว่า "The Great Beloved King" ในฐานะที่เป็นลูกชายคนโตของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าชายจุฬาลงกรณ์ succded พ่อซ่อนตัวอยู่ใน 1868 ตอนอายุสิบห้า เพราะยังไม่บรรลุนิติภาวะของเขา Chap อธิษฐานศรีสุริยวงศ์ทำหน้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินเป็นเวลาสี่ปี ในช่วงเวลานี้เขาเดินทางไปยังอาณานิคมตะวันตกใกล้เคียงรวมทั้งสิงคโปร์, Java และอินเดียเพื่อศึกษาการเมืองตะวันตก, การบริหารการดำเนินชีวิตและการล่าอาณานิคม ต่อมาในสมัยของเขานอกจากนี้เขายังเยือนยุโรปเป็นครั้งที่สองในปี 1897 และ 1907

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พระปิยมหาราช ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งสยาม ไทยเรียกเขาว่า " ดีที่รักของกษัตริย์ " เป็นลูกชายคนโตของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เจ้าชาย จุฬาลงกรณ์ succded ซ่อนพ่อในปี 1868 เมื่ออายุสิบห้า เพราะความเป็นเด็กของเขา พ่อหนุ่มทูลศรีสุริยวงศ์ ทำหน้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน 4 ปี ในช่วงเวลานี้เขาได้เดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้านอาณานิคมตะวันตก ได้แก่ สิงคโปร์ ชวา และอินเดีย เพื่อศึกษาการเมืองการปกครองแบบตะวันตก วิถีชีวิตและการล่าอาณานิคม ต่อมาในสมัยของพระองค์ เขาก็มาเยือนยุโรปครั้งที่สอง ในปี ค.ศ. 1897 และ ค.ศ. 1907