s6 : message digest of added rows i

s6 : message digest of added rows in MCDT are inserted to MCMDT and set the f value to 1
join DSMDT or MCMDT with the condition that the f value of DSMDT or MCMDT is 1, and select only the changed rows
D1 : only rows in MC are modified/delete
D2 : only rows in DS are modified/delete
s7 : Replace the row in DS with the row in MC / Delete the row from DS
s8 : Replace the row in MC with the row in DS / Delete the row from MC
s9 : -Delete corresponding rows from two MDT
Replace the rows in DS with the rows in MC
Delete the row from DS
Insert the row in MC to DS
-Both rows are modified/delete
-Apply the synchronization policy

s10 : Delete corresponding rows from two MDTs
Replace the rows in MC with the rows in DS
Delete the row from MC
Insert the row in DS to MC
s11 : Add the rows added to MCDT to DSDT
s12: Add the rows added to DSDT to MCDT

Message digest consists of a unidirectional hash functionthat maps a message of a random length to a fixedlength
hashvalue. Message digest h is created by the hash function H,which can be expressed as follows:h = H(M)M
is a message of a random length and H(M) is a fixedlengthmessage digest. Even a single bit changed in themessage
causes a change of message digest value [9]. Fig. 2demonstrates how this message digest mechanism can beapplied
to a relational database to examine data identitybetween rows of two tables.Data in two rows are identical if two
rows in Tables Aand B have identical message digest values. If the twovalues are different, it means that the two
rows have one ormore different column values. Accordingly, this method canbe useful in detecting inconsistency
between two rows.Once a row with an inconsistency is detected, the row iscopied using the primary key in the
direction ofsynchronization according to the synchronization policy.This synchronization algorithm identifies a
modified rowwithout relying on the database's internal functions, logs ormetadata to enable synchronization that is
independent ofthe database vender.

Rows Inconsistency
An inconsistency refers to a state in which the publisheddata in the server-side database and the subscribed data
inthe mobile database carry different values due to a changeat either side. The two databases add, delete and
modifydata independently, which makes inconsistency inevitable.TABLE I displays every case for an inconsistency
for asingle row.Among the 16 cases indicated in TABLE I, Cases 6, 7, 8,10 and 14 include the ADD operation,
which cannot occurfor a single row. For example, in Case 7 the row added atthe server side is different from the row
modified at theclient; therefore, it cannot be considered an inconsistency.Case 7 is equivalent to Case 3 and Case 5


SAMD does not consider the five cases

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

s6: เพิ่มข้อความย่อยของแถวใน MCDT จะใส่กับ MCMDT และตั้งค่า f 1เข้าร่วม DSMDT หรือ MCMDT มีเงื่อนไขว่าค่า f ของ DSMDT MCMDT 1 และเลือกเฉพาะแถวเปลี่ยนแปลงง 1: เฉพาะแถวใน MC จะแก้ไข/ลบD2: เฉพาะแถวใน DS จะแก้ไข/ลบs7: แทนแถวใน DS ด้วยแถวใน MC / ลบแถวจาก DSs8: แทนแถวใน MC แถวใน DS / ลบแถวจาก MCs9: -ลบแถวที่ตรงกันจากสอง MDT แทนแถวใน DS ด้วยแถวใน MC ลบแถวจาก DS แทรกแถวใน MC กับ DS-ทั้งสองแถวจะแก้ไข/ลบ-ใช้นโยบายให้ตรงกันs10: ลบแถวที่ตรงกันจากอาหารสองแทนแถวใน MC ด้วยแถวใน DSลบแถวจาก MCแทรกแถวใน DS กับ MCs11: เพิ่มแถวที่เพิ่มเข้าไป MCDT ถึง DSDTs12: เพิ่มแถวเพิ่ม DSDT ไป MCDTแยกย่อยข้อความประกอบด้วยทิศทางแฮ functionthat แมปข้อความความยาวสุ่มไปเป็น fixedlengthhashvalue สร้างข้อความแยกย่อย h ฟังก์ชันแฮช H ซึ่งสามารถแสดงเป็นดังนี้: h = H (M) Mเป็นข้อความยาวแบบสุ่ม และ H(M) เป็น fixedlengthmessage ย่อย แม้แต่ bit เดียวใน themessage การเปลี่ยนแปลงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของค่าการแยกย่อยข้อความ [9] Fig. 2demonstrates กลไกนี้แยกย่อยข้อความสามารถ beappliedฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์เพื่อตรวจสอบข้อมูล identitybetween แถวของตารางสองตารางข้อมูลในแถวที่สองจะเหมือนกันถ้าสองแถวในตาราง Aand B มีค่าแยกย่อยข้อความเหมือนกัน ถ้า twovalues แตกต่างกัน มันหมายความ ว่า ทั้งสองแถวมีหนึ่งค่าของคอลัมน์ต่าง ๆ ormore ดังนั้น นี้วิธี canbe มีประโยชน์ในการตรวจสอบความไม่สอดคล้องระหว่างแถวสองเมื่อแถวที่ไม่สอดคล้องที่ตรวจพบ iscopied แถวที่ใช้เป็นคีย์หลักในการofsynchronization ทิศทางตรงตามนโยบายระบุอัลกอริทึมนี้ตรงrowwithout พึ่งฟังก์ชั่นภายในของฐานข้อมูล บันทึก ormetadata เพื่อเปิดใช้งานการซิงโครไนส์ที่ปรับเปลี่ยนอิสระของเวนเดอร์ฐานข้อมูลแถวไม่สอดคล้องกันความไม่สอดคล้องหมายถึงสิ่งที่ publisheddata ในฝั่งเซิร์ฟเวอร์ฐานข้อมูลและข้อมูลการสมัครสมาชิกในฐานข้อมูลโทรศัพท์มือถือมีค่าแตกต่างจาก changeat ด้านใดด้านหนึ่ง ฐานข้อมูลสองเพิ่ม ลบ และmodifydata อิสระ ซึ่งทำให้ไม่สอดคล้องสิ่งที่หลีกเลี่ยงตารางที่ผมแสดงทุกกรณีสำหรับความไม่สอดคล้องสำหรับแถว asingleในกรณีที่ 16 ระบุในตาราง กรณี 6, 7, 8,10 และ 14 การเพิ่มซึ่งไม่สามารถ occurfor แถวเดียว ตัวอย่าง ในกรณี 7 แถวเพิ่มที่ฝั่งเซิร์ฟเวอร์จะแตกต่างจากแถวปรับเปลี่ยนที่ theclient ดังนั้น จึงไม่ถือว่าความไม่สอดคล้องกรณี 7 จะเหมือนกับกรณี 3 และ 5 กรณีSAMD พิจารณากรณีที่ 5

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

S6: ข้อความย่อยของแถวเพิ่มเข้ามาใน MCDT ถูกแทรกเพื่อ MCMDT และตั้งค่า F ถึง 1
เข้าร่วม DSMDT หรือ MCMDT มีเงื่อนไขว่าค่า f ของ DSMDT หรือ MCMDT คือ 1 และเลือกเฉพาะแถวที่มีการเปลี่ยนแปลง
D1: แถวเฉพาะใน MC มีการแก้ไข / ลบ
D2: แถวเฉพาะใน DS มีการแก้ไข / ลบ
s7: แทนที่แถวใน DS กับแถวใน MC / ลบแถวจาก DS
s8: แทนที่แถวใน MC กับแถวใน DS / ลบแถวจาก MC
s9: แถวที่สอดคล้องการลบจากสอง MDT
แทนที่แถวใน DS กับแถวใน MC
ลบแถวจากดีเอส
แทรกแถวใน MC เพื่อ DS
แถวโสดทั้งสองมีการแก้ไข / ลบ
-Apply นโยบายการประสานs10: ลบแถวที่ตรงกันจากสอง MDTs แทนที่แถวใน MC กับแถวใน DS ลบแถวจาก MC แทรกแถวใน DS จะ MC s11: เพิ่มแถวที่เพิ่มให้กับ MCDT เพื่อ DSDT s12: เพิ่มแถวที่เพิ่มให้กับ DSDT เพื่อ MCDT ย่อยข้อความประกอบด้วยกัญชาทิศทางเดียว functionthat แผนที่ข้อความที่มีความยาวสุ่มเพื่อ fixedlength hashvalue ข้อความย่อย h ถูกสร้างขึ้นโดยฟังก์ชันแฮช H ซึ่งสามารถแสดงได้ดังต่อไปนี้: h = H (M) M คือข้อความที่มีความยาวแบบสุ่มและ H (M) จะถูกย่อย fixedlengthmessage แม้แต่นิดเดียวการเปลี่ยนแปลงใน themessage ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของข้อความค่าย่อย [9] มะเดื่อ 2demonstrates ว่าข้อความนี้กลไกการย่อยสามารถ beapplied กับฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ในการตรวจสอบข้อมูล identitybetween แถวสอง tables.Data สองแถวจะเหมือนกันถ้าสองแถวในตาราง Aand B มีข้อความเหมือนกันแยกแยะค่า หาก twovalues ​​จะแตกต่างกันก็หมายความว่าทั้งสองแถวมีหนึ่ง ormore ค่าในคอลัมน์ที่แตกต่างกัน ดังนั้นวิธีการนี้ canbe ที่มีประโยชน์ในการตรวจสอบความไม่สอดคล้องกันระหว่างสอง rows.Once แถวที่มีความไม่สอดคล้องกันมีการตรวจพบแถว iscopied ใช้คีย์หลักในทิศทาง ofsynchronization ตามขั้นตอนวิธีการประสานข้อมูลให้ตรงกัน policy.This ระบุแก้ไข rowwithout อาศัยฐานข้อมูล ฟังก์ชั่นภายในบันทึก ormetadata เพื่อเปิดใช้งานการประสานที่เป็นอิสระ ofthe ฐานข้อมูลผู้ขาย. แถวไม่สอดคล้องไม่สอดคล้องกันหมายถึงรัฐที่ publisheddata ในฐานข้อมูลด้านเซิร์ฟเวอร์และข้อมูลสมัครสมาชิกinthe ฐานข้อมูลมือถือพกค่าแตกต่างกันเนื่องจาก changeat ทั้งสองข้าง สองฐานข้อมูลเพิ่มลบและmodifydata อิสระซึ่งจะทำให้ไม่สอดคล้อง inevitable.TABLE ฉันแสดงทุกกรณีสำหรับความไม่สอดคล้องกันสำหรับ asingle row.Among 16 กรณีที่ระบุไว้ในตารางที่ I กรณี 6, 7, 8,10 และ 14 รวมถึงการดำเนินการใส่ , ซึ่งไม่สามารถ occurfor แถวเดียว ยกตัวอย่างเช่นในกรณีที่ 7 แถวเพิ่ม atthe ฝั่งเซิร์ฟเวอร์จะแตกต่างจากแถวแก้ไขที่ลูกค้าน่า; ดังนั้นจึงไม่สามารถพิจารณา inconsistency.Case 7 เทียบเท่ากับกรณีที่ 3 และกรณีที่ 5 SAMD ไม่ได้พิจารณากรณีที่ห้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

s6 : ย่อยข้อความของแถวเพิ่มใน mcdt จะแทรกไป mcmdt และตั้งค่า F 1
เข้าร่วม dsmdt หรือ mcmdt ด้วยเงื่อนไขว่า ค่า F ของ dsmdt หรือ mcmdt 1 และเลือกเฉพาะเปลี่ยนแถว
D1 : เฉพาะแถวใน MC จะแก้ไข / ลบ
D2 : เฉพาะแถวใน DS เป็น แก้ไข / ลบ
S7 : แทนที่แถวใน DS กับ MC / ลบแถวในแถวจาก DS
s8 :แทนที่แถวใน MC กับ DS / ลบแถวในแถวจาก MC
3 : - ลบที่แถวสอง MDT
แทนที่แถวใน DS กับแถวใน Mc
ลบแถวจาก DS
แทรกแถวใน MC DS
- ทั้งแถวจะแก้ไข / ลบ
- ใช้ประสานนโยบาย

S10 : ลบแถวที่สอดคล้องกันจากสอง mdts
แทนที่แถวใน MC กับแถวใน DS

ลบแถวจากพิธีกรแทรกแถวใน DS MC
S11 : เพิ่มแถวเพิ่ม mcdt เพื่อ dsdt
s12 : เพิ่มแถวเพิ่ม dsdt เพื่อ mcdt

ข้อความย่อยประกอบด้วยหน้าที่การทำงานแฮชทางเดียว ความละเอียดแผนที่ข้อความของความยาวแบบสุ่มไปยัง fixedlength
hashvalue . H ย่อยข้อความจะถูกสร้างโดยกัญชาฟังก์ชัน H ซึ่งสามารถแสดงเป็นดังนี้ : H = H ( M ) M
เป็นข้อความของความยาวแบบสุ่มและ H ( M ) คือ fixedlengthmessage ย่อย แม้แต่บิตเดียวการเปลี่ยนแปลงในการ
สาเหตุเปลี่ยนข้อความย่อยมูลค่า [ 9 ] รูปที่ 2demonstrates วิธีการนี้สามารถประยุกต์ใช้กลไกข้อความย่อย
กับฐานข้อมูลเพื่อตรวจสอบ identitybetween ข้อมูลแถวของโต๊ะสองโต๊ะ ข้อมูลในแถวสองเหมือนกัน ถ้า 2
แถวในตารางและ B ได้เหมือนกันข้อความย่อยค่าถ้า twovalues ต่างกัน หมายความว่าสอง
แถวมี ormore คอลัมน์ต่าง ๆค่า ดังนั้นวิธีการนี้สามารถเป็นประโยชน์ในการตรวจสอบความไม่สอดคล้องกัน
ระหว่างสองแถว เมื่อแถวที่มีลักษณะที่ตรวจพบ แถว iscopied โดยใช้คีย์หลักในทิศทางตรงกัน
ofsynchronization ตามนโยบาย ซึ่งการระบุ
ขั้นตอนวิธีแก้ไข rowwithout อาศัยฟังก์ชันภายในของฐานข้อมูลบันทึก ormetadata ให้ตรงกันว่าเป็นอิสระของฐานข้อมูลผู้ขาย



แถวความไม่สมเหตุสมผลหมายถึงสภาวะที่ publisheddata ในฝั่งเซิร์ฟเวอร์ฐานข้อมูลและข้อมูลในฐานข้อมูลมือถือพก
สมัครสมาชิกค่าต่าง ๆเนื่องจากการ changeat ทั้งสองข้าง สองฐานข้อมูลเพิ่มลบและ
modifydata อิสระ ซึ่งทำให้ไม่ inevitable.table ฉันแสดงทุกกรณีไม่สมเหตุสมผล
สำหรับแถวซิงเกิล ระหว่าง 16 ราย พบในโต๊ะผม รายที่ 6 , 7 , 8,10 และ 14 รวมเพิ่มผ่าตัด
ซึ่งไม่สามารถ occurfor แถวเดียว ตัวอย่างเช่น ในกรณี 7 แถวเพิ่มในฝั่งเซิร์ฟเวอร์ที่แตกต่างจากแถว
แก้ไข theclient ; ดังนั้นมันไม่สามารถจะถือว่าไม่สมเหตุสมผล คดี 7 เท่ากับคดี 3 คดี 5


samd ไม่ได้พิจารณา 5 คดี