How Much Is Too Much?by Joyce Meyer

How Much Is Too Much?
by Joyce Meyer

The choices we make on a daily basis—wearing a seatbelt, lifting heavy objects correctly or purposely staying out of any dangerous situation—can either ensure our safety or bring about potentially harmful circumstances.

As Christians, we also have choices to make. To keep us in God’s safety zone, the Word of God establishes the necessary boundaries. It tells us what we can do to be safe and what we shouldn’t do if we don’t want to be unsafe.
Where Are Your Boundaries?

You and I need to make a decision that we are going to get our lives in order.
Exercising self-control, self-discipline and establishing boundaries and borders in our lives are some of the most important things we can do. A life without discipline is one that’s filled with carelessness.

We can think it’s kind of exciting to live life on the edge. We like the image of “Yeah! That’s me! Living on the edge! Woo-hoo!” It’s become a popular way to look at life. But to be honest, God doesn’t want us living on the edge. If we do, then we have no margin for error.
Staying in the Lines

Highways have lines, which provide margins for our safety while we’re driving. If we go over one side, we’ll go into the ditch. If we cross over the line in the middle, we could get killed. And we like those lines because they help to keep us safe. Sometimes we don’t even realize how lines help to keep us safe.

Similarly, when we begin to have boundaries, borders and margins in our personal lives, we feel much better and experience God’s peace.
Have You Reached Your Limits?

Guidelines for a Better Life

Establish boundaries
Notice warning signs
Make changes
Set limits for yourself
Be yourself
Find balance
Stay stable in God's Word

Maybe you’re living an unsustainable life. This means that you say things like, “I can’t do this much longer. I just can’t keep this up forever. If I have to live like this one more year, it’s probably going to finish me off. It’s all too much!”

If we’re making comments like these, what we’re really saying is, “I know I have limits and that I’ve reached them, but I’m going to ignore them and see if or how long I can get by with it.”

I’m not proud of this, but for the first 20 years of my ministry, I ignored limits in my own life. I felt horrible physically most of the time. I ran to doctors, trying to make myself feel better through pills, vitamins, natural stuff and anything I could get my hands on. Some of the doctors would tell me, “It’s just stress.” That just made me mad. I thought stress meant you don’t like what you do or can’t handle life, and I love what I do. But I kept pushing myself, traveling, doing speaking engagements and so on— simply exhausting myself.
Stop Putting Off Change

I look back and think if it wasn’t for the mercy of God, I’d be dead. After all those years of thinking the doctors were all wrong, I finally realized that we can’t break God’s spiritual laws or His laws of health and rest and not pay a price. So I made some changes!

The same goes for relationships. People give us warnings to let us know they’re not happy in our relationship with them. But how many people do anything to make their relationships better before it’s too late?

If we discover we are living unsustainable lives, we need to stop putting off making the necessary changes until we have a nervous breakdown, a heart attack or lose everyone in our life.
Be Balanced, not Pressured

In Numbers 11, Moses gives us an example of what we can do when we’re under stress. Talk about pressure—he was leading the Israelites through the wilderness on what should have been an 11-day trip, but took 40 years.

Because of it, the people were depressed and weeping over their situation. In verse 14 Moses tells God, I am not able to carry all these people alone, because the burden is too heavy for me.

Like Moses, it’s okay for us to say, “I’ve reached my limit.” Yes, scripture says I can do all things through Christ who strengthens me (Philippians 4:13 NKJV), but that’s really referring to times when we face various trials and situations that God will help us through.

You and I don’t have to be like everyone else or keep up with anyone else. Each of us needs to be who God created us to be, and we don’t have to apologize for it. We’re not all alike and we need to find the comfort zone God has established for us to live in, so we can enjoy our lives instead of making ourselves sick with an overload of stress and pressure.

And remember: Just because God’s Word sets boundaries doesn’t mean that He’s trying to imprison you or hold you back. God is not into controlling us contrary to our will. We can get outside of those boundaries if we want to leave the safety God has established in His Word. Ultimately, He has given us guidelines and commandments to help us have a better life, and every single thing He tells us to do is for our benefit.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จำนวนไม่มากเกินไปหรือไม่โดย Joyce Meyerตัวที่เราทำประจำวัน — สวม seatbelt ยกวัตถุหนักที่ถูกต้อง หรือจงใจพักจากการเกิดอันตราย — สามารถมั่นใจความปลอดภัยของเรา หรือนำสถานการณ์ที่อาจเป็นอันตรายได้เป็นคริสเตียน เรายังมีตัวเลือกให้ ให้เราในโซนความปลอดภัยของพระเจ้า พระวจนะของพระเจ้าสร้างขอบเขตที่จำเป็น มันบอกเราอย่างไรให้ปลอดภัยและเราไม่ควรทำอะไรถ้าเราไม่ต้องการให้ปลอดภัยขอบเขตของคุณอยู่ที่ไหนและคุณจำเป็นต้องทำการตัดสินใจว่าเราจะได้รับชีวิตของเราในใบสั่งออกกำลังกายอารมณ์ ผดุงและกำหนดขอบเขตและเส้นขอบในชีวิตของเรามีสิ่งสำคัญที่สุดที่เราสามารถทำ ชีวิตไม่ มีระเบียบวินัยเป็นหนึ่งที่เต็มไป ด้วยความสะเพร่าเราสามารถคิดว่า มันจะน่าตื่นเต้นของชีวิตริม เราชอบภาพของ "ใช่ นั่นคือฉัน ชีวิตริม เกี้ยวพานฮู" มันได้กลายเป็นวิธียอดนิยมที่ชีวิต แต่ที่จะซื่อสัตย์ พระเจ้าไม่ต้องการเราอยู่ริม ถ้าเราทำได้ แล้วเรามีไม่ขอบสำหรับข้อผิดพลาดอยู่ในบรรทัดทางหลวงเส้น ที่ให้ค่าเผื่อสำหรับความปลอดภัยของเราในขณะที่เรากำลังขับรถ ได้ ถ้าเราไปกว่าด้านหนึ่ง เราจะไปลงในคู ถ้าเราข้ามบรรทัดตรงกลาง เราไม่ได้ฆ่า และเราชอบบรรทัด เพราะจะช่วยให้เราปลอดภัย บางครั้งเราไม่ได้ตระหนักว่าบรรทัดช่วยให้เราปลอดภัยในทำนองเดียวกัน เมื่อเราเริ่มมีขอบเขต เส้นขอบ และขอบในชีวิตส่วนตัวของเรา เรารู้สึกดี และประสบการณ์สันติภาพของพระเจ้าคุณมาถึงขีดจำกัดของคุณหรือไม่แนวทางสำหรับชีวิตที่ดีขึ้น สร้างขอบเขต สัญญาณเตือนล่วงหน้า ทำการเปลี่ยนแปลง กำหนดข้อจำกัดสำหรับตัวเอง ปลดปล่อยตัวเอง ค้นหาดุล สำรองห้องพักที่มีความมั่นคงของพระเจ้าบางทีคุณกำลังอาศัยอยู่มีชีวิต unsustainable หมายความ ว่า คุณพูดสิ่งที่ชอบ, "ไม่สามารถทำการนี้นาน ฉันเพียงไม่ทันนี้ตลอดไป ถ้าต้องอยู่อย่างนี้หนึ่งปีขึ้นไป ก็คงจะเสร็จผมออก มันเป็นทุกมาก"เราจะทำความเห็นดังนี้ ว่าเรากำลังจริง ๆ พูดว่า "ฉันรู้ว่า ฉันมีขีดจำกัด และว่า ได้ถึงพวกเขา แต่ฉันจะละเว้น และดู หรือนานเท่าไหร่ฉันจะได้รับโดยมี การ"ผมไม่ภูมิใจนี้ แต่ใน 20 ปีแรกของกระทรวงของฉัน ฉันละเว้นข้อจำกัดในชีวิตของฉันเอง ผมรู้สึกน่ากลัวจริงส่วนใหญ่ของเวลา ฉันวิ่งไปยังแพทย์ พยายามที่จะทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นยา วิตามิน สิ่งธรรมชาติ และสิ่งที่ฉันสามารถรับมือของฉันบน ของบุคลากรทางการแพทย์จะบอก "มันเป็นเพียงแค่ความเครียด" ที่เพียงแค่ทำให้ฉันบ้า คิดว่า ความเครียดหมายถึง คุณไม่ชอบสิ่งที่คุณทำ หรือไม่สามารถจัดการกับชีวิต และรักสิ่งที่ฉันทำ แต่เก็บกดเอง เดินทาง ทำงานพูดและ — ก็น่าเหนื่อยตัวเองหยุดวางปิดเปลี่ยนแปลงผมกลับมอง และคิดว่า ถ้ามันไม่ได้ความเมตตาของพระเจ้า ฉันจะตาย หลังจากที่ทุกปีของความคิด แพทย์ได้ผิดทั้งหมด ฉันรู้สุดท้ายที่เราไม่สามารถทำลายวิญญาณของพระเจ้าหรือของเขากฎหมายสุขภาพและส่วนที่เหลือ และไม่ได้ชำระราคา เพื่อ ทำการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเช่นเดียวกับความสัมพันธ์ คนให้เราเตือนให้เรารู้ว่า พวกเขาไม่มีความสุขในความสัมพันธ์ของเรากับพวกเขา แต่คนทำอะไรที่จะทำให้ความสัมพันธ์ดีขึ้นก่อนที่จะสายเกินไปถ้าเราพบเราจะนั่งเล่น unsustainable ชีวิต เราจำเป็นต้องหยุดการวางปิดทำการเปลี่ยนแปลงจำเป็นจนกว่าเรามีรายละเอียดประสาท หัวใจวาย หรือสูญเสียทุกคนในชีวิตของเรามีความสมดุล ไม่กดดันในหมายเลข 11, Moses ทำให้ตัวอย่างของเราอย่างไรเมื่อเราภายใต้ความเครียด พูดคุยเกี่ยวกับความดันซึ่งเขาได้นำชาวอิสราเอลผ่านถิ่นทุรกันดารในสิ่งควรได้รับ 11 เที่ยว แต่เอาปี 40จะ คนได้ซึมเศร้า และร้องไห้ล้างผ่านสถานการณ์ของพวกเขา ในข้อ 14 Moses บอกพระเจ้า ฉันไม่สามารถดำเนินการทั้งหมดเหล่านี้คนคนเดียว เพราะภาระหนักเกินไปสำหรับฉันเช่น Moses ก็ไม่เป็นไรที่เราจะพูดว่า "ฉันได้ถึงขีดจำกัดของฉัน" ใช่ พระคัมภีร์กล่าวว่า ทำทุกสิ่ง โดยพระคริสต์ที่เพิ่มความแข็งแกร่งฉัน (ชาวฟิลิปปี 4:13 NKJV), แต่ว่าของจริง ๆ ได้มีการอ้างอิงถึงเวลาเมื่อเราเผชิญการทดลองและหลายสถานการณ์ที่พระเจ้าจะช่วยให้เราผ่านคุณและฉันไม่มีเหมือนคนอื่น หรือให้ค่ากับคนอื่น เราแต่ละคนจำเป็นต้องที่ พระเจ้าสร้างเราให้ และเราไม่จำเป็นต้องขอโทษมัน เราไม่เหมือนกันทั้งหมด และเราต้องการค้นหาโซนสิ่งที่พระเจ้าสร้างขึ้นสำหรับเราที่จะอาศัยอยู่ใน เพื่อให้เราสามารถเพลิดเพลินกับชีวิตแทนที่จะทำให้ตนเองป่วย ด้วยการโอเวอร์โหลดของความเครียดและความดันและโปรดจำไว้ว่า: เพียง เพราะขอบเขตกำหนดของพระเจ้า ไม่ได้หมายความ ว่า เขากำลังพยายามจะเก็บคุณ หรือกดค้างไว้คุณกลับ พระเจ้าไม่ได้อยู่ในการควบคุมเราขัดกับเราจะ เราจะได้รับภายนอกขอบเขตที่เราต้องให้ความปลอดภัยที่พระเจ้าสร้างขึ้นในพระองค์ สุด เขาได้ให้เราคำแนะนำและบัญญัติเพื่อช่วยให้เรามีชีวิตดีขึ้น และทุกสิ่งเดียวที่เขาบอกให้เราเพื่อประโยชน์ของเรา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เท่าไหร่มากเกินไป?
โดยจอยซ์เมเยอร์ทางเลือกที่เราทำบนพื้นฐานของการสวมใส่ในชีวิตประจำวันเข็มขัดนิรภัย, ยกของหนักได้อย่างถูกต้องหรือจงใจเข้าพักออกจากใด ๆ ที่เป็นอันตรายสถานการณ์สามารถมั่นใจในความปลอดภัยของเราหรือนำมาเกี่ยวกับสถานการณ์ที่อาจเป็นอันตราย. ในฐานะที่เป็นคริสเตียน เรายังมีทางเลือกที่จะทำให้ ที่จะทำให้เราอยู่ในโซนความปลอดภัยของพระเจ้าพระวจนะของพระเจ้ากำหนดขอบเขตที่จำเป็น มันบอกเราว่าสิ่งที่เราสามารถทำเพื่อความปลอดภัยและสิ่งที่เราไม่ควรทำถ้าเราไม่ได้ต้องการที่จะเป็นที่ไม่ปลอดภัย. อยู่ที่ไหนขอบเขตของคุณหรือคุณและฉันต้องการที่จะทำให้การตัดสินใจที่เราจะได้รับชีวิตของเราในการสั่งซื้อ. การออกกำลังกายควบคุมตนเองมีวินัยในตนเองและการสร้างขอบเขตและเส้นขอบในชีวิตของเราคือบางส่วนของสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราสามารถทำได้ ชีวิตโดยไม่ต้องมีระเบียบวินัยเป็นสิ่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยความประมาท. เราสามารถคิดว่ามันเป็นชนิดของน่าตื่นเต้นที่จะมีชีวิตอยู่บนขอบ เราชอบภาพของ "ใช่! นั่นฉัน! ที่อาศัยอยู่บนขอบ! Woo-ฮู! "มันกลายเป็นวิธีที่นิยมในการมองชีวิต แต่การที่จะซื่อสัตย์พระเจ้าไม่ต้องการให้เรามีชีวิตอยู่บนขอบ ถ้าเราทำแล้วเรามีอัตรากำไรขั้นต้นไม่มีข้อผิดพลาด. ที่อยู่ในสายทางหลวงมีสายที่ให้อัตรากำไรขั้นต้นสำหรับความปลอดภัยของเราในขณะที่เรากำลังขับรถ ถ้าเราไปกว่าอีกด้านหนึ่งเราจะไปลงไปในคูน้ำ ถ้าเราข้ามเส้นที่อยู่ตรงกลางที่เราจะได้รับการฆ่า และเราชอบเส้นเหล่านั้นเพราะพวกเขาจะช่วยให้เราปลอดภัย บางครั้งเราไม่ได้ตระหนักถึงวิธีการสายช่วยให้เราปลอดภัย. ในทำนองเดียวกันเมื่อเราเริ่มที่จะมีขอบเขตที่เส้นขอบและอัตรากำไรขั้นต้นในชีวิตส่วนตัวของเราเรารู้สึกดีขึ้นมากและประสบการณ์ความสงบสุขของพระเจ้า. มีคุณถึงขีด จำกัด ของคุณ? แนวทางสำหรับ ชีวิตที่ดีขึ้นสร้างขอบเขตสัญญาณเตือนให้สังเกตการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าขีดจำกัด ของตัวเองเป็นตัวเองค้นหาความสมดุลอยู่มีเสถียรภาพในพระวจนะของพระเจ้าบางทีคุณอาจกำลังใช้ชีวิตที่ไม่ยั่งยืน ซึ่งหมายความว่าคุณจะพูดว่าสิ่งที่ต้องการ "ผมไม่สามารถทำเช่นนี้อีกต่อไป ฉันไม่สามารถให้ทันนี้ตลอดไป ถ้าผมต้องมีชีวิตอยู่เช่นนี้อีกหนึ่งปีก็อาจจะจบฉันออก มันคือทั้งหมดที่มากเกินไป! "ถ้าเราการแสดงความคิดเห็นเช่นนี้สิ่งที่เรากำลังจริงๆว่ามี" ฉันรู้ว่าฉันมีข้อ จำกัด และที่ฉันได้มาถึงพวกเขา แต่ฉันจะไม่สนใจพวกเขาและดูว่าหรือวิธีการ ระยะเวลาที่ฉันได้รับโดยมีมัน. "ฉันไม่ได้เป็นความภาคภูมิใจของนี้แต่สำหรับครั้งแรก 20 ปีของกระทรวงฉันฉันไม่สนใจข้อ จำกัด ในการใช้ชีวิตของตัวเอง ผมก็รู้สึกว่าน่ากลัวร่างกายมากที่สุดของเวลา ฉันวิ่งไปที่แพทย์พยายามที่จะทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นผ่านยา, วิตามิน, สิ่งที่เป็นธรรมชาติและสิ่งที่ฉันจะได้รับในมือของฉัน บางส่วนของแพทย์จะบอกผมว่า "มันเป็นเพียงแค่ความเครียด." นั่นก็ทำให้ฉันบ้า ฉันคิดว่าความเครียดหมายถึงคุณไม่ชอบสิ่งที่คุณทำหรือไม่สามารถจัดการกับชีวิตและฉันรักสิ่งที่ฉันทำ แต่ผมเก็บไว้ผลักดันตัวเองเดินทางไปทำภารกิจการพูดและอื่น ๆ จอก็หลบหนีตัวเอง. หยุดวางปิดเปลี่ยนผมมองย้อนกลับไปและคิดว่าถ้ามันไม่ได้สำหรับความเมตตาของพระเจ้าที่ฉันจะตาย หลังจากที่ทุกปีที่ผ่านมาของการคิดแพทย์ทุกคนที่ไม่ถูกต้องในที่สุดผมก็ตระหนักว่าเราไม่สามารถทำลายกฎหมายของพระเจ้าจิตวิญญาณของเขาหรือกฎหมายของสุขภาพและส่วนที่เหลือและไม่ต้องจ่ายราคา ดังนั้นผมจึงทำการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง! เดียวกันจะไปสำหรับความสัมพันธ์ คำเตือนให้คนเราจะแจ้งให้เรารู้ว่าพวกเขาไม่ได้มีความสุขในความสัมพันธ์ของเรากับพวกเขา แต่วิธีการที่หลาย ๆ คนทำอะไรที่จะทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาดีก่อนที่จะสายเกินไป? หากเราพบเราจะมีชีวิตที่ไม่ยั่งยืนเราต้องหยุดการวางปิดการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นจนกว่าเราจะมีอาการทางประสาท, หัวใจวายหรือเสียทุกคนในของเรา ชีวิต. มีความสมดุลไม่กดดันในหมายเลข 11 โมเสสทำให้เรามีตัวอย่างของสิ่งที่เราสามารถทำได้เมื่อเราอยู่ภายใต้ความกดดัน พูดคุยเกี่ยวกับความดันที่เขานำชาวอิสราเอลในถิ่นทุรกันดารในสิ่งที่ควรจะได้รับการเดินทาง 11 วัน แต่เอา 40 ปี. เพราะมันคนมีความสุขและร้องไห้มากกว่าสถานการณ์ของพวกเขา ในข้อ 14 โมเสสบอกพระเจ้าฉันไม่สามารถที่จะดำเนินการทุกคนเหล่านี้เพียงอย่างเดียวเพราะภาระหนักเกินไปสำหรับฉัน. เช่นเดียวกับโมเสสว่ามันโอเคสำหรับเราที่จะพูดว่า "ฉันได้มาถึงขีด จำกัด ของฉัน." ใช่พระคัมภีร์กล่าวว่า ฉันจะทำทุกสิ่งผ่านทางพระคริสต์ผู้ทรงเสริมกำลังฉัน (ฟิลิปปี 4:13 NKJV) แต่ที่จริงๆหมายถึงเวลาที่เราต้องเผชิญกับการทดลองต่างๆและสถานการณ์ที่พระเจ้าจะช่วยให้เราผ่าน. คุณและฉันจะได้ไม่ต้องเป็นเหมือนคนอื่น ๆ หรือให้กับคนอื่น เราแต่ละคนจะต้องมีผู้ที่พระเจ้าทรงสร้างให้เราเป็นและเราจะได้ไม่ต้องขอโทษสำหรับมัน เราไม่เหมือนกันและเราจะต้องพบความสะดวกสบายโซนพระเจ้าได้จัดตั้งสำหรับเราที่จะอาศัยอยู่ในเพื่อให้เราสามารถสนุกกับชีวิตของเราแทนการตัวเองป่วยด้วยเกินพิกัดของความเครียดและความดัน. และจำไว้ว่า: เพียงเพราะชุดพระวจนะของพระเจ้า ขอบเขตไม่ได้หมายความว่าเขาพยายามที่จะกักขังคุณหรือถือคุณกลับ พระเจ้าไม่ได้เข้ามาควบคุมเราขัดกับความประสงค์ของเรา เราจะได้รับการนอกขอบเขตเหล่านั้นถ้าเราต้องการที่จะออกจากความปลอดภัยของพระเจ้าได้ก่อตั้งขึ้นในพระวจนะของพระองค์ ในที่สุดเขาได้รับแนวทางที่เราและบัญญัติเพื่อช่วยให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นและทุกสิ่งเดียวที่เขาบอกเราทำคือเพื่อประโยชน์ของเรา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิธีการมากเป็นมากเกินไป ?
โดย Joyce Meyer

เราเลือกบนพื้นฐานทุกวัน ใส่เข็มขัดนิรภัย การยกของหนักอย่างถูกต้อง หรือจงใจอยู่ออกจากสถานการณ์อันตรายใด ๆที่สามารถรับประกันความปลอดภัยของเรา หรือนำมาเกี่ยวกับสถานการณ์ที่อาจเป็นอันตราย .

ในฐานะที่เป็นคริสเตียน เรายังมีตัวเลือกที่จะทำ เพื่อให้เราอยู่ในโซนความปลอดภัยของพระเจ้า พระวจนะของพระเจ้ากำหนดขอบเขตที่จำเป็นมันบอกเราว่าเราสามารถทำเพื่อความปลอดภัยและสิ่งที่ไม่ควรทำ ถ้าเราไม่ต้องการจะไม่ปลอดภัย .
ที่เป็นขอบเขตของคุณ

คุณและฉันต้องตัดสินใจว่าเราจะทำให้ชีวิตของเราในการสั่งซื้อ
การออกกำลังกายการควบคุมตนเอง มีวินัยในตนเอง และสร้างขอบเขตและพรมแดนในชีวิตของเราเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราสามารถทำได้ชีวิตที่ปราศจากวินัยเป็นหนึ่งที่เต็มไปด้วยความประมาท .

เราสามารถคิดว่ามันเป็นชนิดที่น่าตื่นเต้นของการใช้ชีวิตบนขอบ เราชอบภาพ " เย้ ! ! ! ! ! นั่นฉันเอง ! ใช้ชีวิตบนขอบ วู้ ฮู ! " มันเป็นวิธีที่นิยมในการมองชีวิต แต่บอกตามตรง พระเจ้าไม่ได้ต้องการให้เราใช้ชีวิตบนขอบ ถ้าเราทำแล้วเราไม่มีข้อผิดพลาด .
อยู่ในเส้น

ทางหลวงมีเส้นซึ่งให้ขอบเพื่อความปลอดภัยของเรา ขณะที่เรากำลังขับรถอยู่ ถ้าเราข้ามไปด้านใดด้านหนึ่ง เราก็จะเข้าไปในร่อง ถ้าเราข้ามผ่านเส้นกลาง เราอาจถูกฆ่า และเราชอบเส้นเหล่านั้นเพราะพวกเขาช่วยให้เราปลอดภัย บางครั้งเราไม่ได้ตระหนักว่าเส้นช่วยให้เราปลอดภัย

ในทํานองเดียวกัน เมื่อเราเริ่มที่จะมีขอบเขต เส้นขอบและขอบในชีวิตส่วนตัวของเราเรารู้สึกดีมาก และพบสันติสุขจากพระเจ้า .
คุณถึงขีด จำกัด ของคุณ ?



แนวทางชีวิตที่ดีสร้างเขตแดน

สังเกตสัญญาณเตือนให้เปลี่ยนชุดลิมิตตัวเอง

เป็นตัวของตัวเอง

หาสมดุลยังคงมั่นคงในคำ

พระเจ้าคุณอาจมีชีวิตไม่ยั่งยืน ซึ่งหมายความ ว่า คุณพูดแบบนี้ ผมไม่ทำแล้ว ฉันไม่สามารถเก็บมันไว้ตลอดไปถ้าฉันต้องอยู่อย่างนี้อีกหนึ่งปี มันอาจจะฆ่าฉันซะ นี่มันมากเกินไป ! "

ถ้าเราให้ความเห็นแบบนี้ สิ่งที่เรากำลังพูดคือ " ผมรู้ว่าผมมีข้อจำกัดและฉันถึงพวกเขา แต่ฉันก็จะไม่สนใจพวกเขา และดูว่า หรือระยะเวลาที่ฉันสามารถได้รับจากมัน . "

ผมไม่ได้ภูมิใจกับสิ่งนี้ แต่สำหรับ 20 ปีแรกของกระทรวงของฉันผมไม่สนใจขีดจำกัดในชีวิตของฉันเอง ฉันรู้สึกแย่จริง ส่วนใหญ่ของเวลา ฉันวิ่งไปหาแพทย์ พยายามที่จะทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น ผ่าน ยา วิตามิน ของธรรมชาติ และอะไรที่ฉันได้รับในมือของฉันบน บางส่วนของหมอก็บอกฉันว่า " มันก็แค่ความเครียด ที่ทำให้ฉันบ้า ฉันคิดว่าความเครียดหมายถึงคุณไม่ชอบสิ่งที่คุณทำ หรือ ไม่สามารถจัดการกับชีวิต , และฉันรักสิ่งที่ฉันทำแต่ผมก็ผลักตัวเอง เดินทาง ทำพูด engagements และอื่น ๆ -- เพียงแค่เหนื่อยเอง หยุดวางปิดเปลี่ยน


ผมมองย้อนกลับไปและคิดว่าถ้าไม่ได้รับความเมตตาจากพระเจ้า ฉันคงตายไปแล้ว หลังจากหลายปีของการคิดหมอก็ผิดทั้งหมด ในที่สุดฉันก็ตระหนักว่าเราไม่สามารถทำให้พระเจ้ามโนมัยกฎหมายหรือกฎหมายสุขภาพและพักผ่อน และไม่ต้องชดใช้ฉันทำให้การเปลี่ยนแปลงบางอย่าง !

ก็เหมือนกับความสัมพันธ์ คนที่ให้เราเตือนให้เรารู้ว่ากำลังไม่พอใจในความสัมพันธ์ของเรากับพวกเขา แต่จะมีสักกี่คนที่ทำทุกอย่างเพื่อให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาขึ้นก่อนที่จะสายเกินไป

ถ้าเราพบว่าเราใช้ชีวิตไม่ยั่งยืน เราต้องหยุดวางปิดทำการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นจนกว่า เราจะได้ประสาทกินหัวใจวายหรือสูญเสียทุกคนในชีวิตของเรา .
มีความสมดุล ไม่กดดัน

เลข 11 โมเสสให้เราตัวอย่างของสิ่งที่เราทำได้เมื่อเราอยู่ภายใต้ความเครียด พูดคุยเกี่ยวกับความดันเขาเป็นผู้นำอิสราเอลผ่านป่าในสิ่งที่ควรได้ 11 วัน แต่เอาปี 40

เพราะมัน คนเสียใจและร้องไห้มากกว่าสถานการณ์ของพวกเขา ในข้อ 14 โมเสสบอกพระเจ้าผมไม่สามารถนำคนเหล่านี้เพียงอย่างเดียว เพราะเป็นภาระที่หนักเกินไปสำหรับฉัน

เช่น โมเสส ก็โอเคสำหรับเราแล้วบอกว่า " ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ " ใช่ พระคัมภีร์กล่าวว่าฉันสามารถทำทุกสิ่งได้โดยพระคริสต์ที่บำรุงผม ( ฟิลิป 4 : 13 NKJV ) , แต่ที่ จริงๆพูดถึงครั้งเมื่อเราเผชิญการทดลองต่างๆและสถานการณ์ที่พระเจ้าจะช่วยให้เราผ่าน

คุณและฉันจะได้ไม่ต้องเป็นเหมือนคนอื่น ๆหรือให้กับใคร เราแต่ละคนต้องการที่จะเป็นผู้ที่พระเจ้าสร้างให้เรา และเราไม่ต้องขอโทษหรอก เราไม่ได้ทั้งหมดเหมือนกันและเราต้องหาโซนความสะดวกสบายของพระเจ้าได้ก่อตั้งขึ้น เพื่อให้เราอาศัยอยู่ใน , เพื่อให้เราสามารถเพลิดเพลินกับชีวิตของเรา แทนที่จะทำให้ตัวเองป่วยด้วยการโอเวอร์โหลดของความเครียดและกดดัน . .

และอย่าลืม :เพราะพระคำของพระเจ้าชุดขอบเขต ไม่ได้หมายความว่าเขาจะขังคุณ หรือถือคุณกลับ พระเจ้าไม่ได้อยู่ในการควบคุม เราขัดความตั้งใจของเรา เราสามารถออกไปนอกเขตแดนนั้น ถ้าเราต้องการที่จะออกจากตู้พระเจ้าได้ก่อตั้งขึ้นในคำพูดของเขา ในที่สุด เขาได้มอบแนวทางและบัญญัติที่จะช่วยให้เรามีชีวิตที่ดีกว่าและทุกๆสิ่งที่เขาบอกให้เราทำเพื่อประโยชน์ของเรา