Political realism Another major tra

Political realism Another major tradition of political thinking rejects the idea that politics exists to deliver a mora or ethical value such as happiness or freedom. Instead, they argue that politics is about power. Power is the means by which ends are achieved, enemies are defeated, and compromises sustained. Without the ability to acquire and exercise power, values—however noble they may be—are useless. The group of thinkers who focus on power as opposed to morality are described as realists. Realists focus their attention on power, conflict, and war, and are often cynical about human motivations. Perhaps the two greatest theorists of power were Italian Niccolò Machiavelli and Englishman Thomas Hobbes, both of whom lived through periods of civil war and disorder, in the 16th and 17th centuries respectively. Machiavelli’s view of human nature emphasizes that men are “ungrateful liars” and neither noble nor virtuous. He warns of the dangers of political motives that go beyond concerns with the exercise of power. For Hobbes, the lawless “state of nature” is one of a war of all men against each other. Through a “social contract” with his subjects, a sovereign exercises absolute power to save society from this brutish state. But the concern with power is not unique to early modern Europe. Much 20th-century political thought is concerned with the sources and exercise of power.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความสมจริงทางการเมืองอีกประเพณีสำคัญของความคิดทางการเมืองปฏิเสธความคิดที่ว่า การเมืองที่มีอยู่ส่งโมราหรือค่าทางจริยธรรมเช่นความสุขหรือเสรีภาพ แทน พวกเขาโต้แย้งว่า การเมืองเป็นเรื่องเกี่ยวกับพลังงาน พลังงานเป็นวิธีที่สิ้นสุดจะประสบความสำเร็จ ศัตรูจะแพ้ และประณีประนอมยั่งยืน ไม่สามารถซื้อ และอำนาจในการออกกำลังกาย ค่า — โนเบิลอย่างไรก็ตามพวกเขาอาจ — มีประโยชน์ กลุ่มของนักคิดที่ให้ความสนใจพลังงานตรงข้ามกับศีลธรรมอธิบายไว้เป็นสัจนิยม สัจนิยมมุ่งเน้นความสนใจในพลังงาน ท่าน และสงคราม และมักขี้ระแวงเกี่ยวกับแรงจูงใจมนุษย์ บางทีนักบรรดาสองทฤษฎีพลังงานถูกอิตาลี Niccolò วิหารและชาวอังกฤษ Thomas Hobbes ทั้งสองคนอาศัยผ่านช่วงเวลาของสงครามกลางเมืองและความผิดปกติ ในศตวรรษ 16 และ 17 ตามลำดับ มุมมองของวิหารของธรรมชาติของมนุษย์เน้นว่า ผู้ชายที่ "ไม่รู้จักคุณโกหก" และโนเบิลไม่ หรือคุณธรรม เขาเตือนอันตรายของแรงจูงใจทางการเมืองที่เหนือกว่าด้วยอำนาจ สำหรับ Hobbes กฎหมาย "สถานะของธรรมชาติ" เป็นสงครามที่ผู้ชายทุกคนกับแต่ละอื่น ๆ อย่างใดอย่างหนึ่ง ผ่านทาง "สังคมสัญญา" กับวิชาของเขา เป็นกษัตริย์ออกกำลังอำนาจการบันทึกสังคมจากรัฐนี้ brutish แต่ความกังวลที่ มีอำนาจไม่เฉพาะในยุโรปสมัยก่อน คิดมากทางการเมืองของศตวรรษที่ 20 เกี่ยวข้องกับแหล่งและใช้อำนาจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความสมจริงทางการเมืองอีกประเพณีที่สำคัญของความคิดทางการเมืองปฏิเสธความคิดที่ว่าการเมืองที่มีอยู่เพื่อส่งมอบโมราหรือมูลค่าทางจริยธรรมเช่นความสุขหรือความเสรีภาพ แต่พวกเขายืนยันว่าการเมืองเป็นเรื่องเกี่ยวกับพลังงาน พลังงานเป็นวิธีการที่จะประสบความสำเร็จปลายศัตรูจะพ่ายแพ้และการประนีประนอมอย่างยั่งยืน ไม่มีความสามารถที่จะได้รับการออกกำลังกายและการใช้พลังงาน, ค่า- แต่ขุนนางพวกเขาอาจจะ-จะไร้ประโยชน์ กลุ่มนักคิดที่มุ่งเน้นการใช้พลังงานเมื่อเทียบกับคุณธรรมอธิบายว่าเ​​ป็นแง่ แง่มุ่งเน้นความสนใจของพวกเขาในอำนาจ Con ชั้นไอซีทีและการสงครามและมักจะเหยียดหยามเกี่ยวกับแรงจูงใจของมนุษย์ บางทีอาจจะทั้งสองทฤษฎีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการใช้พลังงานเป็นอิตาเลี่ยนNiccolò Machiavelli และอังกฤษโทมัสฮอบส์ทั้งสองคนอาศัยอยู่ผ่านช่วงเวลาของสงครามกลางเมืองและความผิดปกติในศตวรรษที่ 16 และ 17 ตามลำดับ มุมมองของ Machiavelli ของธรรมชาติของมนุษย์เน้นว่าผู้ชายมี "โกหกเนรคุณ" และไม่ขุนนางหรือคุณงามความดี เขาเตือนอันตรายจากแรงจูงใจทางการเมืองที่นอกเหนือไปจากความกังวลเกี่ยวกับการออกกำลังกายของอำนาจ สำหรับฮอบส์คนนอกกฎหมาย "สภาพของธรรมชาติ" เป็นหนึ่งในสงครามของมนุษย์ทุกคนกับแต่ละอื่น ๆ ผ่าน "สัญญาประชาคม" กับเรื่องของเขาออกกำลังกายอธิปไตยอำนาจเด็ดขาดในการบันทึกสังคมจากรัฐโหดเหี้ยมนี้ แต่ความกังวลที่มีอำนาจจะไม่ซ้ำกับต้นยุโรปที่ทันสมัย มากศตวรรษที่ 20 ความคิดทางการเมืองที่เกี่ยวข้องกับแหล่งที่มาและการใช้อำนาจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สัจนิยมการเมืองที่สำคัญอีกประเพณีของความคิดทางการเมืองปฏิเสธความคิดที่ว่า การเมืองที่มีอยู่เพื่อให้โมรา หรือค่านิยมเชิงจริยธรรม เช่น ความสุข หรือ เสรีภาพ แทน พวกเขาโต้เถียงว่า การเมืองเป็นเรื่องอำนาจ พลังงานเป็นวิธีที่สิ้นสุด จะสำเร็จ ศัตรูจะพ่ายแพ้ และสิ่งสนับสนุน ไม่มีความสามารถในการได้รับและการใช้อำนาจ คุณค่า อย่างไรก็ตาม โนเบิล พวกเขาอาจจะไร้ประโยชน์ กลุ่มนักคิดที่เน้นพลังตรงข้ามกับจริยธรรม ได้แก่ realists . realists เน้นความสนใจของพวกเขาใน อำนาจ คอนflไอซีที และสงคราม และมักจะถูกเหยียดหยามเกี่ยวกับแรงจูงใจของมนุษย์ บางทีสิ่งสำคัญสองทฤษฎีของอิตาลีนิคโคโล มาเคียเวลลี อำนาจ และชาวอังกฤษโทมัส ฮอบส์ ทั้งผู้ที่อาศัยอยู่โดยรอบระยะเวลาของสงครามกลางเมืองและความผิดปกติ ในศตวรรษที่ 16 และ 17 ตามลำดับ การใช้มุมมองของธรรมชาติของมนุษย์ เน้นว่าผู้ชาย " เนรคุณ " " และไม่ประเสริฐและบริสุทธิ์ เขาเตือนถึงอันตรายของแรงจูงใจทางการเมืองไปไกลเกินกว่าที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายของอำนาจ สำหรับฮอบส์ รัฐอธรรม " ธรรมชาติ " เป็นหนึ่งในสงครามของผู้ชายทั้งหมดกับแต่ละอื่น ๆ ผ่านทางสังคม " สัญญา " กับคนของเขาเป็นจักรพรรดิแบบฝึกหัดอำนาจที่จะช่วยสังคมจากรัฐนี้คนโฉด แต่ความกังวลกับพลังที่ไม่ซ้ำกับยุโรปสมัยใหม่ มากศตวรรษที่ 20 ความคิดทางการเมืองเกี่ยวข้องกับแหล่งที่มาและการออกกำลังกายของอำนาจ