In Earth’s atmosphere, water is the

In Earth’s atmosphere, water is the only substance that can condense into clouds. But the atmospheres of Jupiter and the other giant planets have a larger range of temperatures and pressures, so more kinds of volatiles can condense and form clouds (Figure 10.13). Beneath those planets’ cloud tops are dense layers of clouds separated by regions of relatively clear atmosphere. Because each kind of volatile, such as water or ammonia, condenses at a particular temperature and pressure, each volatile therefore forms clouds at a different altitude. Convection carries each volatile material upward along with all other atmospheric gases, and when each particular volatile reaches an altitude that has its condensation temperature, most of that volatile condenses and separates from the other gases. So very little of the volatile is carried higher aloft. Below each volatile’s condensation cloud layer, that volatile is freely mixed as a gaseous atmospheric constituent. Above its condensation altitude, each volatile is highly depleted relative to other gases.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในบรรยากาศของโลก น้ำเป็นสารเดียวที่สามารถบีบเข้าไปในเมฆ แต่บรรยากาศของดาวพฤหัสบดีและดาวเคราะห์ที่ยักษ์อื่น ๆ มีช่วงใหญ่ของอุณหภูมิและความดัน ชนิดอื่น ๆ ของ volatiles สามารถบีบ และแบบเมฆ (รูป 10.13) ใต้เมฆของดาวเคราะห์ที่ ท็อปส์มีชั้นหนาแน่นของเมฆที่แยกตามภูมิภาคของบรรยากาศที่ค่อนข้างชัดเจน เนื่องจากแต่ละชนิดระเหย เช่นน้ำหรือแอมโมเนีย มีการควบแน่นที่เฉพาะอุณหภูมิและความดัน ระเหยแต่ละรูปเมฆที่ระดับความสูงที่แตกต่างกันดังนั้น พาดำเนินแต่ละวัสดุระเหยขึ้นกับก๊าซอื่น ๆ บรรยากาศ และเมื่อระเหยเฉพาะแต่ละระดับความสูงที่มีอุณหภูมิการควบแน่น ส่วนใหญ่ของที่ระเหยมีการควบแน่น และแยกจากก๊าซอื่น ๆ ดังนั้นมากน้อยของการระเหยจะดำเนินสูงโรงแรมอลอฟท์ อิสระผสมกันระเหยที่ใต้ชั้นเมฆควบแน่นที่ระเหยแต่ละ เป็นวิภาคบรรยากาศเป็นต้น ข้างสูงการมีหยดน้ำเกาะ ระเหยแต่ละสูงสิ้นสุดลงเมื่อเทียบกับแก๊สชนิดอื่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในชั้นบรรยากาศของโลกน้ำเป็นสารเดียวที่สามารถรวมตัวเข้าไปในกลุ่มเมฆ แต่บรรยากาศของดาวพฤหัสบดีและดาวเคราะห์ยักษ์ใหญ่อื่น ๆ มีช่วงขนาดใหญ่ของอุณหภูมิและความดันชนิดมากขึ้นของสารระเหยสามารถรวมตัวและรูปแบบกลุ่มเมฆ (รูปที่ 10.13) ภายใต้ดาวเคราะห์เหล่านั้นยอดเมฆชั้นหนาแน่นของเมฆแยกออกจากภูมิภาคของบรรยากาศที่ค่อนข้างชัดเจน เนื่องจากชนิดของสารระเหยเช่นน้ำหรือแอมโมเนียแต่ละควบแน่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อุณหภูมิและความดันในแต่ละรูปแบบที่มีความผันผวนจึงเมฆที่ระดับความสูงที่แตกต่างกัน พาดำเนินการแต่ละวัสดุที่มีความผันผวนสูงขึ้นพร้อมกับก๊าซอื่น ๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแต่ละระเหยถึงระดับความสูงที่มีอุณหภูมิการกลั่นตัวของมันส่วนใหญ่ของสารระเหยที่ควบแน่นและแยกจากก๊าซอื่น ๆ ดังนั้นน้อยมากระเหยจะดำเนินการที่สูงขึ้นสูงขึ้น ด้านล่างแต่ละระเหยการควบแน่นของชั้นเมฆที่มีความผันผวนเป็นอิสระผสมเป็นองค์ประกอบในชั้นบรรยากาศ เหนือระดับความสูงของการรวมตัวแต่ละระเหยเป็นญาติอย่างมากที่จะหมดก๊าซอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในบรรยากาศโลก น้ำเป็นเพียงสารที่สามารถรวมตัวเป็นเมฆ แต่บรรยากาศของดาวพฤหัสบดี และอื่น ๆยักษ์ดาวเคราะห์มีช่วงขนาดใหญ่ของอุณหภูมิและความดันชนิดดังนั้นเพิ่มเติมจากสารระเหยสามารถย่อและรูปแบบเมฆ ( รูป 10.13 ) ใต้ดาวเคราะห์เหล่านั้นเมฆหนาแน่น ท็อปชั้นของเมฆแบ่งภูมิภาคของบรรยากาศค่อนข้างชัดเจนโดยเพราะแต่ละชนิดสารระเหย เช่น น้ำ หรือแอมโมเนีย ควบแน่นอุณหภูมิและความดันโดยเฉพาะแต่ละเปลี่ยนแปลงได้ดังนั้นรูปแบบเมฆที่ระดับความสูงที่แตกต่างกัน การพาความร้อนระเหยวัสดุประกอบกันขึ้นพร้อมก๊าซบรรยากาศอื่น ๆทั้งหมด และเมื่อแต่ละระดับถึงระดับความสูงที่มีอุณหภูมิควบแน่นของที่สุดของที่ระเหยและควบแน่นที่แยกจากก๊าซอื่น ๆ น้อยมากดังนั้นการเพิ่มขึ้นของระดับ๒ . ด้านล่างของแต่ละสารควบแน่นชั้นเมฆที่ระเหยเป็นก๊าซในบรรยากาศอิสระผสมเป็นองค์ประกอบ ด้านบนของการควบแน่นที่ระดับความสูงแต่ละระเหยสูงหมดสัมพันธ์กับก๊าซอื่น ๆ