Historical agriculture and contempo

Historical agriculture and contemporary disturbances such as fire can each affect soil properties, but the relative impact of their separate and combined effects is poorly understood. We investigated the effects of historical agriculture and contemporary fire frequency on soil properties of longleaf pine woodlands in the Southeastern United States. We sampled 24 pairs of sites from adjacent former agricultural and remnant longleaf pine woodlands based on high (⩾ four since 1971) and low (< four since 1971) fire frequency. We found no evidence for interactive effects between agricultural history and fire frequency on measured mineral soil properties, yet each disturbance independently affected different aspects of the soil. Effects of past agricultural use were most apparent in the top 15 cm of the mineral soil, with post-agricultural woodlands characterized by increased phosphorus and bulk density, as well as decreased organic matter and soil water holding capacity, compared to remnant woodlands. Some effects of past agricultural use, such as increased phosphorus, were also apparent as deep as 30 cm into the soil profile. However, when expressed as stocks (to account for differences in bulk density) we found that organic matter content was similar among post-agricultural and remnant woodlands. With respect to contemporary fire frequency, less frequently burned sites had thicker O-horizons (litter and duff layers) and showed a trend of greater inorganic nitrogen in mineral soil, relative to frequently burned sites. Overall, our results indicate that agricultural legacies in soils persist 60 years after agricultural abandonment and have impacts that may extend deep into the soil profile. Fire suppression additionally affects soils, resulting in additive effects of historical and contemporary disturbances. Additional research is needed to better determine if and how the combined effects of past and present disturbances will affect ecological systems. These combined and long-lasting impacts of historical and contemporary disturbances may help explain why restoration of native understory vegetation remains challenging.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเกษตรประวัติศาสตร์และร่วมสมัยการรบกวนเช่นไฟไหม้แต่ละคนสามารถส่งผลกระทบต่อคุณสมบัติของดิน แต่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของผลกระทบที่แยกต่างหากและรวมของพวกเขาจะเข้าใจได้ไม่ดี เราตรวจสอบผลกระทบของการเกษตรประวัติศาสตร์และความถี่ไฟร่วมสมัยเกี่ยวกับคุณสมบัติของดินของป่า longleaf ไพน์ใน Southeastern สหรัฐอเมริกา เราเก็บตัวอย่าง 24 คู่จากเว็บไซต์ที่อยู่ติดกันในอดีตส่วนที่เหลือทางการเกษตรและป่า longleaf ไพน์ขึ้นอยู่กับสูง (⩾สี่ตั้งแต่ปี 1971) และต่ำ (<สี่ตั้งแต่ปี 1971) ความถี่ในการเกิดไฟไหม้ เราไม่พบหลักฐานสำหรับผลการโต้ตอบระหว่างประวัติศาสตร์การเกษตรและความถี่ไฟในวัดคุณสมบัติของดินแร่ยังรบกวนแต่ละได้รับผลกระทบอย่างอิสระด้านต่างๆของดิน ผลของการใช้ในการเกษตรที่ผ่านมาเห็นได้ชัดมากที่สุดในด้านบน 15 ซม. ของดินแร่ธาตุที่มีการโพสต์ป่าภาคเกษตรที่โดดเด่นด้วยฟอสฟอรัสที่เพิ่มขึ้นและความหนาแน่นรวมลดลงเป็นสารอินทรีย์และความจุของน้ำในดินถือหุ้นเมื่อเทียบกับป่าที่เหลืออยู่ ผลกระทบบางส่วนของอดีตที่ผ่านมาใช้ในการเกษตรเช่นฟอสฟอรัสที่เพิ่มขึ้นนอกจากนี้ยังเห็นได้ชัดลึกที่สุดเท่าที่ 30 ซมลงในโปรไฟล์ดิน แต่เมื่อแสดงเป็นหุ้น (บัญชีสำหรับความแตกต่างในความหนาแน่น) เราพบว่าปริมาณสารอินทรีย์เป็นที่คล้ายกันในหมู่ป่าโพสต์ทางการเกษตรและเศษเล็กเศษน้อย ด้วยความเคารพต่อความถี่ไฟร่วมสมัยไม่บ่อยเผาเว็บไซต์มีความหนาขอบฟ้า O-(ครอกและชั้นดัฟฟ์) และแสดงให้เห็นแนวโน้มของไนโตรเจนอนินทรีมากขึ้นในดินแร่เทียบกับการเผาไหม้บ่อยเว็บไซต์ โดยรวม, ผลของเราแสดงให้เห็นว่ามรดกทางการเกษตรในดินยังคงมีอยู่ 60 ปีหลังจากที่ถูกทอดทิ้งทางการเกษตรและมีผลกระทบที่อาจขยายลึกลงไปในรายละเอียดของดิน ดับเพลิงนอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อดินส่งผลให้ผลกระทบของสารเติมแต่งการรบกวนทางประวัติศาสตร์และร่วมสมัย การวิจัยเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อตรวจสอบว่าดีขึ้นและวิธีการที่ผลรวมของอดีตและปัจจุบันการรบกวนจะมีผลต่อระบบนิเวศ เหล่านี้รวมและผลกระทบในระยะยาวของการรบกวนประวัติศาสตร์และปัจจุบันอาจช่วยอธิบายได้ว่าทำไมการฟื้นฟูของพืชพื้นเมือง understory ยังคงมีความท้าทาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเกษตรและการแปรปรวนร่วมสมัยประวัติศาสตร์ เช่น ไฟแต่ละคนสามารถส่งผลกระทบต่อคุณสมบัติของดิน แต่ผลกระทบต่อญาติของผลกระทบที่แยกต่างหากและมีคุณภาพครับ เราได้ตรวจสอบผลของเกษตรศาสตร์ และความถี่ไฟร่วมสมัยบนดินคุณสมบัติของต้นสนป่า Longleaf ใน Southeastern สหรัฐอเมริกาเราเก็บตัว 24 คู่ของเว็บไซต์จากเดิมที่เหลืออยู่ติดกัน ด้านการเกษตร และต้นสนป่า Longleaf ตามสูง ( ⩾สี่ตั้งแต่ 1971 ) และต่ำ ( < สี่ตั้งแต่ 1971 ) ความถี่ของไฟ เราไม่พบหลักฐานสำหรับผลการโต้ตอบระหว่างประวัติศาสตร์การเกษตรและความถี่ในการวัดไฟดินแร่ แต่ในการรบกวนอย่างอิสระได้รับผลกระทบด้านต่าง ๆของดินผลของการใช้เกษตรที่ผ่านมามีปรากฏมากที่สุดในด้านบน 15 ซม. ของแร่ดิน หลังเกษตรป่าลักษณะฟอสฟอรัสและความหนาแน่นเพิ่มขึ้น รวมทั้งปริมาณอินทรียวัตถุและน้ำในดินถือความจุเมื่อเทียบกับเศษป่า . ผลของการใช้เกษตรที่ผ่านมาเช่นเพิ่มฟอสฟอรัสยังปรากฏเป็นลึก 30 ซม. ในดิน . อย่างไรก็ตาม เมื่อแสดงเป็นหุ้น ( บัญชีสำหรับความแตกต่างในความหนาแน่น ) เราพบว่าสารอินทรีย์เนื้อหาคล้ายคลึงกันระหว่างโพสต์ป่าการเกษตรและเศษ . ด้วยความเคารพกับความถี่ไฟร่วมสมัยมีความหนาน้อยกว่าเขียนเว็บไซต์ o-horizons ( แคร่ และดัฟฟ์ชั้น ) และมีมากขึ้นแนวโน้มของอนินทรีย์ไนโตรเจนในดินแร่ ญาติพี่น้องบ่อยเขียนเว็บไซต์ โดยรวม , ผลของเราระบุว่ามรดกทางการเกษตรในดินคงอยู่ 60 ปีหลังจาก การเกษตร และผลกระทบที่อาจขยายลึกเข้าไปในโปรไฟล์ดินดับเพลิงยังมีผลต่อดิน เป็นผลในการเสริมผลของประวัติศาสตร์ร่วมสมัยและการรบกวน การวิจัยเพิ่มเติมจะต้องดีกว่าว่าและวิธีการรวมผลของอดีตและปัจจุบัน แปรปรวน จะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศเหล่านี้รวมและในระยะยาวผลกระทบของประวัติศาสตร์และร่วมสมัย แปรปรวนอาจช่วยอธิบายทำไมฟื้นฟูพืชพื้นเมือง understory
ยังคงท้าทาย