ภาวะน้ำท่วมน้ำท่วม เป็นการไหลล้นของ

ภาวะน้ำท่วม
น้ำท่วม เป็นการไหลล้นของห้วงน้ำซึ่งทำให้แผ่นดินจมอยู่ใต้น้ำ[1] คำว่า "น้ำเอ่อล้น" (flowing water) ยังอาจใช้กับการไหลเข้าของกระแสน้ำ น้ำท่วมอาจเป็นผลของปริมาตรน้ำภายในแหล่งน้ำ เช่น แม่น้ำหรือทะเลสาบ ซึ่งไหลล้นหรือทลายคันดิน เป็นผลให้น้ำบางส่วนออกจากขอบเขตตามปกติของมัน[2]

ขณะที่ขนาดของทะเลสาบหรือแหล่งน้ำอื่นมีความแตกต่างกันตามการเปลี่ยนแปลงหยาดน้ำฟ้าและการละลายของหิมะตามฤดูกาล แต่น้ำนั้นมิใช่อุทกภัยที่สำคัญเว้นแต่น้ำนั้นออกมาคุกคามพื้นที่ดินที่มนุษย์ใช้ เช่น หมู่บ้าน นครหรือพื้นที่อยู่อาศัยอื่น

น้ำท่วมยังสามารถเกิดในแม่น้ำได้ เมื่อการไหลนั้นเกินความจุของฝั่งน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่หัวเลี้ยว (bend) หรือทางน้ำโค้งตวัด (meander) อุทกภัยมักทำความเสียหายแก่บ้านและธุรกิจหากตั้งอยู่ในที่ราบน้ำท่วมถึงตามธรรมชาติ ขณะที่ความเสียหายอันเกิดจากอุทกภัยนั้นแท้จริงแล้วหมดไปได้โดยการย้ายออกจากแม่น้ำหรือแหล่งน้ำอื่น หากตั้งแต่สมัยโบราณ ผู้คนได้อาศัยและทำงานอยู่ริมน้ำเพื่อการยังชีพและได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวและการพาณิชย์ที่ถูกและง่ายโดยอาศัยอยู่ใกล้น้ำ การที่มนุษย์ยังคงอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมนั้นเป็นหลักฐานว่า มูลค่าที่สัมผัสได้ของการอาศัยอยู่ใกล้น้ำมีมากเกินมูลค่าของน้ำท่วมที่เกิดซ้ำเป็นเวลา
The flood is the overfill of the reservoir water, which makes the land sank under the water [1]. "UM, water overflow" (flowing water). May also be used with the inflow of water flow. The flood may have as a result of the volume of water within a body of water such as a river or Lake that fall to overfill or khandin as a result, some of the water out of the normal boundaries of it [2].

While the size of the Lake, or other water sources vary by changes in precipitation and melting of the snow season, but the major floods of water, not the water out but threatening human uses, such as soil area villages. The robots or other living space.

Flooding can also occur in the river. When the flow exceeds the capacity of coastal waters, particularly at the bend (bend) or curved (meander) disaster flicks often do damage to home and business are located in the flood plain to naturally. While the damage caused flooding to the fact by moving away from a river or other water sources. If ancient people lived and worked on the water and to benefit from tourism and commerce that is by living near the water and. The men still live in areas at risk of flooding, it is evidence that the experience of living near the water is more than the value of the recurring flood time.

สาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำท่วม
สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดน้ำท่วม ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับสภาพท้องที่ และความวิปริตผันแปรของธรรมชาติ แต่ในบางท้องที่ การกระทำของมนุษย์ ก็มีส่วนสำคัญ ในการทำให้ภาวะการเกิดอุทกภัยนั้น มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นด้วย ดังต่อไปนี้

Causing the flood.
Major reasons that caused most of the flooding, depending on local conditions, and differ from the natural variable, but in all human actions, are an important part of making myocardial flooding. There was more violence. Any of the following:

๑. น้ำท่วมเนื่องจากฝนตกหนัก
น้ำฝน เป็นต้นกำเนิดของน้ำที่ปรากฏบนผิวโลก เมื่อฝนตกลงมาบนผิวดิน จะมีน้ำบางส่วนขังอยู่บนผิวดิน และบางส่วน ซึมลงไปสะสมอยู่ในดิน ครั้นเมื่อมีฝนตกมากขึ้น น้ำจะไม่สามารถซึมลงไปในดิน หรือขังอยู่บนผิวดินได้หมด จึงเกิดน้ำไหลนองไปบนผิวดิน ซึ่งรวมแล้วจะมีปริมาณมากหรือน้อย สัมพันธ์กับปริมาณ และพฤติกรรมของฝนที่ตกเสมอ จากนั้น น้ำจะไหลลงสู่ที่ลุ่มต่ำ ลำน้ำลำธาร แล้วไหลลงสู่แม่น้ำ และทะเลต่อไป

1. the flood because the torrent
Rain water is the origin of water on the surface of the world. When the rain is falling on the surface, there will be some trapped on the water surface and partially absorbed into the ground but on when it rains more. The water will not be absorbed into the ground or trapped on the surface, it's all happening on the surface water to overflow, are more or less related to the quantity and the behavior of the rain water is always flowing into the lower group. Estuaries, flowing into rivers and the sea further.

2. น้ำทะเลหนุน
โดยทั่วไป พื้นที่ราบลุ่มตามบริเวณสองฝั่งแม่น้ำที่อยู่ห่างจากปากอ่าว หรือทะเลไม่ไกลนัก ระดับน้ำในแม่น้ำบริเวณนั้น มักจะอยู่ในอิทธิพลน้ำขึ้นน้ำลง อันเนื่องมาจากระดับน้ำทะเลหนุนตลอดเวลา เมื่อน้ำที่ไหลหลากลงมาตามแม่น้ำคราวใด มีปริมาณมาก และตรงกับฤดูกาล หรือช่วงเวลาที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูงเกินกว่าปกติ ก็จะทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมและอุทกภัย แก่พื้นที่ทำการเกษตร และในเขตที่อยู่อาศัยอย่างรุนแรงเสมอมา

2. sea water to sustain
In General, The two plains area as the river away from the inlet or ocean water levels in the visitors area of the River, it is usually in the water influences. Due to sea level at all times. When the water is flowing, colorful, down by the River any time. There are plenty of and corresponds to the season or the time interval that is too high will lead to sea level, normal, it will cause extreme flood and the flood is sufficiently substantial and serious, in a residential area.

3. การเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับสภาวะแวดล้อม

พื้นที่หลายแห่งได้รับความเสียหายจากอุทกภัย เนื่องมาจากสภาวะแวดล้อมของพื้นที่บริเวณนั้นๆ มีการเปลี่ยนแปลงจากสภาพเดิม

3.๑ การขยายตัวของเขตชุมชน และการทำลายระบบระบายน้ำที่มีอยู่ตามธรรมชาติ

พื้นที่ส่วนใหญ่ ซึ่งแต่ก่อนเคยเป็นพื้นที่ที่ราษฎรใช้ทำการเกษตรนั้น ประกอบด้วยพื้นที่ลุ่ม มีแอ่งน้ำ หนอง บึง และลำคลองธรรมชาติ เพื่อรับน้ำเข้า และระบายน้ำออกจากพื้นที่ได้อย่างสะดวก หรือมีความสมดุลตามสภาพธรรมชาติดี โดยไม่มีน้ำท่วมขัง ครั้นเมื่อมีการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นชุมชน แหล่งอุตสาหกรรม หรือที่อยู่อาศัย จึงมีการถมดินปรับพื้นที่ สร้างถนน สิ่งก่อสร้างต่างๆ ขยายตัวออกไปเป็นบริเวณกว้าง เป็นเหตุให้แอ่งน้ำ หนอง บึง และลำคลองธรรมชาติทั้งหลาย ต้องถูกทำลายหมดไป และมูลเหตุสำคัญก็คือ ภายในเขตชุมชนที่ตั้งขึ้นใหม่หลายแห่ง มักไม่ได้สร้างระบบการระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้เหมาะสม และมีประสิทธิภาพขึ้นแทน ดังนั้น เมื่อถึงเวลาที่มีฝนตกหนัก จึงทำให้เกิดน้ำท่วมขังนาน และความเสียหายย่อมบังเกิดติดตามมา

3.๒ แผ่นดินทรุด

พื้นที่ในเขตเมือง หรือชุมชน ที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นนั้น มักจะประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำอยู่เป็นประจำ ซึ่งโดยทั่วไปจะมีวิธีการแก้ไข ด้วยการสูบน้ำจากแหล่งน้ำบาดาลขึ้นมาใช้อุปโภคบริโภค และเพื่อการอุตสาหกรรมเป็นปริมาณมาก ในแต่ละปี วิธีการดังกล่าว เป็นสาเหตุทำให้แรงดันของน้ำในแหล่งน้ำบาดาลที่ระดับลึกนั้น มีค่าลดต่ำลงมาก จากนั้นน้ำในชั้นดิน ซึ่งทับอยู่บนชั้นกรวดทรายที่เป็นแหล่งน้ำบาดาล จะถ่ายเทไหลเข้าไปในชั้นกรวดทรายด้านล่างตามธรรมชาติ เมื่อน้ำในช่องว่างของดินสูญหายไปมากขึ้นๆ ชั้นดินดังกล่าวจะค่อยๆ ยุบตัวลงทีละน้อย จนเกิดแผ่นดินทรุด ทำให้ผิวดินเป็นแอ่ง มีระดับต่ำกว่าปกติในบริเวณกว้าง เช่น พื้นที่หลายแห่งในเขตกรุงเทพมหานคร และจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมขังนา

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ภาวะน้ำท่วมน้ำท่วมเป็นการไหลล้นของห้วงน้ำซึ่งทำให้แผ่นดินจมอยู่ใต้น้ำ [1] คำว่า "น้ำเอ่อล้น" (น้ำไหล) ยังอาจใช้กับการไหลเข้าของกระแสน้ำน้ำท่วมอาจเป็นผลของปริมาตรน้ำภายในแหล่งน้ำเช่นแม่น้ำหรือทะเลสาบซึ่งไหลล้นหรือทลายคันดินเป็นผลให้น้ำบางส่วนออกจากขอบเขตตามปกติของมัน [2]ขณะที่ขนาดของทะเลสาบหรือแหล่งน้ำอื่นมีความแตกต่างกันตามการเปลี่ยนแปลงหยาดน้ำฟ้าและการละลายของหิมะตามฤดูกาลแต่น้ำนั้นมิใช่อุทกภัยที่สำคัญเว้นแต่น้ำนั้นออกมาคุกคามพื้นที่ดินที่มนุษย์ใช้เช่นหมู่บ้านนครหรือพื้นที่อยู่อาศัยอื่นน้ำท่วมยังสามารถเกิดในแม่น้ำได้ เมื่อการไหลนั้นเกินความจุของฝั่งน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่หัวเลี้ยว (bend) หรือทางน้ำโค้งตวัด (meander) อุทกภัยมักทำความเสียหายแก่บ้านและธุรกิจหากตั้งอยู่ในที่ราบน้ำท่วมถึงตามธรรมชาติ ขณะที่ความเสียหายอันเกิดจากอุทกภัยนั้นแท้จริงแล้วหมดไปได้โดยการย้ายออกจากแม่น้ำหรือแหล่งน้ำอื่น หากตั้งแต่สมัยโบราณ ผู้คนได้อาศัยและทำงานอยู่ริมน้ำเพื่อการยังชีพและได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวและการพาณิชย์ที่ถูกและง่ายโดยอาศัยอยู่ใกล้น้ำ การที่มนุษย์ยังคงอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมนั้นเป็นหลักฐานว่า มูลค่าที่สัมผัสได้ของการอาศัยอยู่ใกล้น้ำมีมากเกินมูลค่าของน้ำท่วมที่เกิดซ้ำเป็นเวลาThe flood is the overfill of the reservoir water, which makes the land sank under the water [1]. "UM, water overflow" (flowing water). May also be used with the inflow of water flow. The flood may have as a result of the volume of water within a body of water such as a river or Lake that fall to overfill or khandin as a result, some of the water out of the normal boundaries of it [2].While the size of the Lake, or other water sources vary by changes in precipitation and melting of the snow season, but the major floods of water, not the water out but threatening human uses, such as soil area villages. The robots or other living space.Flooding can also occur in the river. When the flow exceeds the capacity of coastal waters, particularly at the bend (bend) or curved (meander) disaster flicks often do damage to home and business are located in the flood plain to naturally. While the damage caused flooding to the fact by moving away from a river or other water sources. If ancient people lived and worked on the water and to benefit from tourism and commerce that is by living near the water and. The men still live in areas at risk of flooding, it is evidence that the experience of living near the water is more than the value of the recurring flood time.สาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำท่วมสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดน้ำท่วม ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับสภาพท้องที่ และความวิปริตผันแปรของธรรมชาติ แต่ในบางท้องที่ การกระทำของมนุษย์ ก็มีส่วนสำคัญ ในการทำให้ภาวะการเกิดอุทกภัยนั้น มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นด้วย ดังต่อไปนี้
Causing the flood.
Major reasons that caused most of the flooding, depending on local conditions, and differ from the natural variable, but in all human actions, are an important part of making myocardial flooding. There was more violence. Any of the following:

๑. น้ำท่วมเนื่องจากฝนตกหนัก
น้ำฝน เป็นต้นกำเนิดของน้ำที่ปรากฏบนผิวโลก เมื่อฝนตกลงมาบนผิวดิน จะมีน้ำบางส่วนขังอยู่บนผิวดิน และบางส่วน ซึมลงไปสะสมอยู่ในดิน ครั้นเมื่อมีฝนตกมากขึ้น น้ำจะไม่สามารถซึมลงไปในดิน หรือขังอยู่บนผิวดินได้หมด จึงเกิดน้ำไหลนองไปบนผิวดิน ซึ่งรวมแล้วจะมีปริมาณมากหรือน้อย สัมพันธ์กับปริมาณ และพฤติกรรมของฝนที่ตกเสมอ จากนั้น น้ำจะไหลลงสู่ที่ลุ่มต่ำ ลำน้ำลำธาร แล้วไหลลงสู่แม่น้ำ และทะเลต่อไป

1. the flood because the torrent
Rain water is the origin of water on the surface of the world. When the rain is falling on the surface, there will be some trapped on the water surface and partially absorbed into the ground but on when it rains more. The water will not be absorbed into the ground or trapped on the surface, it's all happening on the surface water to overflow, are more or less related to the quantity and the behavior of the rain water is always flowing into the lower group. Estuaries, flowing into rivers and the sea further.

2. น้ำทะเลหนุน
โดยทั่วไป พื้นที่ราบลุ่มตามบริเวณสองฝั่งแม่น้ำที่อยู่ห่างจากปากอ่าว หรือทะเลไม่ไกลนัก ระดับน้ำในแม่น้ำบริเวณนั้น มักจะอยู่ในอิทธิพลน้ำขึ้นน้ำลง อันเนื่องมาจากระดับน้ำทะเลหนุนตลอดเวลา เมื่อน้ำที่ไหลหลากลงมาตามแม่น้ำคราวใด มีปริมาณมาก และตรงกับฤดูกาล หรือช่วงเวลาที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูงเกินกว่าปกติ ก็จะทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมและอุทกภัย แก่พื้นที่ทำการเกษตร และในเขตที่อยู่อาศัยอย่างรุนแรงเสมอมา

2. sea water to sustain
In General, The two plains area as the river away from the inlet or ocean water levels in the visitors area of the River, it is usually in the water influences. Due to sea level at all times. When the water is flowing, colorful, down by the River any time. There are plenty of and corresponds to the season or the time interval that is too high will lead to sea level, normal, it will cause extreme flood and the flood is sufficiently substantial and serious, in a residential area.

3. การเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับสภาวะแวดล้อม

พื้นที่หลายแห่งได้รับความเสียหายจากอุทกภัย เนื่องมาจากสภาวะแวดล้อมของพื้นที่บริเวณนั้นๆ มีการเปลี่ยนแปลงจากสภาพเดิม

3.๑ การขยายตัวของเขตชุมชน และการทำลายระบบระบายน้ำที่มีอยู่ตามธรรมชาติ

พื้นที่ส่วนใหญ่ ซึ่งแต่ก่อนเคยเป็นพื้นที่ที่ราษฎรใช้ทำการเกษตรนั้น ประกอบด้วยพื้นที่ลุ่ม มีแอ่งน้ำ หนอง บึง และลำคลองธรรมชาติ เพื่อรับน้ำเข้า และระบายน้ำออกจากพื้นที่ได้อย่างสะดวก หรือมีความสมดุลตามสภาพธรรมชาติดี โดยไม่มีน้ำท่วมขัง ครั้นเมื่อมีการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นชุมชน แหล่งอุตสาหกรรม หรือที่อยู่อาศัย จึงมีการถมดินปรับพื้นที่ สร้างถนน สิ่งก่อสร้างต่างๆ ขยายตัวออกไปเป็นบริเวณกว้าง เป็นเหตุให้แอ่งน้ำ หนอง บึง และลำคลองธรรมชาติทั้งหลาย ต้องถูกทำลายหมดไป และมูลเหตุสำคัญก็คือ ภายในเขตชุมชนที่ตั้งขึ้นใหม่หลายแห่ง มักไม่ได้สร้างระบบการระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้เหมาะสม และมีประสิทธิภาพขึ้นแทน ดังนั้น เมื่อถึงเวลาที่มีฝนตกหนัก จึงทำให้เกิดน้ำท่วมขังนาน และความเสียหายย่อมบังเกิดติดตามมา

3.๒ แผ่นดินทรุด

พื้นที่ในเขตเมือง หรือชุมชน ที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นนั้น มักจะประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำอยู่เป็นประจำ ซึ่งโดยทั่วไปจะมีวิธีการแก้ไข ด้วยการสูบน้ำจากแหล่งน้ำบาดาลขึ้นมาใช้อุปโภคบริโภค และเพื่อการอุตสาหกรรมเป็นปริมาณมาก ในแต่ละปี วิธีการดังกล่าว เป็นสาเหตุทำให้แรงดันของน้ำในแหล่งน้ำบาดาลที่ระดับลึกนั้น มีค่าลดต่ำลงมาก จากนั้นน้ำในชั้นดิน ซึ่งทับอยู่บนชั้นกรวดทรายที่เป็นแหล่งน้ำบาดาล จะถ่ายเทไหลเข้าไปในชั้นกรวดทรายด้านล่างตามธรรมชาติ เมื่อน้ำในช่องว่างของดินสูญหายไปมากขึ้นๆ ชั้นดินดังกล่าวจะค่อยๆ ยุบตัวลงทีละน้อย จนเกิดแผ่นดินทรุด ทำให้ผิวดินเป็นแอ่ง มีระดับต่ำกว่าปกติในบริเวณกว้าง เช่น พื้นที่หลายแห่งในเขตกรุงเทพมหานคร และจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมขังนา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภาวะน้ำท่วม
น้ำท่วม คำว่า "น้ำเอ่อล้น" (น้ำไหล) ยังอาจใช้กับการไหลเข้าของกระแสน้ำ เช่นแม่น้ำหรือทะเลสาบซึ่งไหลล้นหรือทลายคันดิน เช่นหมู่บ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่หัวเลี้ยว (โค้ง) หรือทางน้ำโค้งตวัด (คดเคี้ยว) หากตั้งแต่สมัยโบราณ น้ำท่วมเป็นกบน้ำอ่างเก็บน้ำซึ่งจะทำให้ที่ดินที่จมอยู่ใต้น้ำ [1] "เอ่อล้นน้ำ" (น้ำไหล) ก็อาจจะนำมาใช้กับการไหลเข้าของการไหลของน้ำ น้ำท่วมอาจจะมีเป็นผลมาจากปริมาณน้ำที่อยู่ภายในร่างกายของน้ำเช่นแม่น้ำหรือทะเลสาบที่ตกอยู่กับกบหรือ khandin เป็นผลให้บางส่วนของน้ำออกจากขอบเขตปกติของมัน [2]. ในขณะที่ ขนาดของทะเลสาบหรือแหล่งน้ำอื่น ๆ แตกต่างกันไปจากการเปลี่ยนแปลงในการตกตะกอนและการละลายของหิมะฤดู แต่น้ำท่วมที่สำคัญของน้ำไม่ได้น้ำออก แต่คุกคามการใช้งานของมนุษย์เช่นหมู่บ้านพื้นที่ดิน หุ่นยนต์หรือพื้นที่มีชีวิตอื่น ๆ . น้ำท่วมยังสามารถเกิดขึ้นในแม่น้ำ เมื่อการไหลเกินความจุของน้ำชายฝั่งทะเลโดยเฉพาะอย่างยิ่งในโค้ง (โค้ง) หรือโค้ง (คดเคี้ยว) ตวัดภัยพิบัติมักจะทำความเสียหายให้กับบ้านและธุรกิจที่อยู่ในที่ราบน้ำท่วมตามธรรมชาติ ในขณะที่ความเสียหายที่เกิดน้ำท่วมความจริงโดยการย้ายออกไปจากแม่น้ำหรือแหล่งน้ำอื่น ๆ ถ้าคนโบราณอาศัยและทำงานอยู่ในน้ำและจะได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวและการพาณิชย์ที่อยู่โดยอาศัยอยู่ใกล้น้ำและ คนยังคงอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจากน้ำท่วมมันเป็นหลักฐานที่แสดงว่าประสบการณ์ของผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้น้ำเป็นมากกว่ามูลค่าของน้ำท่วมที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับสภาพท้องที่และความวิปริตผันแปรของธรรมชาติ แต่ในบางท้องที่การกระทำของมนุษย์ก็มีส่วนสำคัญในการทำให้ภาวะการเกิดอุทกภัยนั้นมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นด้วยดังต่อไปนี้ก่อให้เกิดน้ำท่วม. เหตุผลที่สำคัญ ที่ทำให้เกิดน้ำท่วมส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับสภาพท้องถิ่นและแตกต่างจากตัวแปรธรรมชาติ แต่ในการกระทำของมนุษย์ทุกคนเป็นส่วนสำคัญในการทำให้น้ำท่วมเนื้อหัวใจตาย มีความรุนแรงมากขึ้น ดังต่อไปนี้: 1 น้ำท่วมเนื่องจากฝนตกหนักน้ำฝน เมื่อฝนตกลงมาบนผิวดินจะมีน้ำบางส่วนขังอยู่บนผิวดินและบางส่วนซึมลงไปสะสมอยู่ในดินครั้นเมื่อมีฝนตกมากขึ้นน้ำจะไม่สามารถซึมลงไปในดินหรือขังอยู่บนผิวดินได้ หมดจึงเกิดน้ำไหลนองไปบนผิวดินซึ่งรวมแล้วจะมีปริมาณมากหรือน้อยสัมพันธ์กับปริมาณและพฤติกรรมของฝนที่ตกเสมอจากนั้นน้ำจะไหลลงสู่ที่ลุ่มต่ำลำน้ำลำธารแล้วไหลลงสู่แม่น้ำและทะเลต่อ ไป1 น้ำท่วมเนื่องจากฝนตกหนักน้ำฝนเป็นที่มาของน้ำบนพื้นผิวของโลก เมื่อฝนจะตกบนพื้นผิวที่จะมีบางติดอยู่บนพื้นผิวของน้ำและดูดซึมลงไปในดินบางส่วน แต่ในเมื่อฝนตกมากขึ้น น้ำจะไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่พื้นดินหรือติดอยู่บนพื้นผิวที่มันคือทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนพื้นผิวของน้ำท่วมมีมากหรือน้อยที่เกี่ยวข้องกับปริมาณและพฤติกรรมของน้ำฝนมักจะไหลเข้ามาในกลุ่มที่ต่ำกว่า บริเวณปากแม่น้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำและทะเลต่อไป. 2 น้ำทะเลหนุนโดยทั่วไป หรือทะเลไม่ไกลนักระดับน้ำในแม่น้ำบริเวณนั้นมักจะอยู่ในอิทธิพลน้ำขึ้นน้ำลง มีปริมาณมากและตรงกับฤดูกาล แก่พื้นที่ทำการเกษตร น้ำทะเลที่จะรักษาโดยทั่วไปทั้งสองพื้นที่เป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำห่างจากทางเข้าหรือระดับน้ำทะเลในพื้นที่ผู้เข้าชมแม่น้ำก็มักจะอยู่ในอิทธิพลของน้ำ เนื่องจากระดับน้ำทะเลตลอดเวลา เมื่อน้ำไหลที่มีสีสันลงแม่น้ำได้ตลอดเวลา มีมากมายและสอดคล้องกับฤดูกาลหรือช่วงเวลาที่สูงเกินไปจะนำไปสู่ระดับน้ำทะเลปกติก็จะทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงและน้ำท่วมพอที่สำคัญและร้ายแรงในพื้นที่ที่อยู่อาศัย. 3 มีการเปลี่ยนแปลงจากสภาพเดิม3.1 การขยายตัวของเขตชุมชน ประกอบด้วยพื้นที่ลุ่มมีแอ่งน้ำหนองบึงและลำคลองธรรมชาติเพื่อรับน้ำเข้า หรือมีความสมดุลตามสภาพธรรมชาติดีโดยไม่มีน้ำท่วมขัง แหล่งอุตสาหกรรมหรือที่อยู่อาศัยจึงมีการถมดินปรับพื้นที่สร้างถนนสิ่งก่อสร้างต่างๆขยายตัวออกไปเป็นบริเวณกว้างเป็นเหตุให้แอ่งน้ำหนองบึงและลำคลองธรรมชาติทั้งหลายต้องถูกทำลายหมดไปและมูลเหตุสำคัญก็คือ และมีประสิทธิภาพขึ้นแทนดังนั้นเมื่อถึงเวลาที่มีฝนตกหนักจึงทำให้เกิดน้ำท่วมขังนาน แผ่นดินทรุดในพื้นที่เขตเมืองหรือชุมชน ซึ่งโดยทั่วไปจะมีวิธีการแก้ไข ในแต่ละปีวิธีการดังกล่าว มีค่าลดต่ำลงมากจากนั้นน้ำในชั้นดิน ชั้นดินดังกล่าวจะค่อยๆยุบตัวลงทีละน้อยจนเกิดแผ่นดินทรุดทำให้ผิวดินเป็นแอ่งมีระดับต่ำกว่าปกติในบริเวณกว้างเช่นพื้นที่หลายแห่งในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดสมุทรปราการซึ่งเป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมขังนา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ภาวะน้ำท่วม
น้ำท่วมเป็นการไหลล้นของห้วงน้ำซึ่งทำให้แผ่นดินจมอยู่ใต้น้ำ [ 1 ] คำว่า " น้ำเอ่อล้น " ( น้ำไหล ) ยังอาจใช้กับการไหลเข้าของกระแสน้ำน้ำท่วมอาจเป็นผลของปริมาตรน้ำภายในแหล่งน้ำเช่นแม่น้ำหรือทะเลสาบเป็นผลให้น้ำบางส่วนออกจากขอบเขตตามปกติของมัน [ 2 ]

ขณะที่ขนาดของทะเลสาบหรือแหล่งน้ำอื่นมีความแตกต่างกันตามการเปลี่ยนแปลงหยาดน้ำฟ้าและการละลายของหิมะตามฤดูกาลแต่น้ำนั้นมิใช่อุทกภัยที่สำคัญเว้นแต่น้ำนั้นออกมาคุกคามพื้นที่ดินที่มนุษย์ใช้เช่นหมู่บ้าน
น้ำท่วมยังสามารถเกิดในแม่น้ำได้เมื่อการไหลนั้นเกินความจุของฝั่งน้ำโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่หัวเลี้ยว ( โค้ง ) หรือทางน้ำโค้งตวัด ( พาย )ขณะที่ความเสียหายอันเกิดจากอุทกภัยนั้นแท้จริงแล้วหมดไปได้โดยการย้ายออกจากแม่น้ำหรือแหล่งน้ำอื่นหากตั้งแต่สมัยโบราณการที่มนุษย์ยังคงอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมนั้นเป็นหลักฐานว่ามูลค่าที่สัมผัสได้ของการอาศัยอยู่ใกล้น้ำมีมากเกินมูลค่าของน้ำท่วมที่เกิดซ้ำเป็นเวลา
น้ำท่วมคือกบในน้ำ ซึ่งทำให้แผ่นดินจมอยู่ใต้น้ำ [ 1 ] " อืม น้ำล้น " ( น้ำไหล ) นอกจากนี้ยังอาจใช้กับการไหลเข้าของน้ำไหล น้ำท่วมอาจเป็นผลมาจากปริมาณของน้ำภายในร่างกายของน้ำ เช่น ทะเลสาบ แม่น้ำ หรือที่ตกอยู่กับกบ หรือ khandin เป็นผล บางส่วนของน้ำที่ออกมาจากปกติขอบเขตของ [ 2 ] .

ในขณะที่ขนาดของทะเลสาบหรือแหล่งน้ำอื่น ๆแตกต่างจากการเปลี่ยนแปลงในการตกตะกอนและการหลอมละลายของฤดูหิมะ แต่สาขาที่ท่วมน้ำไม่ใช่น้ำแต่ขู่ใช้มนุษย์ เช่น หมู่บ้าน พื้นที่ดิน หุ่นยนต์ หรือพื้นที่ใช้สอยอื่น ๆ .

น้ำท่วมยังสามารถเกิดขึ้นในแม่น้ำ เมื่อกระแสเกินความสามารถของน่านน้ำชายฝั่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่โค้ง ( โค้ง ) หรือโค้ง ( ราคาถูก ) ภัยพิบัติตวัดมักจะทำความเสียหายให้กับบ้านและธุรกิจที่ตั้งอยู่ในที่น้ำท่วมถึงโดยธรรมชาติ ขณะที่ความเสียหายที่เกิดน้ำท่วมในความเป็นจริงโดยการย้ายจากแม่น้ำหรือแหล่งน้ำอื่น ๆ ถ้าคนโบราณอาศัยอยู่และทำงานในน้ำและได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวและการพาณิชย์ที่อยู่ใกล้น้ำและคนยังคงอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม มันเป็นหลักฐานที่พบอาศัยอยู่ใกล้น้ำจะมากกว่าค่าของน้ำท่วมที่เกิดขึ้น

สาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำท่วมครั้งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดน้ำท่วมส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับสภาพท้องที่และความวิปริตผันแปรของธรรมชาติแต่ในบางท้องที่การกระทำของมนุษย์ก็มีส่วนสำคัญในการทำให้ภาวะการเกิดอุทกภัยนั้นมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นด้วย

ทำให้น้ำท่วม สาเหตุหลักที่ทำให้ส่วนใหญ่ของน้ำท่วม ขึ้นอยู่กับสภาพท้องถิ่น และแตกต่างจากตัวแปรที่เป็นธรรมชาติ แต่ในการกระทําของมนุษย์ทุกคน เป็นส่วนที่สำคัญที่ทำให้น้ำท่วมและ . มีการใช้ความรุนแรงมากขึ้น ใด ๆต่อไปนี้ :

๑ . น้ำท่วมเนื่องจากฝนตกหนัก
น้ำฝนเป็นต้นกำเนิดของน้ำที่ปรากฏบนผิวโลกเมื่อฝนตกลงมาบนผิวดินจะมีน้ำบางส่วนขังอยู่บนผิวดินและบางส่วนซึมลงไปสะสมอยู่ในดินครั้นเมื่อมีฝนตกมากขึ้นน้ำจะไม่สามารถซึมลงไปในดินหรือขังอยู่บนผิวดินได้หมดซึ่งรวมแล้วจะมีปริมาณมากหรือน้อยสัมพันธ์กับปริมาณและพฤติกรรมของฝนที่ตกเสมอจากนั้นน้ำจะไหลลงสู่ที่ลุ่มต่ำลำน้ำลำธารแล้วไหลลงสู่แม่น้ำและทะเลต่อไป

1 น้ำท่วมเนื่องจากฝนตกหนัก
น้ำฝนเป็นที่มาของน้ำบนพื้นผิวของโลก เมื่อสายฝนโปรยปรายบนพื้นผิวจะต้องมีติดอยู่ในน้ำและบางส่วนซึมลงดิน แต่เมื่อฝนตกมากขึ้น น้ำจะไม่ซึมลงดิน หรือติดบนพื้นผิว มันเกิดขึ้นบนพื้นผิวน้ำ ท่วมมีมากหรือน้อยสัมพันธ์กับปริมาณและพฤติกรรมของฝนน้ำมักไหลเข้าไปในกลุ่มล่าง อ้อย ไหลลงแม่น้ำและทะเลต่อไป

2 น้ำทะเลหนุน
โดยทั่วไปพื้นที่ราบลุ่มตามบริเวณสองฝั่งแม่น้ำที่อยู่ห่างจากปากอ่าวหรือทะเลไม่ไกลนักระดับน้ำในแม่น้ำบริเวณนั้นมักจะอยู่ในอิทธิพลน้ำขึ้นน้ำลงอันเนื่องมาจากระดับน้ำทะเลหนุนตลอดเวลามีปริมาณมากและตรงกับฤดูกาลหรือช่วงเวลาที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูงเกินกว่าปกติก็จะทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมและอุทกภัยแก่พื้นที่ทำการเกษตรและในเขตที่อยู่อาศัยอย่างรุนแรงเสมอมา

2 . น้ำทะเลหนุน
ทั่วไป สองพื้นที่เป็นที่ราบแม่น้ำห่างจากปากน้ำ หรือ ระดับน้ำทะเลในพื้นที่ที่ผู้เข้าชมของแม่น้ำเป็นปกติในน้ำอิทธิพล เนื่องจากระดับน้ำทะเลตลอดเวลา เมื่อน้ำไหล , สีสัน , ลงแม่น้ำได้ตลอดเวลา มีมากมายและสอดคล้องกับฤดูกาลหรือช่วงเวลาที่สูงเกินไปจะทำให้ระดับน้ำทะเลปกติก็จะทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงและน้ำท่วมเป็นอย่างมากและร้ายแรง ในพื้นที่อยู่อาศัย

3 การเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับสภาวะแวดล้อม

พื้นที่หลายแห่งได้รับความเสียหายจากอุทกภัยเนื่องมาจากสภาวะแวดล้อมของพื้นที่บริเวณนั้นๆมีการเปลี่ยนแปลงจากสภาพเดิม

3 . ๑การขยายตัวของเขตชุมชนและการทำลายระบบระบายน้ำที่มีอยู่ตามธรรมชาติ

พื้นที่ส่วนใหญ่ซึ่งแต่ก่อนเคยเป็นพื้นที่ที่ราษฎรใช้ทำการเกษตรนั้นประกอบด้วยพื้นที่ลุ่มมีแอ่งน้ำหนองบึงและลำคลองธรรมชาติเพื่อรับน้ำเข้าและระบายน้ำออกจากพื้นที่ได้อย่างสะดวกโดยไม่มีน้ำท่วมขังครั้นเมื่อมีการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นชุมชนแหล่งอุตสาหกรรมหรือที่อยู่อาศัยจึงมีการถมดินปรับพื้นที่สร้างถนนสิ่งก่อสร้างต่างๆขยายตัวออกไปเป็นบริเวณกว้างเป็นเหตุให้แอ่งน้ำหนองและลำคลองธรรมชาติทั้งหลายต้องถูกทำลายหมดไปและมูลเหตุสำคัญก็คือภายในเขตชุมชนที่ตั้งขึ้นใหม่หลายแห่งมักไม่ได้สร้างระบบการระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพขึ้นแทนดังนั้นจึงทำให้เกิดน้ำท่วมขังนานและความเสียหายย่อมบังเกิดติดตามมา
๒แผ่นดินทรุด


3พื้นที่ในเขตเมืองหรือชุมชนที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นนั้นมักจะประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำอยู่เป็นประจำซึ่งโดยทั่วไปจะมีวิธีการแก้ไขด้วยการสูบน้ำจากแหล่งน้ำบาดาลขึ้นมาใช้อุปโภคบริโภคในแต่ละปีวิธีการดังกล่าวเป็นสาเหตุทำให้แรงดันของน้ำในแหล่งน้ำบาดาลที่ระดับลึกนั้นมีค่าลดต่ำลงมากจากนั้นน้ำในชั้นดินซึ่งทับอยู่บนชั้นกรวดทรายที่เป็นแหล่งน้ำบาดาลเมื่อน้ำในช่องว่างของดินสูญหายไปมากขึ้นๆชั้นดินดังกล่าวจะค่อยๆยุบตัวลงทีละน้อยจนเกิดแผ่นดินทรุดทำให้ผิวดินเป็นแอ่งมีระดับต่ำกว่าปกติในบริเวณกว้างเช่นพื้นที่หลายแห่งในเขตกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมขังนา