HE IS THE TRUTHPontius Pilate once

HE IS THE TRUTH

Pontius Pilate once asked Jesus, “What is truth?” (Jn. 18:38). Jesus gave Pilate no answer because the question was foolish. Truth was standing directly in front of Pilate and he couldn’t see it. The great statesman, Winston Churchill, once remarked: “Men stumble over truth from time to time, but most pick themselves up and hurry off as if nothing happened.” *

The statement, “Jesus is the truth” really troubles a lot of people in the postmodern world today. Around twenty to thirty years ago we noticed the Postmodern Movement making its appearance. We began to hear its buzz words like “tolerance,” “multiculturalism,” and “political correctness.” One primary maxim of this new movement is that there is no ultimate truth. This sounds a little like they have just established an ultimate truth – that there is no ultimate truth. They say that all “truth” is affected by bias and that all “truth” is relative. Even as early as the 1990s, the Barna surveys were already showing that sixty-six percent of Americans did not believe in any ultimate truth. When Barna surveyed the 18-25 year-old group he discovered that the figure had jumped to seventy-two percent. **

Postmodern doctrine teaches that since all truth is relative and ever-changing one person’s “truth” is just as true as another person’s. Someone has remarked that about the only sin in Postmodernism is to question another’s “truth.” The argument also goes on that the Christian’s truth is no better than the pagan’s truth since all truth is culturally conditioned. In other words, what is true for one people may not be true for other people. We might wonder how some of these postmodern philosophers might react if they found themselves being prepared as lunch by some hungry cannibals. We can imagine that just as the water in the pot heated up and they began dancing to keep their feet off the hot bottom they might begin to seriously and anxiously question the cannibals’ concept of “truth.”

Also the postmoderns are busy applying their ideas to all areas of knowledge. They feel obliged to “deconstruct” all these areas that used to be truth and bring them into alignment with their own ideas. Of course, these areas would include the Bible, science, history, and apparently even logic. In the US we have a host of “new historians” who are rewriting our history and excluding the Christian foundations of early America.

Well, it usually takes only about 10-15 years until what the world is saying filters into the church. We begin to say the same things, but of course we cloak it all in some kind of religious language. So today in the church it is becoming popular for everyone to have his own “truth.” Someone will say: “My truth is that I can do drugs and be a Christian; or my truth is that I can dabble in sorcery.” Someone else may say “I can have a ‘meaningful relationship’ outside marriage and be a Christian;” or “I can elect an ‘alternate life-style’ becoming homosexual and still be a Christian.” Is all this really any different than what Israel was saying in Judges 17:6, when everyone did what was right in own eyes and not in the Lord’s eyes? Is it different than what Paul was saying in Rom 1:25? He states: “They exchanged the truth of God for a lie, and worshiped and served created things rather than the Creator—who is forever praised.”

Today, millions have sold truth for false humanistic philosophies to fulfill their own lusts. Some years ago the famed Darwinist, Julian Huxley, was interviewed on the Merv Griffin Show. In this session he stated that the reason he accepted Darwinism without proof was because he didn’t want God to interfere with his sexual mores. *** In a moment of carelessness on camera he had revealed the stark truth behind humanism.

The author, Dennis McCallum, has written an excellent work on Postmodernism entitled The Death of Truth. I highly recommend it to our readers. But today we must proclaim that truth is not dead nor will it die. Truth is eternal and Jesus is the truth.

There is something that might happen to truth however. Truth may become a collectors item because there will be so little of it. The Bible seems to indicate this, even giving us some wise investment counsel with these words of Proverbs 23:23: “Buy the truth and do not sell it.” Hitherto some have sold it and they have sold it cheaply.

In another picture the Bible advises us to put on the “belt of truth” (Eph. 6:14). Actually it is the first item of armor that we put on in preparation for that final battle, and we see that it holds the rest of our amour together, even holding on our sword. The Bible assures us that in this awful Day of the Lord those who are living lies will perish: “They perish because they refused to love the truth and so be saved” (2 Thess. 2:10). We are told in the next verse that God will send such folks a strong delusion.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความจริงคือเขา

โยคะพอนติอุสเมื่อถามพระเยซู อะไรคือความจริง " (Jn. 18:38) พระเยซูให้โยคะไม่ตอบเพราะคำถามโง่ ความจริงยืนตรงหน้าโยคะ และเขาไม่สามารถมองเห็นได้ รัฐบุรุษดี เคิร์ดโซว์วินสตัน กล่าวครั้งเดียว: "ผู้ชายสะดุดความจริงเวลา แต่ส่วนใหญ่รับตัวเอง และรีบปิดว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น" *

ยอด "พระเยซูคือ ความจริง" จริง ๆ troubles มากในโลกหลังสมัยใหม่วันนี้ ประมาณ 20-30 ปีที่ผ่านมาเราสังเกตการเคลื่อนไหวหลังสมัยใหม่ที่ทำให้ลักษณะของ เราเริ่มได้ยินคำของ buzz เช่น "ยอมรับ "multiculturalism" และ"ความทางการเมืองถูกต้อง" แม็กหลักหนึ่งของการเคลื่อนไหวใหม่นี้คือมีความจริงสูงสุดไม่ นี้เสียงเพียงเล็กน้อยเช่นพวกเขาเพียงแค่สร้างความจริงที่ดีที่สุด – ที่มีความจริงสูงสุดไม่ พวกเขาพูดว่า "จริง" ทั้งหมดจะมีผลต่อความโน้มเอียง และทั้งหมด "ความจริง" เป็นญาติ แม้จะเป็นช่วงต้นปี 1990 สำรวจ Barna ได้แล้วแสดงว่าหกหกเปอร์เซ็นต์ของชาวอเมริกันไม่เชื่อในความจริงใด ๆ ที่ดีที่สุด เมื่อ Barna สำรวจ 18-25 ปี-กลุ่มเก่าที่เขาค้นพบว่า ตัวเลขมีไปสองเจ็ดเปอร์เซ็นต์ **

ลัทธิหลังสมัยใหม่สอนที่เนื่องจากความจริงทั้งหมดเป็นญาติ และเปลี่ยนแปลงคนเดียวของ "ความจริง" เป็นเพียงความจริงเป็นของบุคคลอื่น คนได้กล่าวว่า เกี่ยวกับบาปเฉพาะใน Postmodernism คือการ ถามใจ "ความจริง"อาร์กิวเมนต์ยังไปที่คริสเตียนที่จริงก็คือไม่ดีกว่าความจริงของพุกามเนื่องจากวัฒนธรรมมีการปรับอากาศความจริงทั้งหมด ในคำอื่น ๆ คืออะไรแท้จริงคนหนึ่งไม่ได้เป็นจริงสำหรับคนอื่น ๆ เราอาจสงสัยว่า วิธีเหล่านี้หลังสมัยใหม่ปรัชญาอาจตอบสนองถ้าพวกเขาพบว่าตัวเองกำลังเตรียมเป็นอาหารกลางวัน โดยบาง cannibals หิว เราสามารถจินตนาการว่า เหมือนหม้อน้ำที่ร้อนขึ้น และพวกเขาเริ่มเต้นรำเพื่อให้เท้าของพวกเขาปิดด้านล่างร้อน พวกเขาอาจจะเริ่มอย่างจริงจัง และกังวลใจคำถามของ cannibals แนวคิดของ "ความจริง"

ยัง postmoderns ที่ว่างใช้ความคิดกับพื้นที่ทั้งหมดของความรู้ พวกเขารู้สึกว่าหน้าที่ "deconstruct" พื้นที่เหล่านี้ทั้งหมดที่ใช้จริง และนำมาใส่ในสอดคล้องกับความคิดของตนเอง แน่นอน พื้นที่เหล่านี้จะมีพระคัมภีร์ วิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และเห็นได้ชัดว่าแม้แต่ตรรกะ ในสหรัฐอเมริกา เรามีโฮสต์ของ "ใหม่นักประวัติศาสตร์" ที่จะเขียนประวัติของเรา และไม่รวมมูลนิธิคริสเตียนของอเมริกาก่อน

ดี โดยปกติจะใช้เวลาเพียง 10-15 ปีจนกระทั่งโลกอะไรบอกว่า กรองในคริสตจักร เราเริ่มพูดในสิ่งเดียวกัน แต่แน่นอนเรา cloak ทั้งหมดในบางชนิดของภาษาศาสนา ดังนั้นวันนี้ในคริสตจักร นั้นกำลังเป็นที่นิยมสำหรับทุกคนเพื่อให้เขาเอง "จริง" บางคนจะบอกว่า: "ความจริงของฉันคือ ฉันสามารถทำยา และเป็นคริสเตียน หรือความจริงของฉันไม่ว่า ฉันสามารถตะลุย sorcery"คนอื่นอาจพูดว่า "ฉันสามารถมี 'ความหมายความสัมพันธ์' นอกสมรส และเป็นคริสเตียน หรือ "ฉันสามารถเลือก 'อื่นวิถีชีวิต' เป็นเกย์ และยัง จะเป็นคริสเตียน" มีทั้งหมดนี้จริง ๆ แตกต่างใด ๆ จากสิ่งที่อิสราเอลถูกพูดในพิพากษา 17:6 เมื่อทุกคนไม่ได้มีอะไร ในสายตาของตัวเองและไม่อยู่ ในสายตาของพระเจ้า มีความแตกต่างสิ่งที่ Paul ถูกพูดในร่ม 1:25 หรือไม่ เขาระบุ: "พวกเขาแลกเปลี่ยนความจริงของพระเจ้าสำหรับการโกหก และก็ และบริการสิ่งที่สร้างแทนที่เป็นผู้สร้าง — ที่จะยกย่องตลอดไป"

วันนี้ ล้านยังขายความจริงปรัชญา humanistic เท็จเพื่อตอบสนองคนเยาะเย้ยบังเกิดตนเอง บางปีมีชื่อเสียง Darwinist, Julian Huxley ถูกสัมภาษณ์ใน Merv กริฟฟอนแสดง ในช่วงนี้ เขาระบุว่า เหตุผลที่เขายอมรับ Darwinism โดยหลักฐานได้เนื่องจากเขาไม่ต้องการพระรบกวนจารีตและวิถีประชาของพระองค์ทางเพศ ในช่วงของการกระจายในกล้อง เขาได้เปิดเผยความจริงสิ้นเชิงหลังมนุษยนิยม

ได้เขียนผู้เขียน เดนนิส McCallum เป็นงานที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับ Postmodernism ตายความจริงที่ได้รับการ ผมแนะให้ผู้อ่านของเรา แต่วันนี้เราต้องประกาศว่า ความจริงไม่ตาย หรือมันจะตาย ความจริงเป็นนิรันดร์ และพระเยซูเป็นความจริง

มีบางสิ่งบางอย่างที่อาจเกิดขึ้นกับความจริงอย่างไรก็ตาม ความจริงอาจกลายเป็น สินค้าสะสมเนื่องจากจะมีน้อยมากของมัน พระคัมภีร์น่าจะ บ่งชี้นี้ แม้ให้ปรึกษาลงทุนฉลาดบาง ด้วยคำของสุภาษิต 23:23: "ซื้อความจริง และไม่ได้ขายก็"มาจนบัด บางส่วนได้ขายมัน และพวกเขาได้ขายเทป

ภาพอื่น คัมภีร์แนะให้ใส่"เข็มขัดของความจริง" (ขึ้นเอเฟซัส 6:14) จริง ๆ มันเป็นรายการแรกของชุดเกราะที่เราใส่เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ครั้งสุดท้าย และเราเห็นว่า จะเก็บส่วนที่เหลือของโรงของเราร่วมกัน แม้ครองดาบของเรา พระคัมภีร์เรามั่นใจที่ในวันนี้พระองค์ของพระเจ้าผู้กำลังนั่งเล่นอยู่จะพินาศ: "พวกเขาพินาศ เพราะพวกเขาปฏิเสธการรักความจริง และเพื่อ ให้สามารถบันทึก" (Thess 2. 2:10) เราจะบอกในข้อถัดไปว่า พระเจ้าจะส่งคนเช่นลวงตาที่แข็งแรง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เขาเป็นความจริงปอนติอุสปิลาตเคยถามพระเยซูว่า "ความจริงคืออะไร?" (ยน. 18:38) พระเยซูให้ลาไม่มีคำตอบเพราะคำถามที่โง่เขลา ความจริงก็กำลังยืนอยู่ตรงหน้าของปิลาตและเขาไม่สามารถมองเห็นมัน รัฐบุรุษที่ยิ่งใหญ่วินสตันเชอร์ชิลเคยตั้งข้อสังเกต: "ผู้ชายสะดุดความจริงเมื่อเวลาผ่านไป แต่ส่วนใหญ่เลือกตัวเองขึ้นและรีบออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น". * คำ "พระเยซูคือความจริง" จริงๆปัญหาที่คนจำนวนมาก ในโลกหลังสมัยใหม่ในวันนี้ รอบ 20-30 ปีที่ผ่านมาเราพบ Postmodern เคลื่อนไหวการปรากฏตัวของ เราเริ่มที่จะได้ยินคำฉวัดเฉวียนเหมือน "ความอดทน", "วัฒนธรรม" และ "ถูกต้องทางการเมือง". หนึ่งคำสอนหลักของการเคลื่อนไหวใหม่นี้ก็คือว่าไม่มีความจริงสูงสุด นี้เสียงเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นที่พวกเขาได้สร้างเพียงแค่ปรมัตถ์ - ว่าไม่มีความจริงสูงสุด พวกเขาบอกว่าทุกคน "ความจริง" เป็นผลมาจากอคติและว่า "ความจริง" เป็นญาติ แม้ในขณะที่เร็วที่สุดเท่าที่ปี 1990, การสำรวจ Barna อยู่แล้วแสดงให้เห็นว่าหกสิบหกเปอร์เซ็นต์ของชาวอเมริกันไม่เชื่อในความจริงที่ดีที่สุดที่ใด ๆ เมื่อ Barna สำรวจกลุ่ม 18-25 ปีเขาพบว่าตัวเลขได้เพิ่มขึ้นเป็นเจ็ดสิบสองเปอร์เซ็นต์ ** เชื่อ Postmodern สอนว่าตั้งแต่ความจริงทั้งหมดเป็นญาติและไม่เคยหยุดนิ่งของคนคนหนึ่ง "ความจริง" เป็นเพียงความจริงเป็นคนอื่น ใครบางคนได้ตั้งข้อสังเกตว่าเกี่ยวกับบาปเฉพาะใน Postmodernism เป็นคำถามอื่น "ความจริง". อาร์กิวเมนต์ยังไปว่าความจริงของคริสเตียนไม่ดีกว่าศาสนาของความจริงตั้งแต่ความจริงทั้งหมดจะปรับอากาศวัฒนธรรม ในคำอื่น ๆ สิ่งที่เป็นจริงสำหรับหนึ่งคนอาจจะไม่เป็นจริงสำหรับคนอื่น เราอาจจะสงสัยว่าบางส่วนของนักปรัชญาหลังสมัยใหม่เหล่านี้อาจตอบสนองถ้าพวกเขาพบว่าตัวเองถูกจัดเตรียมไว้เป็นอาหารกลางวันโดยบางมนุษย์หิว เราสามารถจินตนาการว่าเช่นเดียวกับน้ำในหม้อร้อนขึ้นและพวกเขาก็เริ่มเต้นเพื่อให้เท้าของพวกเขาออกด้านล่างร้อนที่พวกเขาอาจเริ่มต้นอย่างจริงจังและอย่างใจจดใจจ่อถามแนวคิดมนุษย์ของ "ความจริง". นอกจากนี้ postmoderns ไม่ว่างที่จะใช้ความคิดของพวกเขา ทุกพื้นที่ของความรู้ พวกเขารู้สึกว่าจำเป็นต้อง "แยกแยะ" พื้นที่เหล่านี้สิ่งที่เคยเป็นความจริงและนำพวกเขาเข้าสู่การจัดตำแหน่งที่มีความคิดของตัวเอง แน่นอนว่าพื้นที่เหล่านี้จะรวมถึงพระคัมภีร์วิทยาศาสตร์ประวัติศาสตร์และเห็นได้ชัดแม้ตรรกะ ในสหรัฐอเมริกาที่เรามีโฮสต์ของ "ประวัติศาสตร์ใหม่" ที่กำลังเขียนประวัติศาสตร์ของเราและไม่รวมรากฐานของชาวคริสต์ในช่วงต้นอเมริกาดีก็มักจะใช้เวลาเพียงประมาณ 10-15 ปีจนกว่าสิ่งที่โลกไม่ว่าจะเป็นตัวกรองเข้าไปในโบสถ์ เราเริ่มต้นที่จะพูดสิ่งเดียวกัน แต่แน่นอนว่าเราปิดบังมันทั้งหมดในชนิดของภาษาทางศาสนาบางส่วน ดังนั้นวันนี้ในคริสตจักรก็กำลังเป็นที่นิยมสำหรับทุกคนที่จะมีของตัวเองคนที่จะบอกว่า: "ความจริงของฉันที่ฉันสามารถทำยาเสพติดและเป็นคริสเตียน;" ความจริง ". หรือความจริงของฉันเป็นที่ฉันสามารถตะลุยในเวทมนตร์ "คนอื่นอาจจะพูดว่า" ฉันจะมีความสัมพันธ์ที่มีความหมายนอกสมรสและเป็นคริสเตียน. "หรือ" ฉันสามารถเลือกที่ 'เลือกชีวิตแบบ' กลายเป็นเกย์และยังคงมี a. คริสเตียน "ทุกนี้จริงๆใด ๆ ที่แตกต่างกันกว่าสิ่งที่อิสราเอลพูดในผู้พิพากษา 17: 6 เมื่อทุกคนไม่สิ่งที่ถูกต้องในสายตาของตัวเองและไม่ได้อยู่ในสายตาของพระเจ้า? มันจะแตกต่างจากสิ่งที่พอลพูดในรอม 01:25? เขากล่าว: ". พวกเขาแลกเปลี่ยนความจริงของพระเจ้าสำหรับเท็จและได้นมัสการและปรนนิบัติสิ่งที่สร้างมากกว่าผู้สร้างผู้ที่เป็นตลอดไปยกย่อง" วันนี้นับล้านมีขายจริงสำหรับปรัชญามนุษยนิยมที่ผิดพลาดเพื่อตอบสนองตัณหาของตัวเอง บางปีที่ผ่าน Darwinist ชื่อเสียงจูเลียนฮักซ์ลีย์ได้รับการสัมภาษณ์ในแสดงเมิร์ฟกริฟฟิ ในการประชุมครั้งนี้เขาบอกว่าเหตุผลที่ทำให้เขาได้รับการยอมรับโดยไม่ต้องพิสูจน์ความชัดเจนเป็นเพราะเขาไม่ต้องการพระเจ้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับวัฒนธรรมทางเพศของเขา *** ในช่วงเวลาแห่งความประมาทในกล้องเขาได้เปิดเผยความจริงที่อยู่เบื้องหลังสิ้นเชิงความเห็นอกเห็นใจผู้เขียนเดนนิส McCallum ได้เขียนเกี่ยวกับการทำงานที่ยอดเยี่ยม Postmodernism สิทธิการตายของความจริง ผมขอแนะนำให้ผู้อ่านของเรา แต่วันนี้เราจะต้องประกาศความจริงที่ยังไม่ตายหรือมันจะตาย ความจริงก็คือนิรันดร์และพระเยซูคือความจริงมีบางอย่างที่อาจเกิดขึ้นกับความจริง แต่เป็น ความจริงอาจจะกลายเป็นรายการสะสมเพราะจะมีน้อยมากของมัน พระคัมภีร์น่าจะระบุนี้แม้ให้เราให้คำปรึกษาการลงทุนบางอย่างฉลาดด้วยคำเหล่านี้ของสุภาษิต 23:23:. "ซื้อความจริงและไม่ได้ขายมัน" จนบัดนี้บางส่วนได้ขายมันและพวกเขาได้ขายมันในราคาถูกในภาพอื่น พระคัมภีร์แนะนำให้เราไปใส่ใน "เข็มขัดของความจริง" (เอเฟซัส. 6:14) จริงๆแล้วมันเป็นรายการแรกของชุดเกราะที่เราใส่ในการเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่เราและเราเห็นว่ามันมีส่วนที่เหลือของรักของเราร่วมกันได้ถือดาบของเรา พระคัมภีร์ทำให้เรามั่นใจว่าในวันนี้ที่น่ากลัวของพระเจ้าผู้ที่มีชีวิตอยู่จะพินาศ "พวกเขาพินาศเพราะพวกเขาปฏิเสธที่จะรักความจริงและเพื่อให้ได้รับการบันทึก" (2. ธ 02:10) เราจะบอกในข้อต่อไปว่าพระเจ้าจะส่งคนดังกล่าวเป็นความเข้าใจผิดที่แข็งแกร่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เขาคือความจริง

ปอนทิอัสปีลาตเคยถามพระเยซูว่า " อะไรคือความจริง ? " ( Jn . 18:38 ) พระเยซูให้ปิลาตไม่ตอบเพราะคำถามโง่ . ความจริงคือการยืนตรงต่อหน้าปีลาตและเขาไม่สามารถมองเห็นมัน มหารัฐบุรุษ , วินสตัน เชอร์ชิลล์ เมื่อกล่าว : " ผู้ชายสะดุดความจริงตลอดเวลา แต่ส่วนใหญ่เลือกตัวขึ้นและรีบปิด ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"แถลงการณ์ " พระเยซูคือความจริงจริงๆ " ปัญหาผู้คนมากมายในโลกหลังสมัยใหม่ของวันนี้ ประมาณยี่สิบถึงสามสิบปีที่ผ่านมาเราเห็นการเคลื่อนไหวของหลังสมัยใหม่ทำให้ลักษณะที่ปรากฏของ เราเริ่มได้ยินเสียงของคำว่า " ความอดทน " พหุวัฒนธรรม " ทางการเมือง " ความถูกต้อง " หนึ่งคติหลักของการเคลื่อนไหวใหม่นี้คือว่ามีสุดยอดจริงนี้เสียงเหมือนพวกเขาเพิ่งก่อตั้งปรมัตถ์ ( ที่ไม่มีสุดยอดจริง พวกเขากล่าวว่า " ความจริง " จะได้รับผลกระทบ โดยกล่าวว่า " ความจริง " เป็นญาติ แม้ช่วงต้นปี 1990 , การสำรวจได้แสดงให้เห็นว่า บาร์นาหกสิบหกเปอร์เซ็นต์ของชาวอเมริกันที่ไม่ได้เชื่อในใด ๆสุดยอดจริงเมื่อ บาร์นาสำรวจ 18-25 ปี กลุ่ม เขาพบว่า ตัวเลขก็เพิ่มขึ้นถึง 72 เปอร์เซ็นต์ * *

หลังสมัยใหม่ลัทธิสอนว่าในเมื่อความจริงทั้งหมดและเป็นญาติคนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง " ความจริง " ก็เป็นอีกคน บางคนได้กล่าวว่า เรื่องบาปเดียวใน Postmodernism คืออีกหนึ่งคำถามคือ " ความจริง" การโต้แย้งไปว่า ความจริง ของคริสเตียน ไม่ได้ดีกว่าของพุกาม ความจริง เพราะความจริงคือทางปรับอากาศ ในคำอื่น ๆสิ่งที่เป็นจริงสำหรับคนหนึ่งอาจไม่เป็นจริงสำหรับคนอื่น ๆ เราอาจสงสัยว่าบางส่วนของปรัชญาหลังสมัยใหม่เหล่านี้จะคิดอย่างไรถ้าพวกเขาพบตัวเองถูกเตรียมไว้เป็นอาหารกลางวัน โดยบางหิวกินเนื้อคนเราสามารถจินตนาการว่าเหมือนกับน้ำในหม้ออุ่นขึ้น และพวกเขาก็เริ่มเต้นเพื่อให้เท้าของพวกเขาออกจาล่างจะเริ่มอย่างจริงจังและอย่างใจจดใจจ่อคำถาม cannibals ' แนวคิดของ " ความจริง "

ยัง postmoderns กำลังใช้ความคิดของพวกเขาในทุกพื้นที่ของความรู้พวกเขารู้สึกว่าต้อง " Deconstruct " ทั้งหมดนี้ พื้นที่ที่เคยเป็น ความจริง และนำพวกเขาลงสอดคล้องกับความคิดของตัวเอง แน่นอน พื้นที่เหล่านี้รวมถึงพระคัมภีร์ , วิทยาศาสตร์ , ประวัติศาสตร์ และเห็นได้ชัดว่าแม้ตรรกะ ในพวกเรามีโฮสต์ของ " ประวัติศาสตร์ใหม่ " ที่เขียนประวัติศาสตร์ของเรา และไม่รวมคริสเตียนพื้นฐานก่อนอเมริกา

ดีมันมักจะใช้เวลาประมาณ 10-15 ปี จนเกิดเป็นโลกบอกว่ากรองเข้าไปในโบสถ์ เราเริ่มที่จะพูดในสิ่งเดียวกัน แต่แน่นอน เราใส่มันทั้งหมดในบางชนิดของภาษา ศาสนา วันนี้ในโบสถ์มันเป็นที่นิยมสำหรับทุกคนที่จะมีความจริงของตัวเอง บางคนจะกล่าวว่า : " ความจริงของฉันที่ฉันสามารถทำ ยา และเป็นคริสเตียน หรือความจริงของฉันที่ฉันสามารถตะลุยเวทย์มนต์" คนอื่นอาจจะพูดว่า " ฉันสามารถมีการแต่งงานนอกความสัมพันธ์ ' ' มีความหมายและเป็นคริสเตียน ; " หรือ " ฉันสามารถเลือก ' สลับ ' กลายเป็นพวกรักร่วมเพศ และยังคงเป็นชีวิตคริสเตียน . " มันจริงๆไม่ต่างจากสิ่งที่อิสราเอลพูดในศาล 17 : 06 , เมื่อทุกคนทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาตัวเองและไม่ของพระเจ้าตามันแตกต่างกว่าสิ่งที่พอลกล่าวว่าในโรม 1 : 25 ? เขาระบุ : " พวกเขาเปลี่ยนความจริงของพระเจ้าเพื่อโกหก และนมัสการและปรนนิบัติสิ่งสร้างมากกว่าผู้สร้างที่ยกย่องตลอดไป "

วันนี้นับล้านมีขายจริงเท็จมนุษยปรัชญา เพื่อสนองตัณหาของตัวเอง บางปีที่ผ่านมาชื่อเสียงของ darwinist จูเลียน ฮักซ์ลีย์ ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการเมิร์ฟกริฟฟินในเซสชั่นนี้เขากล่าวว่าเหตุผลที่เขายอมรับโดยไม่มีหลักฐานชัดเจน เพราะเขาไม่ได้ต้องการพระเจ้าที่จะแทรกแซงกับประเพณีทางเพศของเขา * * * ในช่วงเวลาของความประมาทในกล้องเขาเปิดเผยความจริงที่อยู่เบื้องหลังสตาร์มนุษยนิยม

เขียน , เดนนิส โล่งอกที่ได้เขียนงานที่ยอดเยี่ยมบนหลัง เรื่องความตายของความจริง ผมขอแนะนำให้ผู้อ่านของเราแต่ว่าวันนี้เราต้องประกาศว่า ความจริงจะไม่ได้ตาย หรือจะตาย ความจริงคือนิรันดร์และพระเยซูคือความจริง . . .

มีอะไรที่อาจจะเกิดขึ้นจริง อย่างไรก็ตาม ความจริงอาจจะกลายเป็นรายการสะสม เพราะจะมีน้อยมากครับ พระคัมภีร์น่าจะระบุนี้ แม้แต่ให้เราฉลาดลงทุนปรึกษากับคำพูดสุภาษิต 23 : 23 : " ซื้อจริง และไม่ได้ขายมัน" แต่ก่อนมีขายมันและพวกเขาจะขายมันในราคาถูก

ในรูปอื่น พระคัมภีร์ให้เราใส่ใน " เข็มขัดแห่งความจริง " ( เอเฟซัส . 6 : 14 ) จริงๆแล้วมันเป็นชิ้นแรกของเกราะที่เราใส่ในการเตรียมการสำหรับสงครามครั้งสุดท้าย และเราเห็นว่ามันถือส่วนที่เหลือของความรักของเราด้วยกัน แม้ถือดาบของเราพระคัมภีร์ยืนยันกับเราในวันนี้น่ากลัวของพระเจ้าผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่จะตาย : " พวกเขาพินาศเพราะพวกเขาปฏิเสธที่จะรักก็ต้องช่วย " ( 2 คือ . 2 : 10 ) เราจะบอกในข้อถัดไปว่า พระเจ้าจะส่งเช่นหลงผิดที่แข็งแกร่ง