This question may be more fruitfull

This question may be more fruitfully understood, however, if it were re-phrased as “what is it (if anything) about money that makes us happy?” In other words, turning our attention from the level of individuals’ household income (the key variable of interest in most studies) to measures of how individuals spend the money they have (i.e., the composition of spending) provides an opportunity for testing more specific hypotheses about why money may (or may not) matter to individual life satisfaction. We know of no existing studies that have addressed the question in this fashion, but we offer some guiding hypotheses here.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คำถามนี้อาจเข้าใจได้กระจ่างขึ้น แต่ถ้าใช้ถ้อยคำใหม่ว่า “เงินทำอะไร (ถ้ามี) ที่ทำให้เรามีความสุข” กล่าวอีกนัยหนึ่ง การเปลี่ยนความสนใจของเราจากระดับรายได้ในครัวเรือนของบุคคล (ตัวแปรสำคัญที่น่าสนใจในการศึกษาส่วนใหญ่) มาเป็นการวัดว่าบุคคลใช้จ่ายเงินที่มี (เช่น องค์ประกอบของการใช้จ่าย) เปิดโอกาสให้ทดสอบที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น สมมติฐานเกี่ยวกับสาเหตุที่เงินอาจ (หรืออาจไม่) มีความสำคัญต่อความพึงพอใจในชีวิตของแต่ละบุคคล เรารู้ว่าไม่มีการศึกษาที่มีอยู่ซึ่งตอบคำถามในลักษณะนี้ แต่เราขอเสนอสมมติฐานที่เป็นแนวทางบางประการที่นี่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อย่างไรก็ตาม หากคำถามนี้ถูกตีความใหม่ว่า "เงินคืออะไร (ถ้ามี) ที่ทำให้เรามีความสุข?" หรืออีกนัยหนึ่ง การเบี่ยงเบนความสนใจของเราจากระดับรายได้ครัวเรือนของแต่ละบุคคล (ตัวแปรสำคัญที่น่าสนใจในการศึกษาส่วนใหญ่) ไปยังการวัดว่าบุคคลใช้เงินที่พวกเขามี (เช่นองค์ประกอบของค่าใช้จ่าย) อย่างไรให้โอกาสในการทดสอบสมมติฐานที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นว่าเหตุใดเงินอาจมีความสำคัญ (หรือไม่สำคัญ) ต่อความพึงพอใจในชีวิตส่วนบุคคล เท่าที่เราทราบยังไม่มีการศึกษาเพื่อแก้ปัญหานี้ด้วยวิธีนี้ แต่เราเสนอสมมติฐานชี้นําที่นี่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อย่างไรก็ตามถ้าคําถามถูกนํามาใช้ใหม่เป็น"อะไรคือเงิน(ถ้ามี)ทําให้เรามีความสุข?" กล่าวอีกนัยหนึ่งการหันเหความสนใจของเราจากระดับรายได้ของครัวเรือนแต่ละราย(ตัวแปรความสนใจที่สําคัญในการศึกษาส่วนใหญ่)เพื่อวัดว่าบุคคลใช้จ่ายเงินที่ตนมี(เช่นค่าใช้จ่าย)เป็นโอกาสที่จะทดสอบว่าทําไมเงินอาจ(หรืออาจจะไม่)สมมติฐานที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นเกี่ยวกับความพึงพอใจในชีวิตส่วนบุคคล เท่าที่เรารู้ยังไม่มีการวิจัยเกี่ยวกับปัญหานี้ในลักษณะนี้แต่เราให้ข้อสมมติฐานที่เป็นแนวทางที่นี่