Methods A descriptive correlational

Methods A descriptive correlational and cross-sectional design was used. Subjects with CADs were
recruited from outpatient clinics of three academic medical centers. The cardiac knowledge, cardiac self- efficacy, and health behaviors were measured by Coronary Heart Disease Awareness and Knowledge Questionnaire, Cardiac Self-Efficacy Scale, and Health-Promoting Lifestyle Profile II respectively. The data collected were statistically analyzed by descriptive statistics, t test, Kruskal-Wallis test, analysis of vari-ance, Pearson’s correlation analysis, and the hierarchical multiple regression analysis.
Results A total of 157 subjects were recruited for this study. The mean age of subjects was 59.38±10.04 years, and three-fourths (75.2%) were male. Subjects showed relatively low cardiac knowledge, moderately high cardiac self-efficacy, and moderate level of health behaviors. The overall model significantly explained 48% of variance in health behaviors (F=14.52, p

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิธี A อธิบาย correlational เหลวออกแบบ และใช้ มีเรื่องกับ CADs
พิจารณาจากคลินิกผู้ป่วยนอกของศูนย์การแพทย์วิชาการ 3 รู้หัวใจ หัวใจตนเอง - ประสิทธิภาพ และพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกวัดความ รู้โรคหัวใจ และแบบสอบ ถามความรู้ หัวใจตนเองประสิทธิภาพขนาด และ II ประวัติชีวิตที่ส่งเสริมสุขภาพตามลำดับ ได้รวบรวมข้อมูลทางสถิติวิเคราะห์สถิติพรรณนา t ทดสอบ ทดสอบ Kruskal วาลลิ วิเคราะห์ ance วารี วิเคราะห์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน และการลำดับชั้นหลายถดถอยวิเคราะห์
ผลลัพธ์จำนวน 157 เรื่องที่พิจารณาสำหรับการศึกษานี้ อายุเฉลี่ยของวิชาเป็นปี 59.38±10.04 และ fourths 3 (75.2%) ถูกชาย เรื่องแสดงให้เห็นว่าความรู้หัวใจค่อนข้างต่ำ หัวใจค่อนข้างสูง ประสิทธิภาพตนเอง และระดับปานกลางของพฤติกรรมสุขภาพ รูปแบบโดยรวมอย่างมีนัยสำคัญอธิบาย 48% ของผลต่างในพฤติกรรมสุขภาพ (F = 14.52, p < .001) ระหว่าง predictors อายุ การศึกษา สถานะการสูบบุหรี่ ประสบการณ์รับแพทย์ และหัวใจตนเองประสิทธิภาพพฤติกรรมสุขภาพที่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ และหัวใจตัวเองประสิทธิภาพผลพฤติกรรมสุขภาพสูงสุด (β =. 39) อย่างไรก็ตาม ความรู้หัวใจมีพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่มีอิทธิพลอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติหลังการควบคุมสำหรับอื่น ๆ ปัจจัย
บทสรุปผลการศึกษาแนะนำตนเองประสิทธิภาพที่หัวใจถูกแสดงเป็น ปัจจัยมีอิทธิพลมากต่อพฤติกรรมสุขภาพ แต่รู้หัวใจก็ไม่มีอิทธิพลที่มีต่อพฤติกรรมสุขภาพ การพยาบาลแทรกแซง-tions เหมือนลักษณะผู้ป่วยควรได้รับการพัฒนาเพื่อปรับปรุงพฤติกรรมสุขภาพของผู้ป่วยที่มี CADs [เอเชียพยาบาลวิจัย 2010; 4 (1): 45–55]
คำสำคัญโรคหลอดเลือดหัวใจ ความรู้ ประสิทธิภาพตนเอง พฤติกรรมสุขภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิธีการออกแบบเชิงสหสัมพันธ์และตัดพรรณนาถูกนำมาใช้ วิชาที่มี CADs ถูก
คัดเลือกมาจากคลินิกผู้ป่วยนอกของสามศูนย์การแพทย์นักวิชาการ ความรู้เกี่ยวกับการเต้นของหัวใจ, การเต้นของหัวใจด้วยตนเองประสิทธิภาพและพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกวัดโดยการรับรู้การเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและความรู้ของแบบสอบถามหัวใจตนเองประสิทธิภาพขนาดและการส่งเสริมสุขภาพไลฟ์สไตล์ส่วนตัวที่สองตามลำดับ ข้อมูลที่เก็บรวบรวมมาวิเคราะห์ทางสถิติโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาทดสอบ T, การทดสอบ Kruskal-Wallis การวิเคราะห์ตัวแปร ance การวิเคราะห์ความสัมพันธ์เพียร์สันและการวิเคราะห์การถดถอยหลายลำดับชั้น
ผลลัพธ์ทั้งหมด 157 เรื่องที่ได้รับคัดเลือกสำหรับการศึกษานี้ อายุเฉลี่ยของวิชา 59.38 ± 10.04 ปีและสามในสี่ (75.2%) เป็นเพศชาย แสดงให้เห็นว่าวิชาความรู้ที่ค่อนข้างต่ำการเต้นของหัวใจสูงปานกลางการเต้นของหัวใจด้วยตนเองประสิทธิภาพและระดับปานกลางของพฤติกรรมสุขภาพ รูปแบบโดยรวมอย่างมีนัยสำคัญอธิบาย 48% ของความแปรปรวนในพฤติกรรมสุขภาพ (F = 14.52, p <0.001) ในการพยากรณ์อายุการศึกษาสถานภาพการสูบบุหรี่ที่มีประสบการณ์ในการรับการศึกษาผู้ป่วยและการเต้นของหัวใจตัวเองได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญประสิทธิภาพพฤติกรรมสุขภาพและการเต้นของหัวใจด้วยตนเองประสิทธิภาพมีผลมากที่สุดในพฤติกรรมสุขภาพ (β = 0.39) แต่ความรู้การเต้นของหัวใจไม่ได้มีอิทธิพลอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเกี่ยวกับพฤติกรรมสุขภาพหลังจากที่การควบคุมปัจจัยอื่น ๆ
สรุปผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่าการเต้นของหัวใจด้วยตนเองประสิทธิภาพถูกนำมาแสดงจะเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลมากที่สุดต่อพฤติกรรมสุขภาพ แต่ความรู้การเต้นของหัวใจมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมสุขภาพ พยาบาลแทรกแซง-tions เหมาะกับลักษณะผู้ป่วยควรได้รับการพัฒนาเพื่อปรับปรุงพฤติกรรมสุขภาพของผู้ป่วยที่มี CADs [วิจัยทางการพยาบาลเอเชีย 2010; 4 (1): 45-55]
คำสำคัญโรคหลอดเลือดหัวใจ, ความรู้ด้วยตนเองประสิทธิภาพพฤติกรรมสุขภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิธีสหสัมพันธ์แบบเชิงพรรณนาและการออกแบบที่ใช้ วิชาที่มี cads ถูกคัดเลือกจากผู้ป่วยนอกคลินิก
3 ศูนย์การแพทย์ทางวิชาการ ความรู้โรคหัวใจ หัวใจตนเอง และพฤติกรรมสุขภาพ วัดจากความตระหนักในโรคหลอดเลือดหัวใจ และแบบสอบถามความรู้ ขนาดหัวใจตนเองและวิถีชีวิตที่ส่งเสริมสุขภาพ โปรไฟล์ที่ 2 ตามลำดับข้อมูลที่รวบรวมได้มาวิเคราะห์ทาง สถิติ โดยสถิติเชิงพรรณนา , ทดสอบ , Kruskal Wallis test การวิเคราะห์ vari ance การวิเคราะห์ สหสัมพันธ์เพียร์สัน และการวิเคราะห์ถดถอยพหุในการวิเคราะห์ ผลรวม 157
จำนวนรับเข้าศึกษา อายุเฉลี่ยของคนเป็น 59.38 ± 10.04 ปีและสาม fourths ( 75.2 % ) เป็นเพศชายกลุ่มตัวอย่างมีความรู้ความสามารถสูง ปานกลาง ต่ำหัวใจ , หัวใจ , และระดับของพฤติกรรมสุขภาพ รูปแบบโดยรวม 48% อย่างมากอธิบายความแปรปรวนของพฤติกรรมสุขภาพ ( r = 14.52 , p < . 001 ) ระหว่างตัวแปร อายุ ระดับการศึกษา ประสบการณ์การได้รับการสูบบุหรี่ สภาพผู้ป่วย และการรับรู้ความสามารถของตนเองต่อพฤติกรรมสุขภาพของหัวใจ ) ,และหัวใจตนเองได้ผลมากที่สุดต่อพฤติกรรมสุขภาพ ( บีตา = . 39 ) แต่หัวใจมีความรู้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ . อิทธิพลต่อพฤติกรรมสุขภาพ หลังจากควบคุมปัจจัยอื่น ๆ .
ข้อสรุปผลการศึกษาพบว่าหัวใจตนเองได้แสดงให้มากที่สุด ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมสุขภาพด้านหัวใจแต่ไม่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมสุขภาพการพยาบาลผู้ป่วยลักษณะแทรกแซง tions เหมาะที่ควรพัฒนาเพื่อปรับปรุงพฤติกรรมสุขภาพของผู้ป่วย cads . [ การวิจัยทางการพยาบาล 2010 เอเชีย ; 4 ( 1 ) : 45 - 55 ]
คำสำคัญโรคหลอดเลือดหัวใจ , ความรู้ , ความสามารถตนเอง , พฤติกรรมสุขภาพ