Omega-3 polyunsaturated fatty acids

Omega-3 polyunsaturated fatty acids have anti-inflammatory effects in vitro, and high dietary levels are associated with a lower incidence of inflammatory diseases. However, only limited effects have been demonstrated in asthma. The effects of dietary supplementation with fish oil for 10 months in 29 children with bronchial asthma was investigated in a randomized controlled fashion. In order to minimize the effects of environmental inhaled allergens and diet, this study was performed in a long-term treatment hospital. Subjects received fish oil capsules containing 84 mg eicosapentaenoic acid (EPA) and 36 mg docosahexaenoic acid (DHA) or control capsules containing 300 mg olive oil. The daily dosages of EPA and DHA were 17.0-26.8 and 7.3-11.5 mg x kg body weight(-1), respectively. Asthma symptom scores decreased and responsiveness to acetylcholine decreased in the fish oil group but not in the control group. In addition, plasma EPA levels increased significantly only in the fish oil group (p

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กรดไขมันไม่อิ่มตัวโอเมก้า 3 มีผลการเพาะเลี้ยงแก้อักเสบ และอาหารระดับสูงเกี่ยวข้องกับอุบัติการณ์ต่ำกว่าโรคอักเสบ อย่างไรก็ตาม เท่านั้นจำกัดผลมีการสาธิตในโรคหอบหืด ผลของอาหารแห้งเสริมด้วยน้ำมันปลาเดือน 10 ในเด็กโรคหืด 29 ถูกสอบสวนใน randomized ควบคุม เพื่อลดผลกระทบของสารก่อภูมิแพ้สูดดมสิ่งแวดล้อมและอาหาร การศึกษานี้ทำในโรงพยาบาลรักษาระยะยาว เรื่องได้รับแคปซูลน้ำมันปลาประกอบด้วยกรด eicosapentaenoic 84 มิลลิกรัม (EPA) และกรด docosahexaenoic 36 มิลลิกรัม (ดีเอชเอ) หรือควบคุมแคปซูลประกอบด้วยน้ำมันมะกอก 300 มิลลิกรัม Dosages วัน EPA และดีเอชเอได้ 17.0-26.8 และ 7.3-11.5 มิลลิกรัม x กิโลกรัมร่างกาย weight(-1) ตามลำดับ โรคหอบหืดอาการคะแนนลดลง และตอบสนอง acetylcholine ลดลง ในกลุ่มน้ำมันปลา แต่ไม่ใช่ ในกลุ่มควบคุม นอกจากนี้ ระดับพลาสมา EPA เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเฉพาะในกลุ่มน้ำมันปลา (p < 0.0088) ไม่สำคัญผลข้างเคียงได้สังเกต ผลลัพธ์ปัจจุบันแนะนำว่า แห้งเสริมอาหารปลา อุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวโอเมก้า-3 กรด eicosapentaenoic และกรด docosahexaenoic น้ำมันจะเป็นประโยชน์สำหรับโรคหืดในสภาพแวดล้อมการควบคุมอย่างเคร่งครัด inhalant สารก่อภูมิแพ้และอาหารเด็ก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โอเมก้า 3 กรดไขมันไม่อิ่มตัวมีผลต้านการอักเสบในหลอดทดลองและระดับการบริโภคอาหารสูงมีความเกี่ยวข้องกับการเกิดที่ลดลงของโรคอักเสบ อย่างไรก็ตามผลกระทบที่ จำกัด อยู่เพียงได้รับการแสดงให้เห็นในโรคหอบหืด ผลกระทบของการเสริมอาหารที่มีน้ำมันปลานาน 10 เดือนใน 29 ของเด็กที่มีโรคหอบหืดหลอดลมถูกตรวจสอบในแฟชั่นแบบสุ่ม เพื่อที่จะลดผลกระทบของสารก่อภูมิแพ้สูดดมสิ่งแวดล้อมและการรับประทานอาหาร, การศึกษาครั้งนี้ได้รับการดำเนินการในโรงพยาบาลรักษาในระยะยาว หัวข้อที่ได้รับแคปซูลน้ำมันปลาที่มี 84 มิลลิกรัมกรด eicosapentaenoic (EPA) และ 36 มิลลิกรัมกรด docosahexaenoic (DHA) หรือแคปซูลควบคุมที่มี 300 มิลลิกรัมน้ำมันมะกอก ปริมาณประจำวันของ EPA และ DHA เป็น 17.0-26.8 และ 7.3-11.5 มิลลิกรัม x กิโลกรัมน้ำหนักตัว (-1) ตามลำดับ คะแนนอาการหอบหืดลดลงและการตอบสนองที่จะ acetylcholine ลดลงในกลุ่มน้ำมันปลา แต่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มควบคุม นอกจากนี้พลาสม่าระดับ EPA เพิ่มขึ้นอย่างมากเฉพาะในกลุ่มน้ำมันปลา (p <0.0088) ไม่มีผลข้างเคียงอย่างมีนัยสำคัญ ผลแสดงให้เห็นว่าการเสริมอาหารที่มีน้ำมันปลาที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 กรดไขมันไม่อิ่มตัวกรด eicosapentaenoic และกรด docosahexaenoic เป็นประโยชน์สำหรับเด็กที่มีโรคหอบหืดหลอดลมในสภาพแวดล้อมการควบคุมอย่างเคร่งครัดในแง่ของสารก่อภูมิแพ้ดมและการรับประทานอาหาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โอเมก้า - 3 กรดไขมันไม่อิ่มตัวมีฤทธิ์ต้านการอักเสบในร่างกาย และระดับใยอาหารสูงที่เกี่ยวข้องกับอุบัติการณ์ที่ลดลงของโรคที่มีการอักเสบ แต่ เพียง ผล จำกัด ได้แสดงให้เห็นในโรคหอบหืด ผลของการเสริมน้ำมันปลา 10 เดือนใน 29 เด็กโรคหืดหลอดลมถูกสอบสวนในสุ่มแฟชั่นเพื่อที่จะลดผลกระทบของสิ่งแวดล้อมและสูดดมสารก่อภูมิแพ้อาหาร การศึกษานี้ดำเนินการในโรงพยาบาลการรักษาระยะยาว วิชาที่ได้รับน้ำมันปลาแคปซูล บรรจุ 84 มิลลิกรัม กรด eicosapentaenoic ( EPA ) และ 36 มิลลิกรัม docosahexaenoic acid ( DHA ) หรือควบคุมแคปซูล ประกอบด้วย น้ำมันมะกอก 300 มิลลิกรัม โดทุกวัน ของ EPA และ DHA ) และ 17.0-26.8 7.3-11.5 มิลลิกรัม x กิโลกรัมน้ำหนักตัว ( - 1 )ตามลำดับ โรคหอบหืดอาการคะแนนลดลงและการตอบสนองต่ออะซิติลโคลีนลดลงในน้ำมันปลา กลุ่ม แต่ในกลุ่มควบคุม นอกจากนี้ ระดับ EPA พลาสมาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเฉพาะในน้ำมันปลา อย่างมีนัยสำคัญ ( P < 0.0088 ) ไม่มีผลข้างเคียงที่สำคัญพบว่าผลปัจจุบัน แนะนำว่า การเสริมด้วยน้ำมันปลาอุดมไปด้วยโอเมก้า 3 กรดไขมันกรด eicosapentaenoic และ docosahexaenoic acid เป็นประโยชน์สำหรับผู้ป่วยเด็กโรคหืดในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมอย่างเคร่งครัดในแง่ของสารก่อภูมิแพ้ สารระเหย และอาหาร