So I went to the ladies' room and c

So I went to the ladies' room and cried for almost half an hour. No one could console me.”

"So, the moral of the story, my dear," chimed in Aunt Prudence, "is to make sure that Uncle James isn't in charge of getting your rings engraved. Not that you would have a problem. How could anyone misspell your name—it only has three letters, and two of them are the same."

"Aunt Prudence, you know that isn't true," said Ann. "Half the people I know spell my name with an 'e.' But, Uncle James is not in charge of our rings, so I'm not worried.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ดังนั้นฉันไปที่ห้องของผู้หญิง และร้องไห้เกือบครึ่งชั่วโมง ไม่มีใครสามารถปลอบฉัน" "นั้น นิทานเรื่อง ยาหยี chimed ในความรอบคอบป้า "ได้เพื่อ ให้แน่ใจว่า ลุง James ไม่รับผิดชอบการแกะสลักแหวนของคุณ ไม่ว่าคุณจะมีปัญหา วิธีคนอาจสะกดผิดชื่อ — มีเพียงสามตัวอักษร และสองของพวกเขาเหมือนกัน " "ป้านิทัศน์ คุณรู้ที่ไม่เป็นความจริง กล่าวว่า Ann. "ครึ่งคนฉันรู้ว่าสะกดชื่อ 'อี' แต่ James ลุงไม่ชอบแหวนของเรา ดังนั้นฉันไม่กังวล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดังนั้นผมจึงเดินไปที่ห้องผู้หญิง 'และร้องไห้เกือบครึ่งชั่วโมง ไม่มีใครสามารถปลอบใจฉัน. " " ดังนั้นคุณธรรมของเรื่องราวที่รักของฉัน "ใน chimed ป้ารอบคอบ" คือการทำให้แน่ใจว่าลุงเจมส์ไม่ได้อยู่ในความดูแลของคุณได้รับแหวนสลัก. ไม่ว่าคุณจะมี ปัญหา. วิธีทุกคนสามารถสะกดชื่อของคุณจะมีเพียงตัวอักษรสามตัวและสองของพวกเขาเหมือนกัน. " " ป้ารอบคอบคุณรู้ว่าไม่เป็นความจริง "แอนกล่าวว่า "ครึ่งคนที่ผมรู้ว่าสะกดชื่อของฉันกับ 'e.' แต่ลุงเจมส์ไม่ได้อยู่ในความดูแลของแหวนของเราดังนั้นฉันไม่ได้กังวล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ดังนั้นฉันไปที่ห้องน้ำและร้องให้เกือบชั่วโมงครึ่ง . ไม่มีใครปลอบใจฉัน" ดังนั้นคุณธรรมของเรื่องราว ที่รัก " chimed ในป้าความรอบคอบ " คือเพื่อให้แน่ใจว่า ลุงเจมส์ ไม่ใช่จะทำให้แหวนของคุณตราตรึง ไม่ ว่าคุณจะมีปัญหา ใครจะสะกดผิดชื่อของคุณมีเพียงสามตัว และสองของพวกเขาจะเหมือนกัน "" ป้า ความรอบคอบ คุณรู้ว่ามันไม่จริง " แอน " ครึ่งหนึ่งของคนที่ผมรู้จักสะกดชื่อของฉันด้วย " . " แต่ลุงเจมส์ไม่ได้อยู่ในค่าใช้จ่ายของแหวนของเรา ดังนั้นผมไม่กังวล