“The Wave” consists of intersecting

“The Wave” consists of intersecting U-shaped troughs that have been eroded into Navajo Sandstone of Jurassic age. The two major troughs, which comprise this rock formation, are 62 feet (19 m) wide by 118 feet (36 m) long and 7 feet (2 m) wide by 52 feet (16 m) long. Initially, infrequent runoff eroded these troughs along joints within the Navajo Sandstone. After their formation, the drainage basin, which fed rainwater to these troughs, shrank to the point that the runoff became insufficient to contribute to the cutting of these troughs. As a result, the troughs are now almost exclusively eroded by wind, as indicated by the orientation of erosional steps and risers cut into the sandstone along their steep walls. These erosional steps and risers are oriented relative to the predominant direction of the wind as it is now naturally funneled into and through these troughs.[1][2]

The Wave exposes large-scale, sets of cross-bedded eolian sandstone composed of rhythmic and cyclic alternating grainflow and windripple laminae. The rhythmic and cyclic alternating laminae represent periodic changes in the prevailing winds during the Jurassic as huge sand dunes migrated across a sandy desert. The thin ridges and ribbing seen within The Wave is the result of the differential erosion of rhythmic and cyclic alternating grainflow and windripple laminae within the Navajo Sandstone. These laminae have differing resistance to erosion as they have been differentially cemented according to variations in the grain size of the sand composing them. The soft sandstone, including the ridges and ribbing, of The Wave is fragile. As a result, persons must walk carefully to avoid breaking the small ridges.[3][4][5]

In places, The Wave exposes deformed laminae within the Navajo Sandstone. These laminae were deformed prior to the lithification of the sand to form sandstone. Judging from their physical characteristics, this deformation likely represents the trampling and churning of these sands by dinosaurs after their deposition. Dinosaur tracks and the fossil burrows of desert-dwelling arthropods, such as beetles and other insects, have been found within the Navajo Sandstone within the North Coyote Buttes Wilderness Area.[3][6][7]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

"คลื่น" ประกอบด้วยอินเตอร์เซกกันรูปตัวยู troughs ที่ถูกสึกกร่อนเป็นอายุ Navajo หินทรายของจูราสสิ สองสำคัญ troughs ซึ่งประกอบด้วยการก่อตัวของหินนี้ 62 ฟุต (19 เมตรกว้าง 118 ฟุต (36 เมตรยาว)และ 7 ฟุต (2 เมตรกว้าง 52 ฟุต (16 เมตรยาว)))ได้ เริ่มแรก ไหลบ่าไม่กัดเซาะ troughs เหล่านี้ตามแนวรอยต่อภายในหินทราย Navajo หลังจากการก่อตัวของพวกเขา ระบายน้ำอ่างล้างหน้า ที่ติดตามแบบสายฝน troughs เหล่านี้ shrank ถึงจุดที่การไหลบ่ากลายเป็นพอไปตัดของ troughs เหล่านี้ ดัง troughs ได้ตอนนี้โดยเฉพาะกัดเซาะ โดยลม ตามที่ระบุ โดยการวางแนวของขั้นตอน erosional risers ตัดเป็นหินทรายตามแนวของกำแพงที่สูงชัน ตอน erosional และ risers เหล่านี้เป็นเชิงสัมพันธ์กับทิศทางลมกันมันเป็นตอนนี้ธรรมชาติ funneled เข้า และ ผ่าน troughs เหล่านี้ [1] [2]คลื่นแสดงขนาดใหญ่ หินทราย eolian (ผู้ใหญ่คน)ข้ามชุดประกอบจังหวะ และวัฏจักรสลับ grainflow และ windripple laminae จังหวะ และวัฏจักรสลับ laminae แทนเปลี่ยนแปลงเป็นครั้งคราวในลมยึดระหว่างยุคจูแรสซิกเป็นดันส์ทรายใหญ่อพยพข้ามทะเลทรายทราย สันเขาบาง ๆ และ ribbing ที่เห็นภายในคลื่นเป็นผลของการพังทลายส่วนที่แตกต่างของจังหวะ และวัฏจักรสลับ grainflow และ windripple laminae ภายในหินทราย Navajo Laminae เหล่านี้มีความต้านทานแตกต่างกันการพังทลาย ตามที่พวกเขาได้รับ differentially คาร์ตามรูปขนาดเม็ดทรายที่สร้างพวกเขา หินทรายนุ่ม รวมทั้งเคลื่อนและ ribbing ของคลื่นเปราะบาง ดัง ท่านต้องเดินอย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการทำลายเคลื่อนขนาดเล็ก [3] [4] [5]ในสถาน คลื่นแสดงถึง laminae พิการภายในหินทราย Navajo Laminae เหล่านี้ถูก deformed ก่อน lithification ทรายกับหินทรายแบบฟอร์ม ตัดสินจากลักษณะทางกายภาพของพวกเขา แมพนี้อาจแทน trampling และปั่นหาดทรายเหล่านี้ โดยไดโนเสาร์หลังจากสะสมของพวกเขา เพลงไดโนเสาร์และ burrows ฟอสซิลของ arthropods ทะเลทรายที่อยู่อาศัย ด้วงและแมลงอื่น ๆ พบในหินทราย Navajo ภายในเหนือโคโยตี้ Buttes พื้นที่ถิ่นทุรกันดาร [3] [6] [7]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

"คลื่น" ประกอบด้วยตัดรางรูปตัวยูที่มีการกัดเซาะเข้าไปในนาวาโฮหินทรายอายุจูราสสิ ทั้งสองรางที่สำคัญซึ่งประกอบด้วยหินนี้มี 62 ฟุต (19 เมตร) กว้าง 118 ฟุต (36 เมตร) ยาว 7 ฟุต (2 เมตร) กว้าง 52 ฟุต (16 เมตร) ยาว ในขั้นต้นไม่บ่อยนักที่ไหลบ่ากัดเซาะร่องเหล่านี้พร้อมข้อต่อภายในนาวาโฮหินทราย หลังจากการก่อตัวของพวกเขาพื้นที่ลุ่มน้ำซึ่งเลี้ยงน้ำฝนที่จะร่องเหล่านี้หดตัวลงไปยังจุดที่ไหลบ่าก็ไม่เพียงพอที่จะนำไปสู่การตัดร่องเหล่านี้ เป็นผลให้ร่องอยู่ในขณะนี้เกือบจะกัดเซาะโดยเฉพาะลมตามที่ระบุโดยการวางแนวทางขั้นตอนการกัดกร่อนและตื่นตัดเป็นหินทรายตามผนังของพวกเขาสูงชัน ขั้นตอนเหล่านี้กัดกร่อนและตื่นจะเน้นเทียบกับทิศทางเด่นของลมที่เป็นอยู่ในขณะนี้ทางคลีนิคธรรมชาติเข้าและผ่านร่องเหล่านี้. [1] [2] คลื่น exposes ขนาดใหญ่ชุดหินทรายพาข้ามเตียงประกอบด้วยจังหวะ และ grainflow สลับวงจรและ windripple laminae สลับจังหวะและวงจร laminae แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงในระยะลมพัดในช่วงจูราสสิเป็นเนินทรายขนาดใหญ่อพยพข้ามทะเลทราย สันเขาบางและซี่โครงมองเห็นภายในคลื่นเป็นผลมาจากการพังทลายของความแตกต่างของ grainflow สลับจังหวะและวงจรและ windripple laminae ภายในนาวาโฮหินทราย laminae ที่แตกต่างกันเหล่านี้มีความต้านทานการกัดกร่อนที่พวกเขาได้รับการปูนแตกต่างกันไปตามการเปลี่ยนแปลงของขนาดเม็ดทรายเขียนพวกเขา หินทรายอ่อนรวมทั้งสันเขาและซี่โครงของคลื่นจะเปราะบาง เป็นผลให้บุคคลที่ต้องเดินอย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการทำลายแนวขนาดเล็ก. [3] [4] [5] ในสถานที่ที่คลื่น exposes laminae พิการภายในนาวาโฮหินทราย laminae เหล่านี้ถูกผิดปกติก่อนที่จะ lithification ทรายในรูปแบบหินทราย ตัดสินจากลักษณะทางกายภาพของพวกเขาเปลี่ยนรูปนี้น่าจะหมายถึงการเหยียบย่ำและกวนทรายเหล่านี้โดยไดโนเสาร์หลังจากการสะสมของพวกเขา แทร็คที่ไดโนเสาร์และฟอสซิลโพรงรพทะเลทรายที่อยู่อาศัยเช่นด้วงและแมลงอื่น ๆ ที่ได้รับพบว่าภายในหินทรายนาวาโฮในนอร์ทโคโยตี้ Buttes พื้นที่รกร้าง. [3] [6] [7]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

" คลื่น " ประกอบด้วยสี่แยกรางน้ำตัวยูที่ถูกกัดเซาะเป็นนาวาโฮหินทรายยุคจูแรสซิกอายุ สองสาขารางน้ำ ซึ่งประกอบด้วยหินนี้มี 62 ฟุต ( 18 เมตร ) กว้าง 118 ฟุต ( 36 เมตร ) ยาว 7 ฟุต ( 2 เมตร ) กว้าง 52 ฟุต ( 16 เมตร ) ยาว ไม่บ่อยนักที่ไหลบ่ากัดเซาะใน troughs เหล่านี้ตามข้อต่อภายในหินทราย Navajo . หลังจากการสร้างของพวกเขาการระบายน้ำอ่างซึ่งได้รับน้ำฝน troughs เหล่านี้หดตัวลดลงไปยังจุดที่น้ำท่าก็ไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนการตัดรางน้ำเหล่านี้ เป็นผลให้ , troughs ตอนนี้เกือบเฉพาะกัดเซาะโดยลม , ตามที่ระบุโดยการวางขั้นตอนและ erosional risers ตัดเป็นหินทรายสูงชันตามของผนังขั้นตอน erosional เหล่านี้และ risers เป็นเชิงสัมพัทธ์กับทิศทางที่เด่นของลมอย่างที่เป็นอยู่ตามธรรมชาติในขณะที่เข้าและผ่านรางน้ำเหล่านี้ . [ 1 ] [ 2 ]

ทำให้คลื่นขนาดใหญ่ , ชุดข้ามเตียงหินทรายที่ลมพัดพามาประกอบด้วยจังหวะและวงจรกระแสสลับและ grainflow windripple ลามิน่า .จังหวะและวงจรสลับลามิน่าเป็นตัวแทนแก้ไขระยะเวลาในกระแสลมแรงในช่วงยุคจูแรสซิกเป็นเนินทรายขนาดใหญ่ อพยพข้ามทะเลทรายทราย สันเขาบางและเย้าแหย่เห็นภายในคลื่นเป็นผลของความแตกต่างการพังทลายของจังหวะและวงจรสลับ grainflow windripple ลามิน่าและภายในหินทราย Navajo .ลามิน่า มีความต้านทานการกัดกร่อนที่แตกต่างกันเหล่านี้เช่นที่พวกเขาได้รับแตกต่างกันไปตามความผันแปรในซีเมนต์เม็ดทรายแต่งขนาดของพวกเขา หินทรายนุ่ม รวมทั้งสันเขาและเย้าแหย่ของคลื่นที่เปราะบาง ผลคือ คนต้องเดินอย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการทำลายสันเขาขนาดเล็ก [ 3 ] [ 4 ] [ 5 ]

ในสถานที่คลื่นทำให้พิกลพิการ ลามิน่าในหินทราย Navajo . ลามิน่าก็พิการเหล่านี้ก่อนที่จะ lithification ของทรายในรูปแบบหินทราย ดูจากลักษณะทางกายภาพของพวกเขา , ความผิดปกตินี้อาจหมายถึงการเหยียบย่ำและ churning ของทรายเหล่านี้โดยไดโนเสาร์หลังการสะสมของพวกเขา . เพลงไดโนเสาร์และซากดึกดำบรรพ์โพรงของแมลงอาศัยในทะเลทรายเช่นด้วงและแมลงอื่น ๆได้ถูกพบในหินทราย Navajo ภายในเหนือโคโยตี้สรรพสิ่งพื้นที่ป่า [ 3 ] [ 6 ] [ 7 ]