Other research studies found that i

Other research studies found that important predictors of pay sarisfaction include pay desired versus pay earned; feelings of being entitled or deserving, and the relative deprivation theory. The relative deprivation theory suggests that pay dissatisfaction is a function of six important judgments: (1) a discrepancy between what employees want and what they receive; (2) a discrepancy between a comparison outcome and what they get; (3) past expectations of receiving more rewards; (4) low expectations for the future; (5) a feeling of deserving or being entitled to more than they are getting; and (6) a feeling that they are not personally responsible for poor results.
Herzberg's hygiene theory (discussed earlier) adds another twist. He proposed that the opposite of job satisfaction is not dissatisfaction but just the absence of satisfaction. Nor is the absence of dissatisfaction necessarily positive satisfaction. When applying his theory to pay, he reached the conclusion that pay simply prevents workers from being demotivated.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษาวิจัยอื่น ๆ พบว่า predictors สำคัญของ sarisfaction ค่าจ้างได้แก่ค่าจ้างที่ต้องเทียบกับค่าจ้างที่ได้รับ ความรู้สึกของการได้รับ หรือสมควร และทฤษฎีที่สัมพันธ์กันมา ทฤษฎีสัมพัทธ์มาแนะนำว่า ความไม่พอใจค่าจ้างฟังก์ชันของคำพิพากษาที่สำคัญหก: (1) ความขัดแย้งระหว่างพนักงานต้องและสิ่งที่ได้รับ (2) ความขัดแย้งระหว่างผลการเปรียบเทียบสิ่งที่พวกเขารับ ความคาดหวังที่ผ่านมา (3) รับรางวัลเพิ่มเติม (4) ต่ำความคาดหวังในอนาคต (5) ความรู้สึกของสมควรหรือจะได้รับมากกว่าที่พวกเขาจะได้รับ และ (6) ความรู้สึกว่า พวกเขาจะไม่ส่วนตัวชอบผลลัพธ์ไม่ดี ทฤษฎีสุขอนามัยของ Herzberg (กล่าวถึงก่อนหน้านี้) เพิ่มบิดอีก เขาเสนอว่า ตรงกันข้ามกับความพึงพอใจงานไม่ความไม่พอใจแต่เพียงขาดความพึงพอใจ หรือการขาดงานความพึงพอใจจำเป็นต้องเพิ่มความไม่พอใจ เมื่อใช้ทฤษฎีของเขาจ่าย เขาถึงบทสรุปที่ว่า จ่ายเพียงป้องกันไม่ให้แรงงานถูก demotivated

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษางานวิจัยอื่น ๆ พบว่าตัวทำนายที่สำคัญของการรวม sarisfaction จ่ายจ่ายที่ต้องการเมื่อเทียบกับการจ่ายเงินที่ได้รับ; ความรู้สึกของผู้มีสิทธิหรือสมควรและทฤษฎีการกีดกันญาติ ทฤษฎีการกีดกันญาติแสดงให้เห็นว่าไม่พอใจการจ่ายเงินเป็นหน้าที่ของหกตัดสินที่สำคัญคือ (1) ความแตกต่างระหว่างสิ่งที่พนักงานต้องการและสิ่งที่พวกเขาได้รับ; (2) ความแตกต่างระหว่างผลการเปรียบเทียบและสิ่งที่พวกเขาได้รับ; (3) ความคาดหวังที่ผ่านมาของการได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้น (4) ความคาดหวังต่ำสำหรับอนาคต; (5) ความรู้สึกของสมควรได้รับหรือมีสิทธิมากขึ้นกว่าที่พวกเขาจะได้รับ; และ (6) ความรู้สึกว่าพวกเขาจะไม่เป็นผู้รับผิดชอบสำหรับผลลัพธ์ที่น่าสงสาร.
ทฤษฎีสุขอนามัยของเฮอร์ซเบิร์ก (กล่าวก่อนหน้านี้) ได้เพิ่มบิดอีก เขาเสนอว่าตรงข้ามของความพึงพอใจในงานที่ไม่ได้เป็น แต่เพียงความไม่พอใจกรณีที่ไม่มีความพึงพอใจ ไม่เป็นตัวตนของความไม่พอใจจำเป็นต้องมีความพึงพอใจในเชิงบวก เมื่อใช้ทฤษฎีของเขาที่จะจ่ายเงินเขาไปถึงข้อสรุปที่ว่าจ่ายเพียงแค่ป้องกันไม่ให้คนงานจากการถูก demotivated

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาวิจัยอื่น ๆพบว่า ตัวแปรสำคัญของจ่าย sarisfaction รวมจ่ายกับจ่ายที่ต้องการได้รับ ; ความรู้สึกการสิทธิหรือสมควรและญาติเสียด้านทฤษฎี ทฤษฎีการเปรียบเทียบแสดงให้เห็นว่าจ่ายความไม่พอใจเป็นฟังก์ชันของหกคําสําคัญ ( 1 ) ความแตกต่างระหว่างสิ่งที่คนต้องการและสิ่งที่พวกเขาได้รับ ;( 2 ) ความแตกต่างระหว่างผลและเปรียบเทียบสิ่งที่พวกเขาได้รับ ; ( 3 ) ความคาดหวังของอดีตได้รับรางวัล ; ( 4 ) ความคาดหวังต่ำในอนาคต และ ( 5 ) ความรู้สึกของสมควรหรือได้รับมากกว่าที่พวกเขาได้รับ และ ( 6 ) ความรู้สึกว่าพวกเขาจะไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบผลน่าสงสาร
) ของสุขอนามัย ( ทฤษฎีกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ) เพิ่มบิดอีกเขาเสนอว่า ตรงข้ามกับงาน ไม่ใช่ไม่พอใจ แต่แค่ไม่มีความพึงพอใจ หรือการขาดงานของความพึงพอใจบวกเรื่องความไม่พอใจ เมื่อใช้ทฤษฎีของเขาเพื่อให้เขามาถึงข้อสรุปว่าจ่ายเพียงป้องกันคนงานจากการ demotivated .