Client-Based ArchitecturesClient-ba

Client-Based Architectures
Client-based architectures became important in the late 1980s with the widespread use of PCs, local area networks, and low-cost PC-based application programs such as spreadsheets and word processors.
In client-based architectures, application programs on the clients are responsible for the data access, application, and presentation logic.
The server is responsible for data storage only (Figure 2-2).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สถาปัตยกรรมไคลสถาปัตยกรรมไคลเป็นสิ่งสำคัญในปลายทศวรรษ 1980 มีการใช้แพร่หลายชิ้น เครือข่ายท้องถิ่น และโปรแกรมประยุกต์ใช้ PC ต้นทุนต่ำเช่นกระดาษคำนวณและประมวลผลคำโปรแกรมประยุกต์บนไคลเอนต์จะไม่รับผิดชอบในการเข้าถึงข้อมูล โปรแกรมประยุกต์ และตรรกะนำเสนอในสถาปัตยกรรมไคลเซิร์ฟเวอร์ที่รับผิดชอบการจัดเก็บข้อมูลเท่านั้น (รูปที่ 2-2)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สถาปัตยกรรมไคลเอ็นต์จาก
สถาปัตยกรรมไคลเอ็นต์ที่ใช้กลายเป็นเรื่องสำคัญในช่วงปลายปี 1980 ที่มีการใช้อย่างแพร่หลายของเครื่องคอมพิวเตอร์, เครือข่ายท้องถิ่นและเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ต้นทุนต่ำโปรแกรมเช่นกระดาษคำนวณและประมวลผลคำ.
ในสถาปัตยกรรมไคลเอ็นต์โปรแกรมประยุกต์บน ลูกค้ามีความรับผิดชอบในการเข้าถึงข้อมูล, การประยุกต์ใช้และนำเสนอตรรกะ.
เซิร์ฟเวอร์เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดเก็บข้อมูลเท่านั้น (รูปที่ 2-2)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ลูกค้าที่ใช้สถาปัตยกรรม
ลูกค้าตามสถาปัตยกรรมสำคัญเป็นในช่วงปลายทศวรรษที่ 1980 ที่มีการใช้อย่างแพร่หลายของคอมพิวเตอร์เครือข่ายพื้นที่ท้องถิ่น และเครื่องคอมพิวเตอร์ต้นทุนต่ำใช้โปรแกรมประยุกต์เช่นกระดาษคำนวณและประมวลผลคำ .
ในไคลเอ็นต์ตามสถาปัตยกรรม การใช้โปรแกรมที่ลูกค้ามีความรับผิดชอบในการเข้าถึงข้อมูล การประยุกต์ และตรรกะที่นำเสนอ
เซิร์ฟเวอร์เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดเก็บข้อมูล ( รูปที่ 2-2 ) .