Many physiological disorders such a

Many physiological disorders such as Amyotrophic Lateral Sclerosis (ALS) or injuries such as high-level spinal cord injury can disrupt the communication path between the brain and the body. People with severe motor disabilities may lose all voluntary muscle control, including eye movements. These people are forced to accept a reduced quality of life, resulting in dependence on caretakers and escalating social costs [VAU03]. Most of the existing assistive technology devices for these patients are not possible because these devices are dependant on motor activities from specific parts of the body. Alternative control paradigms for these individuals are thus desirable.

Over the last two decades, brain-computer interface (BCI) has emerged as a new frontier in assistive technology (AT) since it could provide an alternative communication channel between a user’s brain and the outside world [WOL02]. Other terms that are also used in the literature for referring to a BCI system include: brain interface (BI), direct brain interface (DBI), and brain machine interface (BMI).

A BCI system allows individuals with motor disabilities to control objects in their environments (such as a light switch in their room or television, wheelchairs, neural prosthesis and computers) using their brain signals only.This could be accomplished by measuring specific features of the user’s brain activity that relate to his/her intent to perform the control. This specific type of brain activity is termed a “neurological phenomenon”. As an example, when a particular movement such as right index finger flexion is performed, specific neurological phenomena that correspond to that movement are generated. The corresponding neurological phenomena are then translated into signals that are eventually used to control devices [MAS07].

Figure 1 shows a traditional BCI system in which a person controls a device in an operating environment (e.g., a powered wheelchair in a house) through a series of functional components (revised from [FAT06]). In this context, the user’s brain activity is used to generate IC commands that operate the BCI system. The user monitors the state of the device to determine the result of his/her control efforts.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลายโรคสรีรวิทยาเช่น Amyotrophic ด้านข้างเส้นโลหิตตีบ (ยัง) หรือการบาดเจ็บเช่นบาดเจ็บสันหลังระดับสูงสามารถรบกวนเส้นทางสื่อสารระหว่างสมองและร่างกาย คนพิการรุนแรงมอเตอร์อาจสูญเสียการควบคุมกล้ามเนื้อความสมัครใจทั้งหมด รวมถึงความเคลื่อนไหวของตา คนเหล่านี้ถูกบังคับให้ยอมรับการลดคุณภาพของชีวิต เกิดพึ่งพา caretakers และดังต้นทุนทางสังคม [VAU03] อุปกรณ์เทคโนโลยีที่มีอยู่ในผู้ป่วยเหล่านี้ส่วนใหญ่จะไม่ได้เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้จะขึ้นอยู่กับกิจกรรมมอเตอร์จากเฉพาะส่วนของร่างกาย จึงต้องควบคุมอื่น paradigms สำหรับบุคคลเหล่านี้ได้กว่าสองทศวรรษ อินเตอร์เฟซสมองคอมพิวเตอร์ (BCI) ได้ผงาดขึ้นเป็นพรมแดนใหม่ในเทคโนโลยี (AT) เนื่องจากมันสามารถให้ช่องทางการสื่อสารสำรองระหว่างสมองของผู้ใช้และโลกภายนอก [WOL02] รวมถึงเงื่อนไขอื่น ๆ ที่มีใช้ในวรรณคดีสำหรับอ้างอิงกับระบบ BCI: สมองส่วนติดต่อ (BI), อินเตอร์เฟซสมองโดยตรง (DBI), และสมองเครื่องอินเตอร์เฟซ (BMI)ระบบ BCI อนุญาตให้บุคคลทุพพลภาพมอเตอร์เพื่อควบคุมวัตถุในสภาพแวดล้อมของพวกเขา (เช่นสวิตช์ไฟในกายประสาทห้องหรือโทรทัศน์ รถเข็น อุปกรณ์และคอมพิวเตอร์) ใช้สมองของสัญญาณเท่ากันนี้สามารถทำได้ โดยการวัดคุณลักษณะเฉพาะของกิจกรรมสมองของผู้ที่เกี่ยวข้องกับเขา/เธอเจตนาเพื่อดำเนินการควบคุม กิจกรรมสมองชนิดเฉพาะนี้เรียกว่า "ปรากฏการณ์มหาราช" เป็นตัวอย่าง เมื่อย้ายเฉพาะเช่นนิ้วชี้ขวา flexion ดำเนิน เฉพาะ ปรากฏการณ์ที่ระบบประสาทที่สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวที่สร้างขึ้น ปรากฏการณ์ระบบประสาทที่เกี่ยวข้องมีแปลแล้วเป็นสัญญาณที่ใช้ในการควบคุมอุปกรณ์ [MAS07]รูปที่ 1 แสดงระบบ BCI ดั้งเดิมซึ่งผู้ควบคุมอุปกรณ์ในสภาพแวดล้อมการดำเนินงาน (เช่น ขับเคลื่อนรถเข็นในบ้าน) ผ่านชุดของส่วนประกอบที่ทำงาน (ปรับปรุงจาก [FAT06]) ในบริบทนี้ กิจกรรมสมองของผู้ใช้จะใช้เพื่อสร้างคำสั่ง IC ที่มีระบบ BCI ผู้ใช้ตรวจสอบสถานะของอุปกรณ์เพื่อดูผลของความพยายามควบคุมเขา/เธอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความผิดปกติทางสรีรวิทยาหลายอย่างเช่น Amyotrophic Lateral Sclerosis (ALS) หรือการบาดเจ็บเช่นระดับสูงได้รับบาดเจ็บไขสันหลังสามารถทำลายเส้นทางการสื่อสารระหว่างสมองและร่างกาย คนที่มีความพิการมอเตอร์รุนแรงอาจสูญเสียการควบคุมกล้ามเนื้อโดยสมัครใจทั้งหมดรวมทั้งการเคลื่อนไหวของดวงตา คนเหล่านี้ถูกบังคับให้ยอมรับลดคุณภาพของชีวิตที่เกิดขึ้นในการพึ่งพาผู้ดูแลและเพิ่มขึ้นต้นทุนทางสังคม [VAU03] ที่สุดของอุปกรณ์เทคโนโลยีอำนวยความสะดวกที่มีอยู่สำหรับผู้ป่วยเหล่านี้เป็นไปไม่ได้เพราะอุปกรณ์เหล่านี้จะขึ้นอยู่กับกิจกรรมยนต์จากเฉพาะส่วนของร่างกาย กระบวนทัศน์การควบคุมทางเลือกสำหรับบุคคลเหล่านี้เป็นที่พึงประสงค์ดังนั้น. ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมาอินเตอร์เฟซสมองคอมพิวเตอร์ (BCI) ได้กลายเป็นพรมแดนใหม่ในเทคโนโลยีอำนวยความสะดวก (AT) เพราะมันสามารถให้ช่องทางการสื่อสารทางเลือกระหว่างสมองของผู้ใช้และภายนอก โลก [WOL02] เงื่อนไขอื่น ๆ ที่ยังถูกนำมาใช้ในวรรณคดีหมายถึงระบบ BCI รวมถึง:. อินเตอร์เฟซสมอง (BI), อินเตอร์เฟซที่สมองโดยตรง (DBI) และสมองเครื่องอินเตอร์เฟซ (BMI) ระบบ BCI ช่วยให้บุคคลที่มีความบกพร่องในการควบคุมมอเตอร์วัตถุใน สภาพแวดล้อมของพวกเขา (เช่นสวิตช์ไฟในห้องพักของพวกเขาหรือโทรทัศน์, รถเข็นประสาทเทียมและคอมพิวเตอร์) ใช้สัญญาณสมองของพวกเขาเท่านั้นนี้สามารถทำได้โดยการวัดคุณลักษณะเฉพาะของการทำงานของสมองของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการ / ความตั้งใจของเขาที่จะดำเนินการ การควบคุม นี้ประเภทเฉพาะของการทำงานของสมองที่เรียกว่า "ปรากฏการณ์ทางระบบประสาท" ตัวอย่างเช่นเมื่อมีการเคลื่อนไหวโดยเฉพาะอย่างยิ่งเช่นงอนิ้วชี้ขวาจะดำเนินปรากฏการณ์ทางระบบประสาทเฉพาะที่สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวที่จะเกิดขึ้น ปรากฏการณ์ทางระบบประสาทได้รับการแปลแล้วเป็นสัญญาณที่ใช้ในที่สุดในการควบคุมอุปกรณ์ [MAS07]. สอดคล้องรูปที่ 1 แสดงระบบ BCI แบบดั้งเดิมที่เป็นคนควบคุมอุปกรณ์ในสภาพแวดล้อมการทำงาน (เช่นรถเข็นขับเคลื่อนในบ้าน) ผ่าน ชุดของชิ้นส่วนการทำงาน (ปรับปรุงจาก [FAT06]) ในบริบทนี้การทำงานของสมองของผู้ใช้จะใช้ในการสร้างคำสั่ง IC ที่ใช้งานระบบ BCI ผู้ตรวจสอบสถานะของอุปกรณ์เพื่อตรวจสอบผลของการ / ความพยายามควบคุมของเขาและเธอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความผิดปกติทางสรีรวิทยาหลายอย่าง เช่น โรคเอแอลเอส ( ALS ) หรือการบาดเจ็บ เช่น การบาดเจ็บไขสันหลังในระดับสูงสามารถขัดขวางเส้นทางการสื่อสารระหว่างสมองและร่างกาย คนพิการมอเตอร์รุนแรงอาจสูญเสียการควบคุมกล้ามเนื้อทั้งหมดโดยสมัครใจ รวมทั้งการเคลื่อนไหวของตา คนเหล่านี้ถูกบังคับให้ยอมรับการลดคุณภาพของชีวิตผลในการพึ่งพาผู้ดูแลและเพิ่มขึ้นค่าใช้จ่าย vau03 [ สังคม ] ส่วนใหญ่ที่มีอยู่ของเทคโนโลยีอุปกรณ์สำหรับผู้ป่วยเหล่านี้จะเป็นไปไม่ได้ เพราะอุปกรณ์เหล่านี้จะขึ้นอยู่กับมอเตอร์กิจกรรมจากเฉพาะส่วนของร่างกาย กระบวนทัศน์ควบคุมทางเลือกสำหรับบุคคลเหล่านี้เป็นที่พึงปรารถนาดังนั้น

ตลอด 2 ทศวรรษที่ผ่านมาสมองคอมพิวเตอร์อินเตอร์เฟซ ( BCI ) ได้เกิดขึ้นเป็นพรมแดนใหม่ในเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก ( at ) เนื่องจากมันสามารถให้เลือกช่องทางการสื่อสารระหว่างสมองของผู้ใช้และ [ โลกภายนอก wol02 ] เงื่อนไขอื่น ๆที่ใช้ในวรรณกรรมสำหรับหมายถึงระบบ BCI รวมถึง : อินเตอร์เฟซที่สมอง ( บี ) , อินเตอร์เฟซที่สมองโดยตรง ( DBI ) และสมองส่วนเครื่อง

( BMI )เป็นระบบที่ช่วยให้บุคคลที่มีความพิการ BCI มอเตอร์ควบคุมวัตถุในสภาพแวดล้อมของพวกเขา ( เช่นสวิตช์ไฟในห้อง หรือโทรทัศน์ของพวกเขา , รถเข็น , ประสาทเทียมและคอมพิวเตอร์ ) ใช้สัญญาณสมองของพวกเขาเท่านั้น นี้สามารถทำได้โดยการวัดคุณลักษณะเฉพาะของผู้ใช้สมองที่เกี่ยวข้องกับความตั้งใจของเขา / เธอ จะทำการควบคุม .นี้ประเภทเฉพาะของกิจกรรมในสมองเป็น termed เป็น " ปรากฏการณ์ทางระบบประสาท " ตัวอย่าง เมื่อโดยเฉพาะการเคลื่อนไหว เช่น งอนิ้วชี้ด้านขวาจะแสดงเฉพาะทางระบบประสาท ปรากฏการณ์ที่สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวที่ถูกสร้างขึ้น ปรากฏการณ์ที่ระบบประสาทแล้วแปลเป็นสัญญาณที่ใช้ในการควบคุมอุปกรณ์ mas07 ในที่สุด [

]รูปที่ 1 แสดงแบบดั้งเดิม BCI ระบบที่คนควบคุมอุปกรณ์ในการปฏิบัติงานสิ่งแวดล้อม ( ได้แก่ รถเข็นขับเคลื่อนในบ้านผ่านชุดของชิ้นส่วนการทำงาน ( แก้ไขจาก [ fat06 ] ) ในบริบทนี้ คลื่นสมองของผู้ใช้ใช้คำสั่งสร้าง IC ที่ใช้งานระบบ BCI .ผู้ใช้ตรวจสอบสถานะของอุปกรณ์เพื่อตรวจสอบผลของเขา / เธอควบคุมความพยายาม