Hence, as the regional balance of p

Hence, as the regional balance of power shifted with the fallout between the Union of Soviet Socialist Republics and China and the departure of the United States at the end of the Vietnam War, the ruling elite needed to find a new guarantor of national security. They breathed new life into the famous bamboo diplomacy, with the establishment of diplomatic relations with communist China in 1975, despite the latter previously being perceived as a threat to national security Together with China. Thailand, as a frontline state, fully engaged in the Cambodian conflict, providing arms and ammunition to the Khmer Rouge to battle against the advancing Vietnamese menace. At the same time, Thailand sought support from the Association of Southeast Asian Nations (ASEAN), established in 1967, of which it was a founding member, to regionalise its anticommunist policy. The That strategy reiterates a survival technique of a developing Power on a mission to define and redefine its own national interests whenever the regional order was reorganised, to overcome certain limitations in the conduct of diplomacy, and to strike a balance in its dealings with outside Powers to ensure a degree of autonomy and create room for policy maneuvering. The post-Cold War world has witnessed a similar pattern of traditional Thai diplomacy at work, albeit under rather different and more complex circumstances that nave been shaped by both the current political crisis in Thailand and the region s new geopolitical landscape.
Most studies of Thailand’s diplomacy and statecraft seem to agree on one finding: cue flexibility of Thai foreign policy and the ability to adjust to the altering balance of power. Arne Kislenko noted that an ancient Siamese proverb likens foreign policy to the ‘bamboo in the wind': always solidly rooted but flexible enough to bend whichever way the wind blows in order to survive. More than mere pragmatism, this adage reflects a long-cherished, philosophical approach to international relations, the precepts of which arc very much enshrined in Thai cultural and religion . The Thai traditional perception of national interests is explicit: Thai leaders have sought to maintain as far as possible national sovereignty and territorial integrity and to minimise external interference with die domestic system.8 Without failure, the sentiment of having to safeguard national sovereignty was fortified by successive regimes. However, as a mid-range Power con¬strained by certain vulnerabilities. Thailand possessed a few' alternatives in the determination of foreign-policy strategy.
Adopting pragmatism was one option, and it had so far proved effective. The uncertainty of international politics obliged Thailand co bend with the wind so as to retain its influence whilst managing its foreign affairs vis-a-vis foreign Powers and neighboring countries. For example, Siam's relations with China in ancient times, through the despatch of envoys and royal gifts (a symbol of political submission) in exchange for economic benefits reflected a high degree of pragmatism in the kingdom’s foreign-policy thinking.9 Siam was traditionally sensitive to shifts in the distribution of power. The arrival of the first Portuguese trade envoy in the kingdom of Ayutthaya in 1511 and the subsequent appearance of European merchants were an indication of a change of regional order and political landscape to the Siamese kings. China was no longer the region’s supreme Power in Siamese eyes. The European colonialists represented both a real and present danger as well as an opportunity for Siamese kings. Understanding the limits and constraints of foreign policy, Siam took the stance of accommodation to appease the hegemons of the day so that it could preserve its autonomy and gain other benefits, both in its relations with foreign Powers and in its own internal power arrangement.
The key undemanding of Thai foreign-policy pragmatism is that Thai leaders came to terms with their country's capabilities and acted eagerly in response to the reality, rather than to idealist goals or uninhibited ambitions. They made foreign policy based on practicality, seeing the country in terms of its history, form of government, and relationship with foreign Powers.Meanwhile they pursued a conventional strategy of adjusting to whatever stance best maintained friendly

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ดังนั้น เป็นภูมิภาคสมดุลของพลังงานเปลี่ยนระหว่างสหภาพของโซเวียตสังคมนิยมชาติจีน และออกของสหรัฐอเมริกาในสงครามเวียดนาม สิ้นสุด ด้วยการออกมาเสีย อีหุต้องหาผู้ค้ำประกันใหม่ความปลอดภัยแห่งชาติ พวกเขาวิคตอรี่การทูตไม้ไผ่มีชื่อเสียง มีการจัดตั้งความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนคอมมิวนิสต์ในปี 1975 แม้มีหลังก่อนหน้านี้ถูกถือว่าเป็นภัยคุกคามความพร้อมกับจีน ประเทศไทย เป็นรัฐแนวหน้า อย่างหมั้นในความขัดแย้งกัมพูชา ให้อาวุธและกระสุนที่เขมรแดงเพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามต่อเวียดนาม advancing ในเวลาเดียวกัน ไทยขอสนับสนุนจากสมาคมของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประเทศ (อาเซียน), ก่อตั้งขึ้นในค.ศ. 1967 ซึ่งมีสมาชิกก่อตั้ง การ regionalise มีน anticommunist กลยุทธ์ reiterates เทคนิคการอยู่รอดของกำลังพัฒนาในภารกิจที่จะกำหนด และกำหนดผลประโยชน์แห่งชาติของตนเองเมื่อใดก็ ตามที่สั่งภูมิภาคถูก reorganised เอาชนะข้อจำกัดบางอย่างในการดำเนินของการทูต และความสมดุลในการติดต่อกับอำนาจภายนอกเพื่อให้ตัวตั้ง และสร้างห้องสำหรับนโยบายหลบหลีก โลกสงครามเย็นภายหลังได้เห็นรูปแบบคล้ายของการทูตไทยดั้งเดิมที่ทำงาน แม้ว่าภายใต้สถานการณ์ที่ซับซ้อน และแตกต่างแต่ ที่บูชาถูกรูป โดยวิกฤตการณ์การเมืองในประเทศไทยและภูมิภาค s ใหม่ภูมิศาสตร์การเมืองภูมิทัศน์การศึกษาส่วนใหญ่ของประเทศการทูตและ statecraft ดูเหมือนจะ ยอมรับในการค้นหาหนึ่ง: เลื่อนความยืดหยุ่นของนโยบายต่างประเทศไทยและสามารถปรับดัดแปลงสมดุลของพลังงาน Kislenko ช็อปปิ้งกล่าวว่า สุภาษิตที่สยามโบราณ likens นโยบายต่างประเทศกับ 'ไม้ไผ่ในลม': เสมออย่างสมบูรณ์รากแต่มีความยืดหยุ่นพอที่จะดัดแล้วทางลมพัดเพื่ออยู่รอด มากกว่าเพียง pragmatism ดิฉันนี้สะท้อนให้เห็นถึงวิธีการลองที่หวงแหน ปรัชญาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ศีลของส่วนโค้งที่สวยงามประดิษฐานในวัฒนธรรมไทยและศาสนา รู้แบบไทยของผลประโยชน์ของชาติเป็นชัดเจน: ผู้นำไทยได้พยายามที่ จะรักษาเท่าที่ความสมบูรณ์ของดินแดนและอำนาจอธิปไตยแห่งชาติได้ และ เพื่อลดสัญญาณรบกวนภายนอกกับ system.8 ในประเทศตายโดยไม่มีความล้มเหลว ความเชื่อมั่นของการปกป้องอำนาจอธิปไตยแห่งชาติถูกธาตุ โดยระบอบต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เป็น con¬strained ไฟปานกลางโดยช่องโหว่บางอย่าง ประเทศไทยต้องมีกี่ ' ทางเลือกในการกำหนดกลยุทธ์นโยบายต่างประเทศใช้ pragmatism คือ หนึ่งตัวเลือก และมันได้พิสูจน์จนมีประสิทธิภาพ ความไม่แน่นอนของการเมืองระหว่างประเทศ obliged บริษัทไทยโค้งกับลมเพื่อรักษาอิทธิพลในขณะที่การจัดการของกิจการต่างประเทศ vis-เซ็ต-vis อำนาจต่างประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน ตัวอย่าง ความสัมพันธ์ของไทยกับจีนในสมัยโบราณ ผ่านของทูตและของขวัญรอยัล (สัญลักษณ์ของเมืองส่ง) เพื่อแลกกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจสะท้อนระดับสูงของ pragmatism ใน thinking.9 นโยบายต่างประเทศของราชอาณาจักรสยามถูกประเพณีสำคัญเพื่อกะในการกระจายอำนาจ การมาถึงของราชทูตโปรตุเกสค้าแรกในอาณาจักรอยุธยาใน 1511 และลักษณะของพ่อค้ายุโรปภายหลังมีการบ่งชี้การเปลี่ยนแปลงใบสั่งภูมิภาคและภูมิทัศน์เมืองให้กษัตริย์สยาม จีนไม่มีอำนาจสูงสุดของภูมิภาคในสยาม Colonialists ยุโรปแสดงทั้งอันตรายจริง และปัจจุบันเป็นโอกาสสำหรับพระมหากษัตริย์สยาม เข้าใจข้อจำกัดและข้อจำกัดของนโยบายต่างประเทศ สยามเอาท่าทางของสถานที่พักใน hegemons ของวันเพื่อให้สามารถรักษาความอิสระ และได้รับประโยชน์อื่น ๆ ทั้ง ในความสัมพันธ์กับต่างประเทศอำนาจ และจัดการพลังงานภายในของตนเองคีย์ undemanding ของ pragmatism นโยบายต่างประเทศไทยคือ ผู้นำไทยมาสู่ความเป็นประเทศของตน และได้ปฏิบัติตอบสนอง กับความเป็นจริง ไม่ ใช่เป้าหมาย idealist หรือความทะเยอทะยานยิ่งกระหาย พวกเขาทำนโยบายต่างประเทศตามที่ปฏิบัติจริง การเห็นประเทศในแง่ของประวัติศาสตร์ รูปแบบของรัฐบาล และความสัมพันธ์กับต่างประเทศ Powers.Meanwhile พวกเขาติดตามกลยุทธ์ทั่วไปของการปรับปรุงสิ่งท่าทางดีรักษาดี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดังนั้นในขณะที่ความสมดุลของพลังงานในภูมิภาคขยับตัวกับผลกระทบระหว่างสหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตและจีนและการเดินทางของสหรัฐอเมริกาในช่วงปลายของสงครามเวียดนาม, ชนชั้นปกครองจำเป็นในการหาผู้ค้ำประกันใหม่ของการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พวกเขาสูดลมหายใจชีวิตใหม่ในการเจรจาต่อรองไม้ไผ่ที่มีชื่อเสียงที่มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปี 1975 แม้จะมีความหลังก่อนหน้านี้ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติร่วมกับประเทศจีน ประเทศไทยในฐานะรัฐพนักงานมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในความขัดแย้งกัมพูชาให้อาวุธและกระสุนไปที่เขมรแดงที่จะต่อสู้กับความก้าวหน้าคุกคามเวียดนาม ในขณะเดียวกันประเทศไทยขอการสนับสนุนจากสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) ก่อตั้งขึ้นในปี 1967 ซึ่งจะเป็นสมาชิกเพื่อ regionalise นโยบายของคอมมิวนิสต์ กลยุทธ์ที่ย้ำเทคนิคการอยู่รอดของการพัฒนาพลังงานในภารกิจที่จะกำหนดและกำหนดผลประโยชน์ของชาติของตัวเองเมื่อใดก็ตามที่การสั่งซื้อในระดับภูมิภาคได้รับการปรับโครงสร้างองค์กรที่จะเอาชนะข้อ จำกัด บางอย่างในการดำเนินการเจรจาต่อรองและการสร้างสมดุลในการติดต่อกับอำนาจนอก เพื่อให้แน่ใจว่าระดับของความเป็นอิสระและสร้างห้องพักสำหรับการหลบหลีกนโยบาย โลกของสหรัฐหลังสงครามเย็นได้เห็นรูปแบบที่คล้ายกันของการทูตไทยแบบดั้งเดิมในการทำงานแม้จะอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ค่อนข้างแตกต่างกันและมีความซับซ้อนมากขึ้นที่โบสถ์ถูกหล่อหลอมจากทั้งวิกฤตทางการเมืองในปัจจุบันในประเทศไทยและภูมิภาคภูมิทัศน์ทางการเมืองใหม่.
การศึกษาส่วนใหญ่ของประเทศไทย การเจรจาต่อรองและรัฐนาวาดูเหมือนจะเห็นด้วยกับหนึ่งการค้นพบความยืดหยุ่นคิวของนโยบายต่างประเทศของไทยและความสามารถในการปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงความสมดุลของพลังงาน อาร์เน Kislenko ตั้งข้อสังเกตว่าสุภาษิตโบราณสยาม likens นโยบายต่างประเทศที่ 'ไม้ไผ่ในลม': เสมอรากแน่นหนา แต่มีความยืดหยุ่นพอที่จะโค้งงอไปทางใดลมพัดเพื่อให้อยู่รอด มากกว่าเพียงการปฏิบัติ, สุภาษิตนี้สะท้อนให้เห็นถึงระยะหัวแก้วหัวแหวนแนวทางปรัชญาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศศีลซึ่งอาร์ประดิษฐานอยู่อย่างมากในทางวัฒนธรรมและศาสนาของไทย การรับรู้แผนไทยของผลประโยชน์ของชาติเป็นอย่างชัดเจน: ผู้นำไทยได้พยายามที่จะรักษาให้ไกลที่สุดเท่าที่เป็นไปได้อธิปไตยของชาติและบูรณภาพเหนือดินแดนและเพื่อลดการรบกวนจากภายนอกกับภายในประเทศ system.8 ตายโดยความล้มเหลวของการมีความเชื่อมั่นในการปกป้องอธิปไตยของชาติเป็นคนจัดการโดย ระบอบการปกครองที่ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามในขณะที่พลังงานระดับกลางcon¬strainedจากช่องโหว่บางอย่าง ประเทศไทยครอบครองไม่กี่ 'ทางเลือกในการกำหนดกลยุทธ์นโยบายต่างประเทศ.
การนำนิยมเป็นหนึ่งในตัวเลือกและมันได้รับการพิสูจน์เพื่อให้ห่างไกลที่มีประสิทธิภาพ ความไม่แน่นอนของการเมืองระหว่างประเทศจำเป็นประเทศไทยร่วมโค้งกับลมเพื่อรักษาอิทธิพลของการจัดการในขณะที่ต่างประเทศของ Vis-a-Vis อำนาจต่างประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน ตัวอย่างเช่นความสัมพันธ์ระหว่างสยามกับประเทศจีนในสมัยโบราณผ่านการส่งทูตและของขวัญราช (สัญลักษณ์ของการส่งการเมือง) เพื่อแลกกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่สะท้อนให้เห็นระดับสูงของความนิยมในราชอาณาจักรของนโยบายต่างประเทศ thinking.9 สยามไวประเพณี การเปลี่ยนแปลงในการกระจายอำนาจ การมาถึงของนักการทูตการค้าโปรตุเกสก่อนในราชอาณาจักรอยุธยาใน 1511 และต่อมาปรากฏตัวของพ่อค้ายุโรปมีข้อบ่งชี้ของการเปลี่ยนแปลงของคำสั่งในระดับภูมิภาคและภูมิทัศน์ทางการเมืองกษัตริย์สยาม จีนก็ไม่ได้เป็นอำนาจสูงสุดของภูมิภาคนี้ในสายตาของชาวสยาม ล่าอาณานิคมยุโรปเป็นตัวแทนของทั้งอันตรายที่แท้จริงและปัจจุบันรวมทั้งเปิดโอกาสให้พระมหากษัตริย์สยาม ทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อ จำกัด และข้อ จำกัด ของนโยบายต่างประเทศของสยามเอาท่าทางของที่พักเพื่อเอาใจเจ้าโลกของวันเพื่อที่จะสามารถรักษาเอกราชของตนและได้รับผลประโยชน์อื่น ๆ ทั้งในความสัมพันธ์กับต่างประเทศและอำนาจในการจัดการพลังงานภายในตัวของมันเอง.
ต้องการมากที่สำคัญของไทยนิยมนโยบายต่างประเทศคือการที่ผู้นำไทยมาถึงข้อตกลงที่มีความสามารถของประเทศและทำหน้าที่อย่างกระตือรือร้นในการตอบสนองกับความเป็นจริงมากกว่าเป้าหมายอุดมการณ์หรือความทะเยอทะยานไม่มีความยับยั้งชั่งใจ พวกเขาทำให้นโยบายต่างประเทศขึ้นอยู่กับการปฏิบัติจริงเห็นประเทศในแง่ของประวัติศาสตร์, รูปแบบของรัฐบาลและความสัมพันธ์กับต่างประเทศ Powers.Meanwhile พวกเขาไล่ตามกลยุทธ์ทั่วไปของการปรับตัวเข้ากับสิ่งที่ท่าทางยังคงเป็นมิตรที่ดีที่สุด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ดังนั้น ในฐานะที่เป็นภูมิภาคที่มีความสมดุลของพลังขยับลงระหว่างสหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียต และจีน และเดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกา ในตอนท้ายของสงครามเวียดนาม ชนชั้นปกครองต้องการที่จะหาประกันใหม่ของการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พวกเขาหายใจชีวิตใหม่ในการทูตไม้ไผ่ที่มีชื่อเสียงกับการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปี 1975อย่างไรก็ตาม หลังก่อนหน้านี้ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติ ร่วมกับจีน ประเทศไทยเป็นฝ่ายรัฐ มีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการขัดแย้งเขมร ให้อาวุธและกระสุนเพื่อเขมรแดงเพื่อต่อสู้กับ advancing เวียตนามอันตราย ในขณะเดียวกัน ประเทศไทยขอสนับสนุนจากสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( อาเซียน ) , ก่อตั้งขึ้นในปี 1967 ,ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง เพื่อ regionalise นโยบาย anticommunist . ที่กลยุทธ์หลักเทคนิคการอยู่รอดของการพัฒนาพลังงานในภารกิจการกำหนดและกำหนดผลประโยชน์แห่งชาติของตนเองเมื่อใดก็ตามที่สั่งภูมิภาคถูกจัดระบบใหม่ที่จะเอาชนะข้อ จำกัด บางอย่างในการกระทำของทูตและเพื่อความสมดุลในการติดต่อกับพลังภายนอก เพื่อให้แน่ใจว่าระดับของความเป็นอิสระและสร้างห้องสำหรับการใช้นโยบาย หลังสงครามเย็นโลกได้เห็นลักษณะไทยในงานแต่ภายใต้สถานการณ์ที่ซับซ้อนที่แตกต่างกันค่อนข้างและโบสถ์ถูกรูปโดยทั้งวิกฤตทางการเมืองในปัจจุบันในประเทศไทยและในภูมิภาค s ภูมิทัศน์ทางการเมืองใหม่
การศึกษาส่วนใหญ่ของการทูตไทย และคัตยูชาเหมือนเห็นด้วยกับหนึ่งค้นหา : คิวความยืดหยุ่นของนโยบายต่างประเทศของไทย และความสามารถในการปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงความสมดุลของพลังงานเน kislenko สุภาษิตโบราณกล่าวไว้ว่า สยาม likens นโยบายต่างประเทศกับ ' ' ไผ่ในสายลม ' : เสมออย่างสมบูรณ์ถอนแต่ยืดหยุ่นพอที่จะตามทิศทางที่ลมพัด เพื่อความอยู่รอด มากกว่าที่เพียง ภาษิตนี้สะท้อนให้เห็นถึงนาน cherished , วิธีการทางปรัชญา เพื่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ศีลที่โค้งมากประดิษฐานอยู่ในวัฒนธรรมไทยและศาสนาไทยการรับรู้ผลประโยชน์แห่งชาติเป็นชัดเจน : ผู้นำไทยได้พยายามที่จะรักษาเท่าที่เป็นชาติอธิปไตยและบูรณภาพดินแดน และลดการแทรกแซงจากภายนอกกับตายระบบภายในประเทศ 8 โดยไม่มีความล้มเหลว ความเชื่อมั่นที่ต้องปกป้องอธิปไตยของชาติถูกเสริมด้วยระบบต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามเป็นระดับกลาง พลังต่อต้าน¬ตึงตัวโดยบางช่องโหว่ . ประเทศไทยมีไม่กี่ ' ทางเลือกกลยุทธ์ในการกำหนดนโยบายต่างประเทศ คือ การใช้ประโยชน์
หนึ่งตัวเลือกและมันได้จนพิสูจน์ประสิทธิภาพความไม่แน่นอนของการเมืองระหว่างประเทศ ต้องงอ Co ประเทศไทยกับลมเพื่อรักษาอิทธิพลของตนในต่างประเทศ ทั้งนี้ ขณะที่การจัดการอํานาจต่างประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน ตัวอย่างเช่น เมืองสยาม ความสัมพันธ์กับจีนในสมัยโบราณผ่านการส่งคณะทูตและพระของขวัญ ( สัญลักษณ์ของการส่งทางการเมืองแลกกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่สะท้อนระดับสูงของลัทธิปฏิบัตินิยมในการคิดนโยบายต่างประเทศของสหราชอาณาจักร 9 สยามถูกผ้าไว กะในการกระจายพลังงานการมาถึงของโปรตุเกสเป็นครั้งแรกการค้าทูตในกรุงศรีอยุธยาใน 1 และลักษณะที่ตามมาของพ่อค้าชาวยุโรปมีข้อบ่งชี้ของการเปลี่ยนแปลงคำสั่งของภูมิภาคและภูมิทัศน์การเมืองสยามกษัตริย์ ประเทศจีนเป็นอีกภาคของพลังสูงสุด มี ตาcolonialists ยุโรปแสดงทั้งจริงและปัจจุบันอันตราย ตลอดจนเปิดโอกาสให้สยามกษัตริย์ เข้าใจขอบเขตและข้อจำกัดของนโยบายต่างประเทศ , สยามเอาท่าทางของสถานที่ตั้งเพื่อเอาใจ hegemons ของวันเพื่อให้มันสามารถรักษาความอิสระและผลประโยชน์อื่น ๆ ทั้งในต่างประเทศและในความสัมพันธ์กับพลังอำนาจของตัวเอง
จัดภายในคีย์ยังนิยมนโยบายต่างประเทศไทยคือผู้นำไทยมาถึงข้อตกลงกับความสามารถของประเทศของตน และทำอย่างกระตือรือร้นในการตอบสนองต่อความเป็นจริง มากกว่าเป้าหมายอุดมการณ์หรือความทะเยอทะยานไม่ถูกยับยั้ง พวกเขาทำให้นโยบายต่างประเทศตามการปฏิบัติจริง ได้เห็นประเทศในด้านประวัติความเป็นมา รูปแบบของรัฐบาล และความสัมพันธ์กับพลังของต่างประเทศขณะที่พวกเขาไล่ตามกลยุทธ์เดิมของการรักษาที่ดีที่สุดที่ท่าทางเป็นมิตร