First of all step, Spend Time with

First of all step, Spend Time with Positive People. If you surround yourself with constant
complainers, their negativity is likely to rub off on you. Spend time with positive friends and family members to increase the likelihood that their positive thinking habits will become your habits as well. It’s hard to be negative when everyone around you is so positive.
Step 2, Take Responsibility for Your Behavior. When you encounter problems and difficulties in life, don’t play the role of the victim. Acknowledge your role in the situation and take responsibility for your behavior. Accepting responsibility can help you learn from mistakes and prevent you from blaming others unfairly.
Step 3, Contribute to the Community. One of the best ways to feel good about what you have, is to focus on what you have to give. Volunteer in some manner and give back to the community. Helping others can give you a new outlook on the world and can assist you with positive thinking.
Step 4, Read Positive and Inspirational Material. Spend time each day reading something that encourages positive thinking. Read the Bible, spiritual material, or inspirational quotes to help you focus on what’s important to you in life. It can be a great way to start and end your day.
Step 5, Recognize and Replace Negative Thoughts. You won’t be successful at positive thinking if you’re still plagued by frequent negative thoughts. Learn to recognize and replace thoughts that are overly negative. Often, thoughts that include words like “always” and “never” signal that they aren’t true. If you find yourself thinking something such as, “I always mess everything up,” replace it with something more realistic such as, “Sometimes I make mistakes but I learn from them.” There’s no need to make your thoughts unrealistically positive, but instead, make them more realistic.
Step 6, Establish and Work toward Goals. It’s easier to be positive about problems and setbacks when you have goals that you’re working toward. Goals will give you motivation to overcome those obstacles when you encounter problems along the way. Without clear goals, it’s harder to make decisions and gauge your progress.
Step 7, Consider the Consequences of Negativity. Spend some time thinking about the consequences of negative thinking. Often, it can become a self-fulfilling prophecy. For example, a person who thinks, “I probably won’t get this job interview,” may put less effort into the interview. As a result, he may decrease his chances of getting the job. Create a list of all the ways negative thinking impacts your life. It likely influences your behavior, your relationships, and your feelings. Then, create a list of the ways in which positive thinking could be beneficial.
Step 8, Offer Compliments to Others. Look for reasons to compliment others. Be genuine in your praise and compliments, but offer it frequently. This will help you look for the good in other people.
Step 9, Create a Daily Gratitude List. If you start keeping a daily gratitude list, you’ll start noticing exactly how much you have to be thankful for. This can help you focus on the positive in your life instead of thinking about all the bad things that have happened in the day. Getting in the habit of showing an attitude of gratitude makes positive thinking more of a habit.
Step 10, Practice Self-Care. Take good care of yourself and you’ll be more equipped to think positively. Get plenty of rest and exercise and practice managing your stress well. Taking care of your physical and mental health will provide you with more energy to focus on positive thinking.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แรกของขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลากับคนที่เป็นบวก หากคุณล้อมรอบตัวเองด้วยคงขี้บ่น, การปฏิเสธของพวกเขามีแนวโน้มที่จะถูดกับคุณ
ใช้เวลากับเพื่อนในเชิงบวกและสมาชิกในครอบครัวที่จะเพิ่มโอกาสที่นิสัยความคิดเชิงบวกของพวกเขาจะกลายเป็นนิสัยของคุณได้เป็นอย่างดี มันยากที่จะเป็นลบเมื่อทุกคนรอบ ๆ ตัวคุณเป็นบวกดังนั้น.
ขั้นตอนที่ 2 ใช้ความรับผิดชอบต่อพฤติกรรมของคุณ เมื่อคุณพบปัญหาและความยากลำบากในชีวิตไม่ได้มีบทบาทของเหยื่อ รับทราบบทบาทของคุณในสถานการณ์และมีความรับผิดชอบต่อพฤติกรรมของคุณ การยอมรับความรับผิดชอบสามารถช่วยให้คุณเรียนรู้จากความผิดพลาดและป้องกันคุณจากการโทษคนอื่นไม่เป็นธรรม.
ขั้นตอนที่ 3 มีส่วนร่วมในชุมชน หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่จะรู้สึกดีกับสิ่งที่คุณมีคือการมุ่งเน้นในสิ่งที่คุณจะต้องให้ อาสาสมัครในลักษณะบางและให้กลับไปที่ชุมชน การช่วยเหลือผู้อื่นสามารถให้มุมมองใหม่ในโลกและสามารถช่วยให้คุณมีความคิดเชิงบวก.
ขั้นตอนที่ 4 อ่านบวกและสร้างแรงบันดาลใจวัสดุ ใช้เวลาในแต่ละวันอ่านสิ่งที่เอื้อให้เกิดความคิดเชิงบวก อ่านพระคัมภีร์วัสดุทางจิตวิญญาณหรือคำพูดที่สร้างแรงบันดาลใจที่จะช่วยให้คุณมุ่งเน้นสิ่งที่สำคัญต่อคุณในชีวิต มันอาจจะเป็นวิธีที่ดีที่จะเริ่มต้นและสิ้นสุดวันของคุณ.
ขั้นตอนที่ 5 รับรู้และเปลี่ยนความคิดเชิงลบ คุณจะไม่ประสบความสำเร็จในความคิดเชิงบวกถ้าคุณยังคงเต็มไปด้วยการคิดเชิงลบบ่อย เรียนรู้ที่จะรับรู้และเปลี่ยนความคิดที่เป็นลบมากเกินไป บ่อยครั้งที่ความคิดที่มีคำพูดเช่น "เสมอ" และ "ไม่เคย" สัญญาณว่าพวกเขาจะไม่เป็นความจริง หากคุณพบว่าตัวเองคิดอะไรบางอย่างเช่น "ฉันมักจะรับประทานอาหารทุกอย่างขึ้น" แทนที่ด้วยสิ่งที่เป็นจริงมากขึ้นเช่น "บางครั้งผมทำผิดพลาด แต่ผมเรียนรู้จากพวกเขา." มีความจำเป็นที่จะทำให้ความคิดของคุณบวกบวกไม่ได้ แต่ ทำให้พวกเขาจริงมากขึ้น.
ขั้นตอนที่ 6 การจัดตั้งและการทำงานไปสู่เป้าหมาย มันง่ายที่จะเป็นบวกเกี่ยวกับปัญหาและความพ่ายแพ้เมื่อคุณมีเป้าหมายว่าคุณกำลังทำงานต่อ เป้าหมายที่จะทำให้คุณมีแรงจูงใจที่จะเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้นเมื่อคุณพบปัญหาไปพร้อมกัน โดยไม่ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนก็ยากที่จะทำให้การตัดสินใจและการวัดความคืบหน้าของคุณ.
ขั้นตอนที่ 7 พิจารณาผลของการปฏิเสธ ใช้เวลาคิดเกี่ยวกับผลกระทบของการคิดเชิงลบ บ่อยครั้งที่มันจะกลายเป็นคำทำนายตัวเองตอบสนอง ตัวอย่างเช่นคนที่คิดว่า "ฉันอาจจะไม่ได้รับการสัมภาษณ์งานนี้" อาจทำให้ความพยายามน้อยลงในการสัมภาษณ์ เป็นผลให้เขาอาจลดโอกาสของเขาในการรับงาน สร้างรายการของวิธีการทั้งหมดที่มีผลกระทบต่อความคิดเชิงลบชีวิตของคุณ มันอาจมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของคุณและความสัมพันธ์ของคุณและความรู้สึกของคุณ จากนั้นสร้างรายการของวิธีการในการที่ความคิดเชิงบวกอาจจะเป็นประโยชน์.
ขั้นตอนที่ 8 ชมเชยเสนอไปยังผู้อื่น มองหาเหตุผลที่จะชมเชยคนอื่น ๆ เป็นของแท้ในการสรรเสริญและชมเชย แต่ให้มันบ่อย นี้จะช่วยให้คุณมองหาที่ดีในการที่คนอื่น ๆ .
ขั้นตอนที่ 9, การสร้างรายการความกตัญญูกตเวทีประจำวัน หากคุณเริ่มต้นการรักษาความกตัญญูรายการทุกวันคุณจะเริ่มสังเกตเห็นว่าวิธีการที่คุณมีที่จะขอบคุณสำหรับ นี้จะช่วยให้คุณมุ่งเน้นในเชิงบวกในชีวิตของคุณแทนการคิดเกี่ยวกับทุกสิ่งที่ไม่ดีที่จะเกิดขึ้นในวันที่ การเดินทางในนิสัยของการแสดงทัศนคติของความกตัญญูทำให้ความคิดเชิงบวกมากขึ้นจากนิสัยที่.
10 ขั้นตอนการปฏิบัติดูแลตนเอง ดูแลที่ดีของตัวเองและคุณจะได้รับการติดตั้งมากขึ้นในการคิดบวก ได้รับความอุดมสมบูรณ์ของการพักผ่อนและการออกกำลังกายและการฝึกการจัดการความเครียดของคุณได้ดี การดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจของคุณจะช่วยให้คุณมีพลังงานมากขึ้นเพื่อมุ่งเน้นไปที่ความคิดเชิงบวก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แรกของทุกขั้นตอน ใช้เวลากับคนที่เป็นบวก หากคุณล้อมรอบตัวเองด้วยค่าคงที่
ผู้ร้องทุกข์ปฏิเสธของพวกเขามีแนวโน้มที่จะครอบงำคุณ ใช้เวลากับเพื่อน ๆและสมาชิกในครอบครัวเชิงบวกเพื่อเพิ่มโอกาสที่นิสัยการคิดบวก จะกลายเป็น นิสัย ของคุณได้เป็นอย่างดี มันยากที่จะลบเมื่อทุกคนรอบตัวคุณเป็นบวกดังนั้น .
ขั้นตอนที่ 2รับผิดชอบในพฤติกรรมของคุณ เมื่อคุณพบปัญหาและอุปสรรคในชีวิต อย่าเล่นบทบาทของเหยื่อ ยอมรับบทบาทของคุณ ในสถานการณ์ที่และรับผิดชอบพฤติกรรมของคุณ การยอมรับความรับผิดชอบสามารถช่วยให้คุณเรียนรู้จากความผิดพลาดและป้องกันคุณจากการโทษผู้อื่นอย่างไม่เป็นธรรม
ขั้นตอนที่ 3 , มีส่วนร่วมในชุมชนหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่จะรู้สึกดีเกี่ยวกับสิ่งที่คุณมีคือการมุ่งเน้นในสิ่งที่คุณมีให้ อาสาสมัครในบางลักษณะ และให้กลับไปที่ชุมชน ช่วยให้ผู้อื่นสามารถให้แนวโน้มใหม่บนโลก และสามารถช่วยคุณ ด้วยการคิดบวก
ขั้นที่ 4 อ่านบวกและสร้างแรงบันดาลใจ วัสดุ ใช้เวลาในการอ่านแต่ละวันอะไรที่กระตุ้นให้เกิดการคิดบวก อ่านพระคัมภีร์มโนมัยวัสดุ หรือคำคมแรงบันดาลใจจะช่วยให้คุณเน้นสิ่งที่สำคัญกับคุณในชีวิต มันสามารถเป็นวิธีที่ดีที่จะเริ่มต้น และสิ้นสุดวันของคุณ .
5 ขั้นตอน , รับรู้และเปลี่ยนความคิดเชิงลบ คุณจะไม่ประสบความสำเร็จในการคิดบวก ถ้าคุณยังเต็มไปด้วยความคิดลบบ่อย เรียนรู้ที่จะรู้จักและแทนที่ความคิดที่ถูกลบ มักจะความคิดที่ประกอบด้วยคำว่า " เสมอ " และ " ไม่เคย " สัญญาณที่พวกเขาไม่ได้จริง ถ้าคุณพบว่าตัวเองคิดบางอย่าง เช่น " ฉันทำพังหมดเลย " แทนที่ด้วยสิ่งที่มีเหตุผลมากขึ้นเช่น " บางครั้งฉันทำผิด แต่ผมเรียนรู้จากพวกเขา " ไม่ต้องให้ความคิดของคุณบวก unrealistically แต่ให้มีเหตุผลมากขึ้น
ขั้นตอนที่ 6สร้างและทำงานสู่เป้าหมาย มันง่ายที่จะเป็นบวกเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรค เมื่อคุณมีเป้าหมายที่คุณกำลังทำงานกับ . เป้าหมายจะช่วยให้คุณมีแรงจูงใจที่จะเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้นเมื่อคุณพบปัญหาไปพร้อมกัน โดยไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน มันก็ยากที่จะตัดสินใจ และวัดความก้าวหน้าของคุณ .
7 พิจารณาผลกระทบด้านลบใช้เวลาในการคิดเกี่ยวกับผลของการคิดเชิงลบ บ่อยครั้งที่มันจะกลายเป็นตนเองปฏิบัติตามคำทำนาย ตัวอย่างเช่น คนที่คิดว่า " ผมคงไม่รับงานนี้สัมภาษณ์ " อาจใช้ความพยายามน้อยลงในการสัมภาษณ์ ผลคือ เขาอาจจะลดโอกาสที่เขาจะเริ่มงาน สร้างรายการของวิธีคิดเชิงลบผลกระทบต่อชีวิตของคุณอาจมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของคุณความสัมพันธ์ของคุณและความรู้สึกของคุณ แล้วสร้างรายการของวิธีการที่คิดบวก อาจเป็นประโยชน์ .
ขั้นตอนที่ 8 ให้ความปรารถนาดีให้ผู้อื่น ดูเหตุผลในการชมเชยผู้อื่น ได้ของแท้ในการสรรเสริญและคำชม แต่ให้มันบ่อย ๆ นี้จะช่วยให้คุณค้นหาที่ดีในคนอื่น ๆ .
9 ขั้นตอน สร้างรายการขอบคุณทุกวันหากคุณเริ่มต้นการรักษารายการความกตัญญูทุกวัน คุณจะเริ่มสังเกตเห็นว่าคุณมีมากที่จะขอบคุณ นี้สามารถช่วยให้คุณมุ่งเน้นในเชิงบวกในชีวิตของคุณ แทนที่จะคิดเกี่ยวกับสิ่งไม่ดีทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ รับในนิสัยของการแสดงทัศนคติของความกตัญญูที่ทำให้คิดบวกมากขึ้นของนิสัย
ขั้นตอนที่ 10 การดูแลตนเองปฏิบัติดูแลตัวเองและคุณจะมากขึ้นพร้อมที่จะคิดบวก พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกาย และฝึกการจัดการความเครียดของคุณ ดูแลสุขภาพร่างกาย และจิตใจของคุณจะช่วยให้คุณมีพลังงานมากขึ้นเพื่อมุ่งเน้นการคิดบวก