Quantitative Analysis Based on Colo

Quantitative Analysis Based on Color Gamut Volume
In the previous section, we have qualitatively assessed
the color gamut analyzing different profiles of lightness FIG. 3. Change in the color solid volume with the grammage
for matte papers (top) and glossy paper (bottom).and hue-angle. Here, we do a quantitative study that
determines the color solid volume by using the convex
hull and alpha-shapes algorithms.16–18 This allows us to
check the previous results and to know in a more precise
manner the color gamut offered by each paper. In addition,
we want to know if there is some relationship among
the colorimetric properties of the paper and the color solid
volume, and among the grammage, the finishing, and the
color solid volume.
In Table II, we present the color solid volume determined
for the 29 papers used in this work by using both
algorithms. We have checked that the convexity assumption
causes an overestimation of the gamut volume.19 For
this reason, we focus only on the results obtained with
the alpha-shapes method. The widest color gamut calculating
with this method is for the paper 1, with grammage
of 195 g/m2 and glossy finishing. The paper 25, bright
white finishing and 90 g/m2, shows the lowest color solid
volume.
With these data, now we can check if there is a progressive
increase of the color solid volume with an
increase in the paper grammage, as it is expected from
previous analyses. We show two plots of volume versus
grammage, each one associated to papers with different finishing (glossy and matte finishing) (Fig. 3). As we can
see in the Fig. 3, there is an increasing trend between
grammage and volume for matte papers, whereas for
glossy papers there is not a linear correlation between
grammage and gamut volume. The reason has to be found
in the different absorption capabilities of these papers. In
coated papers, the ink penetrates very deeply in the paper,
and for this reason, the thicker the paper, the more ink
can be layed down on it, and the more gamut can be
obtained.11,17 However, we do not have enough semiglossy/
semi-matte papers to observe the relation between FIG. 4. Relation among the diffuse reflectance factor, R,
(top), the ISO brightness, R457, (center), and the CIE whiteness,
W10, (bottom) with the color solid volume.FIG. 5. Correlation among the minimum lightness value,
the maximum blackness value and the color solid volume these variables. In spite of the fact that we have obtained
these results with this printer device, we could obtain similar
results with other printers or with other printing technologies,
so this study could be applied to compare different
printing technologies with the same substrates or vice
versa, or even different printing devices with the same
technology.
In addition, we have done a similar study to quantify
the color gamut of the different papers according to other
parameters which characterize the paper. In this way, we
could know if there is some relationship between the
color gamut and the following characteristics8:
• the diffuse reflectance factor, R
• the ISO brightness, R457
• the CIE whiteness index, W10
In Fig. 4, we can observe that there is not any relationship
among these parameters and the total color solid volume
associated with each paper studied. Thus, from this discrete
set of papers, we can not evaluate what optical characteristics
would have more influence on the color gamut or if
these parameters would affect in the obtained color gamut.
Therefore, it might be necessary to do a more exhaustive
study, based on a statistical approach, to determine how the
color gamut is affected by these optical parameters.As in the above qualitative analysis, we have seen that
the main difference among the papers lays on its capability
to reproduce dark colors. Next, we have studied the
relationship between the color solid volume and colorimetric
parameters which can be related to dark colors, as
it could be the lightness L* and a new perceptual blackness
index B3, in terms of assessment of a black color in
the printed samples.20 The blackness metric is based on
the CIE whiteness metric, it is a linear combination of
luminance and chromatic coordinates, and the coefficients
were determined by optimization between this index and
the psychophysical experiments. As it can be seen in the
Fig. 5, there is a clear linear correlation among these parameters
and the color solid volume. We can say that the
papers that reproduce more dark colors will have a wider
color gamut, as glossy papers as matte and semi-matte/
glossy papers.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การวิเคราะห์เชิงปริมาณตามปริมาณที่เฉดสีในส่วนก่อนหน้านี้ เรามี qualitatively ประเมินเฉดสีที่วิเคราะห์ส่วนกำหนดค่าของความสว่าง FIG. 3 เปลี่ยนแปลงปริมาณของแข็งสีกับ grammageกระดาษเคลือบ (บน) และแบบเงากระดาษ (ล่าง) และเว้มุม ที่นี่ เราทำการศึกษาเชิงปริมาณกำหนดปริมาณสีทึบโดยนูนตัวเรือและรูปทรงอักษร algorithms.16–18 นี้ช่วยให้เราตรวจสอบผลก่อนหน้านี้และรู้ชัดเจนยิ่งขึ้นเฉดสีจากกระดาษแต่ละอย่าง นอกจากนี้เราต้องการทราบว่ามีบางความสัมพันธ์ระหว่างคุณสมบัติเหมือนกระดาษและสีทึบเสียง และ ระหว่าง grammage สิ้นสุด และสีทึบเสียงในตาราง II เรานำเสนอเสียงทึบสีกำหนดสำหรับเอกสาร 29 ใช้ในงานนี้โดยทั้งสองอัลกอริทึมการ เราได้ตรวจสอบที่อัสสัมชัญ convexityทำให้การ overestimation volume.19 เฉดสีสำหรับด้วยเหตุนี้ เรามุ่งเน้นเฉพาะผลได้รับด้วยวิธีการอัลฟารูปร่าง กว้างที่สุดสีเฉดสีการคำนวณด้วยวิธีนี้เป็นกระดาษ 1, grammageของ 195 g/m2 และมันจบ กระดาษ 25 สดใสสีขาวตกแต่งและ 90 g/m2 แสดงสีต่ำทึบไดรฟ์ข้อมูลด้วยข้อมูลเหล่านี้ ตอนนี้เราสามารถตรวจสอบว่า มีความก้าวหน้าเพิ่มขึ้นของปริมาณของแข็งสีกับการเพิ่มในกระดาษ grammage คาดว่าจากวิเคราะห์ก่อนหน้านี้ แสดงระดับเสียงเมื่อเทียบกับสองผืนgrammage แต่ละคนที่สัมพันธ์กับเอกสารกับการตกแต่งแตกต่างกัน (แบบเงาและด้านสิ้น) (Fig. 3) เราสามารถดูใน Fig. 3 มีการเพิ่มแนวโน้มระหว่างgrammage และปริมาณสำหรับเคลือบเอกสาร ในขณะที่สำหรับไม่มีความสัมพันธ์เชิงเส้นระหว่างกระดาษผิวมันปริมาณ grammage และเฉดสี เหตุผลได้พบในความสามารถดูดซึมต่าง ๆ ของเอกสารเหล่านี้ ในหมึกเคลือบกระดาษ แทรกซึมลึกมากในกระดาษและ สำหรับเหตุผลนี้ เติมหมึก กระดาษที่หนาสามารถ layed ลงบน และเฉดสีเพิ่มเติมได้obtained.11,17 อย่างไรก็ตาม เราไม่มี semiglossy เพียงพอ /กระดาษเคลือบกึ่งสังเกตความสัมพันธ์ระหว่าง FIG. 4 ความสัมพันธ์ระหว่างแบบสะท้อนแสงที่กระจายตัว R(บน), ความสว่าง ISO, R457, (กลาง), และ ขาว CIEW10, (ล่าง) กับแบบสีทึบ volume.FIG. 5 ความสัมพันธ์ระหว่างค่าความสว่างต่ำสุดค่าสูงสุด blackness และเสียงทึบสีตัวแปรเหล่านี้ แม้ความจริงที่เราได้รับผลลัพธ์เหล่านี้กับอุปกรณ์เครื่องพิมพ์นี้ เราไม่ได้เหมือนกันผล กับเครื่องพิมพ์อื่น ๆ หรืออื่น ๆ เทคโนโลยีการพิมพ์ดังนั้น การศึกษานี้สามารถใช้เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างกันพิมพ์เทคโนโลยีพื้นผิวเดียวหรือรองในทางกลับ หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ แม้พิมพ์ ด้วยเหมือนกันเทคโนโลยีนอกจากนี้ เราได้ทำการศึกษาที่คล้ายกันเพื่อกำหนดปริมาณเฉดสีของเอกสารแตกต่างกันตามกันพารามิเตอร์ที่กำหนดลักษณะกระดาษ ด้วยวิธีนี้ เราไม่ทราบว่ามีบางความสัมพันธ์ระหว่างการเฉดสีและ characteristics8 ต่อไปนี้:•คูณกระจายแบบสะท้อนแสง R•ความสว่าง ISO, R457•ดัชนีขาว CIE, W10ใน Fig. 4 เราสามารถสังเกตได้ว่าไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆพารามิเตอร์เหล่านี้และปริมาณของแข็งรวมสีเกี่ยวข้องกับกระดาษแต่ละศึกษา ดังนั้น จากนี้แยกกันชุดของเอกสาร เราสามารถไม่ประเมินลักษณะใดแสงจะมีอิทธิพลมากในเฉดสี หรือถ้าพารามิเตอร์เหล่านี้จะส่งผลต่อในเฉดสีที่ได้รับดังนั้น คุณอาจจำเป็นต้องครบถ้วนสมบูรณ์ยิ่งขึ้นการศึกษา ใช้วิธีการทางสถิติ การกำหนดวิธีการเฉดสีได้รับผลกระทบ โดยพารามิเตอร์เหล่านี้แสง ในการวิเคราะห์คุณภาพข้างต้น เราได้เห็นที่ความแตกต่างหลักระหว่างกระดาษวางบนความสามารถของการทำซ้ำสีเข้ม ถัดไป เรามีศึกษาความสัมพันธ์ ระหว่างปริมาณของแข็งสี และเทียบเคียงพารามิเตอร์ที่สามารถเกี่ยวข้องกับสีเข้ม เป็นมันอาจจะสว่าง L * และ blackness perceptual แบบใหม่B3 ดัชนีในการประเมินผลของสีดำในsamples.20 พิมพ์วัด blackness ตามวัดขาว CIE มันเป็นการรวมเชิงเส้นความส่องสว่าง และพิกัดเครื่องตั้งสาย และสัมประสิทธิ์ถูกกำหนด โดยปรับให้เหมาะสมระหว่างดัชนี และในการทดลอง psychophysical สามารถมองเห็นในFig. 5 มีความสัมพันธ์เชิงเส้นชัดเจนระหว่างพารามิเตอร์เหล่านี้และปริมาตรของแข็งสี เราสามารถบอกได้ว่าการกระดาษที่เกิดสีเข้มมากขึ้นจะมีความกว้างเฉดสี เป็นกระดาษเคลือบมันเคลือบและเคลือบกึ่ง /กระดาษผิวมัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การวิเคราะห์เชิงปริมาณจากขอบเขตสีปริมาณในส่วนก่อนหน้านี้เราได้รับการประเมินคุณภาพโทนสีการวิเคราะห์รูปแบบที่แตกต่างของความสว่างมะเดื่อ 3. เปลี่ยนปริมาณของแข็งสีกับ grammage สำหรับเอกสารเคลือบ (บน) และกระดาษมัน (ล่าง) .and สีมุม ที่นี่เราทำการศึกษาเชิงปริมาณที่กำหนดปริมาณของแข็งสีโดยใช้นูนเรือและรูปทรงอัลฟาalgorithms.16-18 นี้ช่วยให้เราสามารถตรวจสอบผลที่ผ่านมาและที่จะรู้ว่าในความแม่นยำมากขึ้นลักษณะโทนสีที่นำเสนอโดยกระดาษแต่ละ. นอกจากนี้เราต้องการที่จะทราบว่ามีความสัมพันธ์ในหมู่คุณสมบัติสีของกระดาษและของแข็งสีปริมาณและในหมู่grammage ที่ตกแต่งและปริมาณของแข็งสี. ในตารางที่สองเรานำเสนอปริมาณของแข็งสีกำหนดสำหรับ 29 เอกสารที่ใช้ในการทำงานนี้โดยใช้ทั้งขั้นตอนวิธีการ เรามีการตรวจสอบว่าสมมติฐานนูนเป็นสาเหตุของเช็คสเปียร์ volume.19 สำหรับช่วงที่ด้วยเหตุนี้เรามุ่งเน้นเฉพาะในผลลัพธ์ที่ได้ด้วยวิธีการที่อัลฟารูปร่าง ขอบเขตสีที่กว้างที่สุดในการคำนวณด้วยวิธีนี้เป็น 1 สำหรับกระดาษที่มี grammage 195 g / m2 และการตกแต่งมันวาว กระดาษ 25 สดใสตกแต่งสีขาวและ90 g / m2 แสดงให้เห็นสีที่ต่ำที่สุดที่เป็นของแข็งปริมาณ. ด้วยข้อมูลเหล่านี้ตอนนี้เราสามารถตรวจสอบว่ามีความก้าวหน้าเพิ่มขึ้นของปริมาณของแข็งสีที่มีการเพิ่มขึ้นในgrammage กระดาษตามที่มันเป็น คาดว่าจากการวิเคราะห์ก่อนหน้านี้ เราจะแสดงสองแปลงของปริมาณเมื่อเทียบกับgrammage แต่ละคนที่เกี่ยวข้องกับเอกสารที่มีการตกแต่งที่แตกต่างกัน (จบมันและผิวด้าน) (รูป. 3) ในขณะที่เราสามารถเห็นในรูป 3 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นระหว่างgrammage และปริมาณเอกสารด้านในขณะที่สำหรับเอกสารมันวาวมีไม่ได้มีความสัมพันธ์เชิงเส้นตรงระหว่างgrammage และปริมาณขอบเขต เหตุผลที่จะต้องมีการพบในการดูดซึมความสามารถที่แตกต่างกันของเอกสารเหล่านี้ ในเอกสารที่เคลือบหมึกแทรกซึมลึกมากในกระดาษและด้วยเหตุผลนี้หนากระดาษหมึกมากขึ้นสามารถวางลงบนมันและขอบเขตมากขึ้นสามารถobtained.11,17 แต่เราไม่ได้มี พอ semiglossy / เอกสารกึ่งด้านที่จะสังเกตเห็นความสัมพันธ์ระหว่างมะเดื่อ 4. ความสัมพันธ์ในหมู่ปัจจัยที่สะท้อนกระจาย R, (บนสุด) ความสว่าง ISO, R457, (กลาง) และขาว CIE ที่W10 (ล่าง) ที่มีสี volume.FIG ของแข็ง 5. ความสัมพันธ์ระหว่างค่าความสว่างต่ำสุดค่าสูงสุดมืดและปริมาณของแข็งสีตัวแปรเหล่านี้ ทั้งๆที่ความเป็นจริงที่เราได้รับผลลัพธ์เหล่านี้กับอุปกรณ์เครื่องพิมพ์นี้เราจะได้รับคล้ายผลกับเครื่องพิมพ์อื่นๆ หรือกับเทคโนโลยีการพิมพ์อื่น ๆดังนั้นการศึกษาครั้งนี้สามารถนำไปใช้เปรียบเทียบที่แตกต่างกันเทคโนโลยีการพิมพ์ที่มีพื้นผิวเดียวกันหรือรองในทางกลับกันหรือแม้กระทั่งอุปกรณ์การพิมพ์ที่แตกต่างกันแบบเดียวกับเทคโนโลยี. นอกจากนี้เราได้ทำศึกษาที่คล้ายกันที่จะหาจำนวนโทนสีที่แตกต่างกันของเอกสารตามที่อื่น ๆ พารามิเตอร์ซึ่งลักษณะของกระดาษ ด้วยวิธีนี้เราสามารถทราบว่ามีความสัมพันธ์บางอย่างระหว่างโทนสีและcharacteristics8 ต่อไปนี้: •ปัจจัยที่สะท้อนกระจาย, R •ความสว่าง ISO, R457 •ดัชนีความขาว CIE, W10 ในรูป 4 เราสามารถสังเกตเห็นว่าไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆในหมู่พารามิเตอร์เหล่านี้และสีโดยรวมปริมาณของแข็งที่เกี่ยวข้องกับกระดาษแต่ละศึกษา ดังนั้นจากนี้ต่อเนื่องชุดของเอกสารที่เราไม่สามารถประเมินสิ่งที่ลักษณะแสงจะมีอิทธิพลมากขึ้นในช่วงของสีหรือถ้าพารามิเตอร์เหล่านี้จะส่งผลกระทบในช่วงสีที่ได้รับ. ดังนั้นจึงอาจมีความจำเป็นที่ต้องทำอย่างละเอียดมากขึ้นการศึกษาตามเกี่ยวกับวิธีการทางสถิติเพื่อตรวจสอบว่าช่วงสีที่ได้รับผลกระทบโดย parameters.As แสงเหล่านี้ในการวิเคราะห์เชิงคุณภาพข้างต้นเราได้เห็นว่าแตกต่างที่สำคัญในเอกสารวางอยู่บนความสามารถในการทำซ้ำสีเข้ม ต่อไปเราได้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสีปริมาณของแข็งและสีพารามิเตอร์ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับสีเข้มเป็นมันอาจจะเป็น* ความสว่าง L และความมืดการรับรู้ใหม่ดัชนีB3 ในแง่ของการประเมินของสีดำที่พิมพ์samples.20 เมตริกมืดอยู่บนพื้นฐานของความขาวCIE ตัวชี้วัดก็คือการรวมกันเชิงเส้นของความสว่างและสีพิกัดและค่าสัมประสิทธิ์ถูกกำหนดโดยการเพิ่มประสิทธิภาพระหว่างดัชนีนี้และการทดลองจิต ในขณะที่มันสามารถมองเห็นได้ในรูป 5 มีความสัมพันธ์เชิงเส้นที่ชัดเจนในหมู่พารามิเตอร์เหล่านี้และปริมาณของแข็งสี เราสามารถพูดได้ว่าเอกสารที่ทำซ้ำสีเข้มมากขึ้นจะมีความกว้างช่วงของสีเป็นมันวาวเป็นเอกสารด้านและกึ่งเคลือบ/ กระดาษมันวาว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิเคราะห์เชิงปริมาณตามเฉดสีปริมาณ
ในส่วนก่อนหน้า เราประเมินคุณภาพ
สีเฉดวิเคราะห์โปรไฟล์ที่แตกต่างกันของ ความสว่าง รูปที่ 3 การเปลี่ยนแปลงในสีทึบปริมาณกับแกรมเมจ
สำหรับเคลือบกระดาษ ( ด้านบน ) และกระดาษเคลือบเงา ( ล่าง ) และมุมฮิว ที่นี่เราทำการศึกษาเชิงปริมาณที่กำหนดสีทึบปริมาณ

โดยใช้นูนเรืออัลฟารูปร่างและขั้นตอนวิธี 16 – 18 นี้ช่วยให้เรา

เช็คผลก่อนหน้า และรู้ในลักษณะที่แม่นยำ
เพิ่มเติมเสนอ โดยแต่ละเฉดสีกระดาษ นอกจากนี้
เราต้องการทราบว่ามีความสัมพันธ์บางอย่างระหว่าง 7.4
คุณสมบัติของกระดาษและสีทึบ
ระดับเสียง และระหว่างแกรมเมจ , การตกแต่งและ

สีทึบเสียง ในตารางที่ 2เราเสนอสีทึบปริมาณกำหนด
ที่ 29 เอกสารที่ใช้ในงานนี้ ใช้ทั้ง
อัลกอริธึม เราได้ตรวจสอบว่านูนอัสสัมชัญ
สาเหตุการประเมินมากเกินไปของเฉดสี volume.19 สำหรับ
เหตุผลนี้เราเน้นเฉพาะผลลัพธ์ที่ได้กับ
อัลฟ่ารูปร่างวิธี กว้างสีเฉดการคำนวณ
ด้วยวิธีนี้เป็นกระดาษกับแกรมเมจ
1ของ 195 g / m2 และมันวาว เสร็จสิ้น กระดาษ 25 , สดใส
สีขาวตกแต่งและ 90 g / m2 แสดงค่าสีทึบ

เสียง ด้วยข้อมูลเหล่านี้ เราสามารถตรวจสอบได้ว่ามีการเพิ่มขึ้นของปริมาณสีทึบ
กับ
เพิ่มในกระดาษแกรมเมจ เป็นที่คาดหวังจาก
วิเคราะห์ก่อนหน้านี้ เราแสดงจำนวนของปริมาณเมื่อเทียบกับแกรมเมจ
,แต่ละตัวที่เกี่ยวข้องกับเอกสารที่มีการตกแต่งที่แตกต่างกัน ( Glossy และ Matte จบ ) ( รูปที่ 3 ) เท่าที่เราทำได้
เห็นในรูปที่ 3 มี แนวโน้มระหว่าง
แกรมเมจและปริมาณสำหรับเคลือบเอกสารในขณะที่
กระดาษมันไม่มีความสัมพันธ์เชิงเส้นระหว่าง
แกรมเมจและปริมาณช่วง . เหตุผลที่ต้องพบในการดูดซึมที่แตกต่างกัน
ความสามารถของเอกสารเหล่านี้ ใน
กระดาษเคลือบหมึกแทรกซึมมากลึกในกระดาษ
และสำหรับเหตุผลนี้หนา กระดาษ หมึกมากกว่า
สามารถนอนลงบนมันและเฉดสีเพิ่มเติมสามารถ 11,17
ได้ อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้มีเพียงพอ semiglossy /
กึ่งด้านเอกสารเพื่อสังเกตความสัมพันธ์ระหว่างรูปที่ 4 ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัย reflectance กระจาย R ,
( ด้านบน ) , ISO ความสว่าง r457 ( กลาง ) และ CIE ความขาว
W10 , ,( ล่าง ) กับสีทึบ volume.fig 5 . ความสัมพันธ์ระหว่างค่าความสว่างต่ำสุด สูงสุดค่า
มืดและสีทึบปริมาณตัวแปรเหล่านี้ ทั้งๆที่ความจริงที่ว่าเราได้รับ
ผลลัพธ์เหล่านี้กับอุปกรณ์เครื่องพิมพ์ เราจะได้รับผลที่คล้ายกัน
กับอื่น ๆเครื่องพิมพ์ หรือด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์อื่น ๆ ,
ดังนั้นการศึกษาในครั้งนี้สามารถนำไปใช้ในการเปรียบเทียบความแตกต่าง
เทคโนโลยีการพิมพ์ด้วยพื้นผิวเดียวกันหรือรอง
ในทางกลับกัน หรือแม้แต่การพิมพ์ที่แตกต่างกัน อุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีเดียวกัน
.
นอกจากนี้ เราได้ทำ การศึกษาที่คล้ายกันที่จะหา
สีเฉดของเอกสารที่แตกต่างกันตามค่าพารามิเตอร์อื่นๆ
ซึ่งเป็นลักษณะกระดาษ ในวิธีนี้เราสามารถทราบว่ามีบาง

ช่วงความสัมพันธ์ระหว่างสีและ characteristics8
ต่อไปนี้ :- ปัจจัยสะท้อนกระจาย , R
-
- ISO ความสว่าง r457 CIE ความขาว W10 ,
ในรูปที่ 4 เราสามารถสังเกตว่าไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆและทั้งหมดของตัวแปรเหล่านี้

สีทึบปริมาณที่เกี่ยวข้องกับกระดาษแต่ละชนิด ดังนั้น , จากนี้ต่อเนื่อง
ชุดของเอกสาร เราสามารถประเมินลักษณะสิ่งที่แสง
น่าจะมีอิทธิพลมากกว่าสีเฉดหรือถ้า
พารามิเตอร์เหล่านี้จะมีผลต่อค่าสีเฉด .
จึงอาจต้องทำการศึกษาครบถ้วนสมบูรณ์
เพิ่มเติม ตามวิธีการทางสถิติ เพื่อหาวิธี
สีเฉดนี้ได้รับผลกระทบจากพารามิเตอร์เหล่านี้แสง ในข้างต้น การวิเคราะห์เชิงคุณภาพ เราได้เห็นความแตกต่างหลักระหว่าง
เอกสารเลย์ บน
ความสามารถที่จะเกิดสีเข้ม ต่อไปเราได้ศึกษา
ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณของสีทึบและ 7.4
ซึ่งสามารถที่เกี่ยวข้องกับสีเข้ม เช่น
มันอาจจะสว่างและการรับรู้ใหม่ " L *
ดัชนี B3 ในแง่การประเมินของสีดำในการพิมพ์ samples.20
" เมตริกขึ้นอยู่กับ
CIE ความขาวเมตริกตัน มันรวมกัน เส้นของ
ความสว่างและพิกัดรงค์และค่าสัมประสิทธิ์
ถูกกำหนดโดยการเพิ่มประสิทธิภาพของดัชนีนี้
การทดลองและการ . มันสามารถเห็นได้ใน
รูปที่ 5 มีสหสัมพันธ์เชิงเส้นตรงที่ชัดเจนของพารามิเตอร์เหล่านี้
และสีทึบเสียง เราสามารถพูดได้ว่า
เอกสารที่เกิดสีเข้มกว่าจะมีเฉดสีให้กว้างขึ้น
, เป็นกระดาษมันเป็นผิวด้าน และกึ่งเงา /
เคลือบเอกสาร