โครงงานเรื่องการหาปริมาณอะลูมิเนียมในนม คณะผู้จัดทำจุดประสงค์เพื่อจะศึกษาและค้นคว้าปริมาณอะลูมิเนียมที่อยู่ในนม ซึ่งนมเป็นผลผลิตจากสัตว์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง จึงได้รับความนิยมไปแปรรูปมากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นการบริโภคโดยตรงหรือการเป็นส่วนผสมของอาหาร แต่ในผลิตภัณฑ์นมที่เรานำมาบริโภคกันนั้นอาจมีอันตรายจากโลหะหนักที่ปนเปื้อนมาไม่ว่าจะมาจากกระบวนการผลิตหรือบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งโลหะหนักที่ปนเปื้อนอยู่ในผลิตภัณฑ์นมที่เราบริโภคนั้น จะส่งผลร้ายแรงอย่างยิ่งต่อสุขภาพอนามัยของผู้บริโภค ซึ่งในการศึกษาค้นคว้าทำโครงงานในครั้งนี้ ทางคณะผู้จัดทำได้สนใจที่จะวิเคราะห์ปริมาณของอะลูมิเนียมในนม ทางการค้าที่มีขายอยู่ตามท้องตลาดของไทย ซึ่งอะลูมิเนียมเป็นโลหะที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย มีทั้งโลหะที่เป็นชนิดเดียวและที่อยู่ในรูปของโลหะผสมซึ่งเป็นส่วนประกอบของเครื่องมือ และอุปกรณ์ต่างๆหลายชนิด ดังนั้นในกระบวนการแปรรูปผลิตภัณฑ์นม อะลูมิเนียมจากเครื่องมือ และอุปกรณ์ต่างๆที่ผู้ประกอบการใช้ในการผลิตก็อาจจะปนเปื้อนมาในผลิตภัณฑ์นมได้ การที่เราได้รับหรือสัมผัสกับไอออนของอะลูมิเนียมปริมาณมากหรือเป็นระยะเวลานาน สามารถก่อให้เกิดความผิดปกติของร่างกายได้ เช่น กระดูกบาง แตกหักง่าย กล้ามเนื้อแขนขาลีบ ติดเชื้อง่าย ไตและอวัยวะอื่นๆ ถูกทำลาย การทำงานของหัวใจผิดปกติ อาจถึงแก่ชีวิตด้วยภาวะหัวใจล้มเหลว
คณะผู้จัดทำได้นำเทคนิคสเปกโทรฟลูออโรเมตริก มาประยุกต์ใช้ในการหาปริมาณอะลูมิเนียมในนมสเตอริไลส์และนมผง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะหหาปริมาณอะลูมิเนียมในนมซึ่งมีขายอยู่ตามท้องตลาด โดยการทำปฏิกิริยากับกรด 3-ไฮดรอกซี-2-แนฟทาลีนคาร์บอกซิลิกและทำการเทียบหาปริมาณการปนเปื้อนของอะลูมิเนียมที่ทการวิเคราะห์กับค่ามาตรฐานสากลที่กำหนดไว้คือ 10,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม(WHO and AFO,2011)