The next stage in the formation of

The next stage in the formation of the egg is
the laying down of two shell membranes, an
inner one and an outer one, around the
albumen. The membranes are formed in the
thin, tubular isthmus. When the membranes
are first laid down, they cover the albumen
tightly, but they soon stretch. By the time the
egg enters the shell gland they fit quite
loosely.
The egg passes the next five hours in the
process known as "plumping." This entails the
entry of water and salts through the
membranes until the egg is swollen. The
plumping period appears to be an essential
preliminary to the main process of shell
calcification, which occupies the next 15 to 16
hours.
The shell is composed of calcite, which is
one of the crystalline forms of calcium
carbonate. A sparse matrix of protein runs
through the crystals of the shell. The final
stage in the formation of the egg is the
deposition of a cuticle on the fully calcified
shell; this is accomplished just before the egg
is laid.
Let us now look at the structure of the
eggshell in rather more detail. The shell is
attached to the outer membrane by
hemispherical structures known as mam
millary knobs. Histochemical studies have
shown that the cores of the knobs consist of a
protein-mucopolysaccharide complex rich in
acid groups, and that anchoring fibers run
from the outer membrane into the knobs.
The cores of the mammillary knobs are laid
down as the membrane-covered egg passes
through the part of the oviduct called the
isthmo-uterine junction; it is between the
isthmus and the shell gland. It seems probable
that the knobs are calcified soon after they are
formed, before the egg enters the shell gland,
and that they subsequently act as nuclei for the
growth of the calcite crystals comprising the
shell. Modern ideas on the mechanism of
biological calcification—whether in bones,
teeth, eggshells or any of the other places
where calcium is deposited in animal bodies—
emphasize the importance of crystal growth.
Earlier theories seeking to explain the
mechanism laid much stress on the role of
precipitation of calcium salts from
supersaturated solutions, but in the light of
more recent evidence this concept no longer
seems valid.
The mechanism whereby the mammillary
knobs are calcified is not well understood. It is
thought to involve the binding of calcium ions
to the organic cores of the knobs by means of
the sul-fonic acid groups on the acidmucopoly-
saccharide-protein material of
which the cores are composed. It is suggested
that the spatial arrangement of the bound
calcium ions is the same as it is in the lattice of
the calcite crystal, so that these oriented
calcium ions act as seeds or nuclei for the
growth of calcite crystals forming the shell.
Some years ago my colleagues and I found
that the isthmus contains extremely high
concentrations of both calcium and citric acid,
the former reaching a maximum of about 90
milligrams per 100 grams of fresh tissue and
the latter about 360 milligrams. We concluded
that the high level of calcium in this region
may be of significance in the calcification of
the mammillary knobs.
The main part of the shell was once known as
the spongy layer but has more recently come
to be called the palisade layer. It is composed
of columns of tightly packed calcite crystals;
the columns extend from the mammillary
knobs to the cuticle. Occasional pores run up
between the crystals from spaces formed
where groups of knobs come together. The
pores reach the surface in small depressions
that are just visible to the unaided eye on the
outside of the shell. It is through these pores
that the embryo takes in oxygen and gives out
carbon dioxide during the incubation of the
egg.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ขั้นต่อไปในการก่อตัวของไข่คือ
วางลงของเยื่อหุ้มเปลือกสอง การ
ด้านหนึ่งและหนึ่งภายนอก สถาน
albumen สารจะเกิดขึ้นในการ
คอคอดบาง ท่อ เมื่อเข้า
ก่อนจะวางลง พวกเขาครอบคลุม albumen
แน่น แต่พวกเขาเร็ว ๆ นี้ยืด โดยเวลา
ต่อมเปลือกค่อนข้างพอป้อนไข่
ซึ่ง
ไข่ผ่านไปห้าชั่วโมงถัดไปในตัว
กระบวนการที่เรียกว่า "plumping " นี้กระบวนการ
รายการของน้ำและเกลือผ่าน
เข้าจนกว่าไข่จะบวม ใน
plumping ระยะดูเหมือนจะ เป็นสิ่งที่ขาด
preliminary to กระบวนการหลักของเปลือก
calcification ที่ 15 ถัดไป 16
ชั่วโมง
Shell ประกอบด้วยแคลไซต์ ซึ่งเป็น
หนึ่งฟอร์มผลึกของแคลเซียม
คาร์บอเนต เมทริกซ์บ่อโปรตีนทำงาน
ผ่านผลึกของเปลือก สุดท้าย
มีขั้นตอนในการก่อตัวของไข่
สะสมของการตัดแต่งหนังบน calcified เต็ม
เปลือก นี้สำเร็จก่อนไข่
จะวาง
เรามีลักษณะโครงสร้างของการ
เปลือกไข่ในรายละเอียดมากกว่า นั้น Shell เป็น
แนบกับเยื่อหุ้มภายนอกด้วย
โครงสร้างครึ่งเรียกว่าแหม่ม
millary ลูกบิด ได้ศึกษา histochemical
แสดงว่า แกนของลูกบิดประกอบเป็น
โปรตีน mucopolysaccharide ซับซ้อนอุดม
กลุ่มกรด และเส้นใย anchoring ทำ
จากเยื่อนอกเป็นลูกบิด
แกนลูกบิด mammillary จะวาง
ลงเป็นไข่ครอบคลุมเยื่อผ่าน
ผ่านส่วนของ oviduct เรียกว่าการ
เชื่อมต่อ isthmo มดลูก การ
คอคอดและต่อมเปลือก เหมือนดำรง
เป็น calcified ลูกบิดทันทีหลังจาก
เกิด ก่อนไข่ป้อนต่อมเปลือก,
และว่า พวกเขามาทำหน้าที่เป็นแอลฟาสำหรับ
เจริญเติบโตของผลึกแคลไซต์ที่ประกอบด้วยการ
เปลือก ความคิดที่ทันสมัยในกลไกของ
calcification ชีวภาพเช่นในกระดูก,
ฟัน eggshells หรือสถานอื่นใด
ที่ส่งแคลเซียมในร่างกายสัตว์ —
เน้นความสำคัญของการเจริญเติบโตของผลึก
ก่อนหน้าทฤษฎีกำลังอธิบายการ
กลไกวางความเครียดมากในบทบาทของ
salts ฝนของแคลเซียมจาก
supersaturated โซลูชั่น แต่ใน light ของ
ล่าสุดหลักฐานแนวความคิดนี้ไม่
ดูเหมือนถูกต้อง.
กลไกโดยที่ mammillary
ลูกบิดเป็น calcified คือไม่เข้าใจกัน เป็น
ความคิดที่เกี่ยวข้องกับการผูกของประจุแคลเซียม
กับแกนอินทรีย์ของลูกบิดผ่าน
กลุ่มกรดเน fonic บน acidmucopoly-
วัสดุ saccharide โปรตีน
ซึ่งประกอบด้วยแกน แนะนำ
ที่จัดปริภูมิของการผูก
ประจุแคลเซียมจะเหมือนกันอยู่ในโครงตาข่ายประกอบของ
ผลึกแคลไซต์ เพื่อให้เหล่านี้มุ่งเน้น
ประจุแคลเซียมทำหน้าที่เป็นเมล็ดหรือแอลฟาสำหรับการ
เจริญเติบโตของผลึกแคลไซต์ที่เป็นเปลือก
บางปีเพื่อนร่วมงานของฉันและฉันพบ
ที่คอคอดจะประกอบด้วยสูงมาก
ความเข้มข้นของแคลเซียมและกรดซิตริก,
อดีตถึงสูงสุดประมาณ 90
milligrams ต่อ 100 กรัมของเนื้อเยื่อสด และ
หลังประมาณ 360 milligrams เราสรุป
ที่มีระดับของแคลเซียมในภูมิภาคนี้
อาจสำคัญใน calcification ของ
mammillary ลูกบิดได้
ส่วนประกอบหลักของเปลือกครั้งถูกเรียกว่า
ชั้น spongy แต่มีเพิ่มเติมมาเมื่อเร็ว ๆ นี้
จะเรียกชั้น palisade ประกอบด้วย
คอลัมน์ของผลึกแคลไซต์ที่บรรจุแน่น;
คอลัมน์ขยายจากที่ mammillary
ลูกบิดจะกำพร้า รูขุมขนเป็นครั้งคราวเรียกใช้ค่า
ระหว่างผลึกจากช่องว่างเกิดขึ้น
ที่กลุ่มของลูกบิดมาร่วมกัน ใน
รูขุมขนถึงผิวในทรายเล็ก
ที่มองเห็นแค่ตาตำหนิบน
นอกกะลา มันคือรูขุมขนเหล่านี้
ที่ตัวอ่อนที่ใช้ออกซิเจน และให้ออก
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระหว่างการฟักตัวของการ
ไข่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ขั้นตอนต่อไปในการก่อตัวของไข่ที่
วางลงสองเยื่อเปลือก
ด้านหนึ่งและหนึ่งนอกรอบ
ไข่ขาว เยื่อที่เกิดขึ้นใน
บางคอคอดท่อ เมื่อเยื่อ
จะถูกวางลงครั้งแรกที่พวกเขาครอบคลุมไข่ขาว
แน่น แต่พวกเขาเร็ว ๆ นี้ยืด ตามเวลาที่
ไข่เข้าสู่ต่อมเปลือกพวกเขาพอดีค่อนข้าง
หลวม
ไข่ผ่านไปห้าชั่วโมงต่อไปใน
กระบวนการที่เรียกว่า "เจน". นี้ entails
การเข้ามาของน้ำและเกลือผ่าน
เยื่อจนกว่าไข่จะบวม
ระยะเวลา plumping ที่ดูเหมือนจะเป็นสิ่งสำคัญ
ในเบื้องต้นให้แก่กระบวนการหลักของเปลือก
แคลเซียมซึ่งครอง 15-16 ต่อ
ชั่วโมง
เปลือกที่ประกอบด้วยแคลเซียมคาร์บอเนตซึ่งเป็น
หนึ่งในรูปแบบผลึกของแคลเซียม
คาร์บอเนต เมทริกซ์เบาบางของโปรตีนวิ่ง
ผ่านผลึกของเปลือก สุดท้าย
ขั้นตอนในการก่อตัวของไข่ที่มี
การทับถมของหนังกำพร้าที่จนใจอย่างเต็มที่
เปลือก; นี้จะสำเร็จก่อนที่ไข่
จะวาง
ให้เราตอนนี้มองไปที่โครงสร้างของ
เปลือกไข่ในรายละเอียดค่อนข้างมาก เปลือกจะ
ติดอยู่กับเยื่อหุ้มชั้นนอกโดย
โครงสร้างรูปครึ่งวงกลมที่เรียกว่าแหม่ม
ลูกบิด millary การศึกษาอิทธิพลของสารประกอบได้
แสดงให้เห็นว่าแกนของลูกบิดประกอบด้วย
โปรตีน mucopolysaccharide ซับซ้อนอุดมไปด้วย
กลุ่มวิตามินและเส้นใยทอดสมอทำงาน
จากเยื่อหุ้มชั้นนอกเป็นลูกบิด
แกนลูกบิด mammillary ถูกวาง
ลงในขณะที่ไข่เยื่อหุ้มปกคลุม ผ่านไป
ผ่านส่วนหนึ่งของท่อนำไข่ที่เรียกว่า
แยก isthmo มดลูก; มันอยู่ระหว่าง
คอคอดและต่อมเชลล์ ดูเหมือนว่าน่าจะเป็น
ที่ลูกบิดจะจนใจเร็ว ๆ นี้หลังจากที่พวกเขาจะ
เกิดขึ้นก่อนที่ไข่จะเข้าสู่ต่อมเปลือก
และพวกเขาก็ทำหน้าที่เป็นแกนกลางสำหรับ
การเจริญเติบโตของผลึกแคลไซต์ที่ประกอบไปด้วย
เปลือก ความคิดที่ทันสมัยในกลไกของ
ทางชีวภาพไม่ว่าแคลเซียมในกระดูก,
ฟัน, เปลือกหรือสถานที่อื่น ๆ
ที่แคลเซียมที่สะสมอยู่ในสัตว์ bodies-
เน้นความสำคัญของการเจริญเติบโตของผลึก
ทฤษฎีก่อนหน้านี้พยายามที่จะอธิบาย
กลไกการวางความเครียดมากเกี่ยวกับบทบาท ของ
การตกตะกอนของเกลือแคลเซียมจาก
โซลูชั่น supersaturated แต่ในแง่ของ
หลักฐานล่าสุดแนวคิดนี้ไม่ได้
ดูเหมือนว่าถูกต้อง
กลไกโดย mammillary
ลูกบิดจะจนใจจะไม่เข้าใจดี มันเป็น
ความคิดที่เกี่ยวข้องกับการผูกพันของแคลเซียมไอออน
ที่แกนอินทรีย์ของลูกบิดโดย
sul-fonic กลุ่มกรดใน acidmucopoly-
วัสดุ saccharide โปรตีนของ
แกนซึ่งจะประกอบด้วย จะชี้ให้เห็น
ว่าการจัดเรียงของพื้นที่ที่ถูกผูกไว้
แคลเซียมไอออนเป็นเช่นเดียวกับที่มันอยู่ในตาข่ายของ
ผลึกแคลเซียมคาร์บอเนตเพื่อให้เหล่านี้มุ่งเน้น
แคลเซียมไอออนทำหน้าที่เป็นเมล็ดหรือนิวเคลียสสำหรับ
การเจริญเติบโตของผลึกแคลเซียมคาร์บอเนตสร้างเปลือก
บางปีที่ผ่านมา เพื่อนร่วมงานของฉันและฉันพบ
ว่าคอคอดมีสูงมาก
ความเข้มข้นของกรดทั้งแคลเซียมและซิตริก
อดีตถึงสูงสุดประมาณ 90
มิลลิกรัมต่อ 100 กรัมของเนื้อเยื่อสดและ
หลังประมาณ 360 มิลลิกรัม เราสรุปได้
ว่าระดับสูงของแคลเซียมในภูมิภาคนี้
อาจจะมีความสำคัญในการกลายเป็นปูนของ
ลูกบิด mammillary
ส่วนหลักของเปลือกหอยที่เป็นที่รู้จักครั้งหนึ่งเคยเป็น
ชั้นฟู แต่ได้มาเมื่อเร็ว ๆ นี้
จะเรียกว่าชั้นรั้วเหล็ก มันประกอบด้วย
คอลัมน์ของแน่นผลึกแคลเซียมคาร์บอเนต;
คอลัมน์ขยายจาก mammillary
ลูกบิดเพื่อหนังกำพร้า รูขุมขนเป็นครั้งคราววิ่งขึ้น
ระหว่างผลึกจากช่องว่างที่เกิดขึ้น
ที่กลุ่มลูกบิดมาร่วมกัน
รูขุมขนถึงพื้นผิวในหน้าแตกขนาดเล็ก
ที่มีเพียงแค่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าบน
ด้านนอกของเปลือก จะผ่านรูขุมขนเหล่านี้
ที่ตัวอ่อนจะใช้เวลาในออกซิเจนและให้ออก
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระหว่างการฟักตัวของ
ไข่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ขั้นตอนต่อไปในการพัฒนาของไข่
วางสองเปลือกหุ้ม ,
ภายในหนึ่งและนอก รอบ
ไข่ขาว เยื่อที่เกิดขึ้นในท่อ
คอคอดบาง . เมื่อเยื่อ
เป็นครั้งแรกที่วางไว้ ซึ่งจะครอบคลุมไข่ขาว
แน่น แต่พวกเขาเร็ว ๆนี้ยืด โดยเวลาที่เข้าสู่เปลือกไข่

ต่อมพอดีค่อนข้างหลวม
ไข่ผ่านไปอีกห้าชั่วโมงในกระบวนการที่เรียกว่า " พรรณ

" นี้ ใช้รายการของเกลือและน้ำผ่านเยื่อหุ้ม
จนไข่บวม
ส่งระยะเวลาจะสรุป
เบื้องต้นเพื่อให้กระบวนการหลักของเปลือก
หินปูนซึ่งตรงหน้า 15 16
ชั่วโมง
เปลือกประกอบด้วยแคลไซต์ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปแบบผลึก

ของแคลเซียมคาร์บอเนต เมทริกซ์หร็อมแหร็มโปรตีนวิ่ง
ผ่านผลึกของเปลือก ขั้นตอนสุดท้าย
ในการพัฒนาของไข่คือ
สะสมของหนังกำพร้าบนส่วนเปลือกอย่างเต็มที่
; นี้ได้ ก่อนจะวางไข่
.
เราตอนนี้ดูโครงสร้างของ
เปลือกไข่ในรายละเอียดค่อนข้างมาก เปลือกเป็น

ติดเนื้อเยื่อชั้นนอก โดยโครงสร้างครึ่งวงกลมที่เรียกว่าแหม่ม
millary ลูกบิด เอมีการศึกษา
แสดงว่าแกนของลูกบิดที่ประกอบด้วยโปรตีนที่อุดมไปด้วย

mucopolysaccharide กลุ่มกรด และที่ทอดสมอใยวิ่ง
จากเนื้อเยื่อชั้นนอกเป็นลูกบิด
แกนของลูกบิด mammillary ถูก
ลงเป็นเยื่อคลุมไข่ผ่านผ่านส่วนของท่อนำไข่

เรียกว่าisthmo มดลูกชุมทาง ; มันเป็นระหว่าง
คอคอดและเปลือกนอกต่อม ดูเหมือนว่าน่าจะเป็น
ที่ลูกบิดมีหลายหลังจากที่พวกเขา
เกิดขึ้นก่อนที่ไข่จะเข้าสู่เปลือกต่อม
และพวกเขาในภายหลังเป็นนิวเคลียสสำหรับการเจริญเติบโตของผลึกแคลไซด์ประกอบด้วย

เปลือกหอย ที่ทันสมัยความคิดเกี่ยวกับกลไกทางชีวภาพไม่ว่าจะในกระดูกเสื่อม

, ฟันเปลือกไข่หรือของอื่น ๆสถานที่
ที่แคลเซียมจะฝากในร่างสัตว์ -
เน้นความสำคัญของคริสตัลเติบโต

แต่ทฤษฎีเพื่ออธิบายกลไกการวางความเครียดมากในบทบาทของการตกตะกอนแคลเซียม เกลือจาก

supersaturated โซลูชั่น แต่ในแง่ของ
หลักฐานล่าสุดแนวคิดนี้ไม่ได้

ดูเหมือนจะถูกต้อง กลไก โดย mammillary
ส่วนลูกบิดจะไม่เข้าใจ . มันคือ
คิดว่าเกี่ยวข้องกับการจับแคลเซียมไอออน
กับอินทรีย์แกนของลูกบิดด้วยวิธีการ
ซุล fonic กรดในกลุ่ม acidmucopoly -

ซึ่งสูงโปรตีนวัสดุแกนแต่ง พบว่า การจัดพื้นที่

ผูกพันแคลเซียมไอออนเป็นเช่นเดียวกับมันในแลตทิซของ
แคลไซต์คริสตัลเพื่อที่เหล่านี้มุ่งเน้น
แคลเซียมไอออนเป็นเมล็ดหรือนิวเคลียสสำหรับการเจริญเติบโตของผลึกแคลไซด์
รูปเปลือกหอย
บางปีที่ผ่านมาเพื่อนร่วมงานของฉันและฉันพบว่าคอคอดมีความเข้มข้นสูง

มาก ทั้งแคลเซียมและกรดซิตริก ,
อดีตถึงสูงสุดประมาณ 90
มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม ของ เนื้อเยื่อ สดและ
หลังประมาณ 360 มิลลิกรัม . เราพบ
ที่ระดับของแคลเซียมในภูมิภาคนี้
อาจจะมีความสำคัญในข้างลูกบิด mammillary
.
ส่วนหลักของเปลือกที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่รู้จักกันเป็นชั้น spongy แต่มีมากขึ้น

เพิ่งมาถูกเรียกว่ารั้วชั้นใน มันประกอบด้วย
ของคอลัมน์แน่นแคลไซต์ผลึก ;
คอลัมน์ขยายจากลูกบิด mammillary
เพื่อกําพร้า . รูวิ่งขึ้น
เป็นครั้งคราวระหว่างผลึกจากเป็นรูปแบบ
ที่กลุ่มของลูกบิดมาด้วยกัน
รูถึงพื้นผิวขนาดเล็กในทะเล
ที่เพิ่งมองเห็นตา unaided บน
นอกกะลา มันผ่านรูเหล่านี้
ที่ตัวอ่อนจะใช้เวลาในออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ระหว่างให้

ฟักของไข่