3. The firm that makes a “better” c

3. The firm that makes a “better” can opener or typewriter or lipstick can make millions 4. Even economists know that this model does not work perfectly in the private sector. Sometimes there are too few sellers. They collude, overtly or tacitly. They may make profits jointly but the consumer loses. Antitrust laws and utility regulation exist to protect consumers against monopoly and oligopoly, but nobody really believes these laws and regulations work very effectively.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

3.บริษัทที่ "ดีกว่า" ทำให้สามารถเปิดหรือพิมพ์ดีด หรือลิปสติกสามารถทำล้าน 4 แม้แต่นักเศรษฐศาสตร์รู้ว่า รุ่นนี้ไม่ทำงานอย่างสมบูรณ์ในภาคเอกชน บางครั้งมีผู้ขายน้อยเกินไป พวกเขาฮั้ว overtly หรือ tacitly พวกเขาอาจทำให้ผลกำไรร่วมกัน แต่สูญเสียผู้บริโภค กฎหมายต่อต้านการผูกขาดและควบคุมโปรแกรมอรรถประโยชน์ที่มีอยู่เพื่อปกป้องผู้บริโภคจากการผูกขาดและ oligopoly แต่ไม่มีใครจริง ๆ เชื่อว่า กฎหมายและข้อบังคับเหล่านี้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

3. บริษัท ที่ทำให้ "ดี" สามารถเปิดหรือเครื่องพิมพ์ดีดหรือลิปสติกสามารถทำล้าน 4. แม้นักเศรษฐศาสตร์รู้ว่ารุ่นนี้ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบในภาคเอกชน บางครั้งมีผู้ขายน้อยเกินไป พวกเขาสมรู้ร่วมคิด, เปิดเผยหรือโดยปริยาย พวกเขาอาจจะทำกำไรร่วมกัน แต่ผู้บริโภคสูญเสีย กฎหมายต่อต้านการผูกขาดและการควบคุมยูทิลิตี้ที่มีอยู่เพื่อปกป้องผู้บริโภคกับการผูกขาดและผู้ขายน้อยราย แต่ไม่มีใครจริงๆเชื่อว่ากฎหมายเหล่านี้และกฎระเบียบที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

3 . บริษัท ที่ทำให้ " ดีกว่า " สามารถเปิดหรือพิมพ์ดีดหรือลิปสติกสามารถทำล้าน 4 . แม้นักเศรษฐศาสตร์ทราบว่ารุ่นนี้ไม่ได้ทำงานอย่างสมบูรณ์ในภาคเอกชน บางครั้งมีผู้ขายน้อยเกินไป พวกเขาสมรู้ร่วมคิดอย่างเปิดเผย , หรือดุษณีภาพ . พวกเขาอาจสร้างผลกำไรร่วมกัน แต่ผู้บริโภคที่แพ้ กฎหมายการป้องกันการผูกขาดและระเบียบสาธารณูปโภคที่มีอยู่เพื่อปกป้องผู้บริโภคจากตลาดผูกขาดและ ,แต่ไม่มีใครเชื่อกฎหมายและกฎระเบียบเหล่านี้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น