It is said that on All Hallows Eve

It is said that on All Hallows Eve the veil between life and death is at its thinnest. So, in theory if the dead and all things creepy can pass through the veil into our world, surely us, the leaving can pass through into theirs.
Tonight I plan on attempting such a thing. Some of you may think I am insane or that I have a death wish, but I have my reasons.
It happened last year; my fiancé and I were at a Halloween party, when we saw some random guy. His costume was amazing. It looked way too real to be a fake, if you know what I mean. I guess that was our first mistake, mistaking it for a costume.
Ok so basically the tradition of wearing costumes dates back hundreds of years it was an old Celtic ritual whereby people dressed up to look like horrid creatures from beyond the veil, to blend in.
Anyways, later on in the evening this Ghoul or whatever the hell he was approached us. He was looking for a loved one left behind in this world. The reason he came to us was because we showed such a keen interest in him earlier. Big mistake.
He abruptly told me he was taking my fiancé beyond the veil and that I would have one year to bring his beloved back to him or else I would lose her forever.
So here I stand, a year later at the top of a six-foot deep grave, waiting for the moment I can pass through the veil. Problem is, I don’t intend on returning his loved one… Or retrieving mine…

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ว่ากันว่าที่ทั้งหมด Hallows Eve ม่านระหว่างชีวิตและความตายเป็นที่บางที่สุด ดังนั้นในทางทฤษฎีถ้าตายแล้วและทุกสิ่งที่น่าขนลุกสามารถผ่านม่านเข้าไปในโลกของเราแน่นอนเราออกสามารถผ่านเข้ามาในพวกเขา
คืนนี้ฉันวางแผนที่จะพยายามสิ่งนั้น บางท่านอาจจะคิดว่าผมบ้าหรือว่าฉันมีความปรารถนาความตาย แต่ฉันมีเหตุผลของฉัน
มันเกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา; คู่หมั้นของฉันและฉันอยู่ที่งานปาร์ตี้วันฮาโลวีนเมื่อเราเห็นบางคนที่แต่งตัวประหลาดแบบสุ่ม เครื่องแต่งกายของเขาเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจ มันดูทางจริงเกินไปที่จะเป็นของปลอมถ้าคุณรู้ว่าสิ่งที่ผมหมายถึง ฉันเดาว่าเป็นความผิดพลาดครั้งแรกของเราเข้าใจผิดว่ามันสำหรับเครื่องแต่งกาย
ตกลงดังนั้นโดยทั่วไปประเพณีของการสวมใส่เครื่องแต่งกายวันที่กลับมานับร้อยปีมันเป็นพิธีกรรมเซลติกเก่าโดยคนแต่งตัวให้มีลักษณะเหมือนสิ่งมีชีวิตที่น่าเกลียดน่ากลัวจากการเกินกว่าม่านเพื่อให้ดูกลมกลืน .
ยังไงก็ตามต่อมาในช่วงเย็นปอบนี้หรือสิ่งที่นรกเขาได้เข้าหาเรา เขากำลังมองหาคนที่คุณรักทิ้งไว้ข้างหลังในโลกนี้ เหตุผลที่เขามาหาเราเพราะเราแสดงให้เห็นเช่นความสนใจในตัวเขาก่อนหน้านี้ ผิดพลาดใหญ่
จู่ ๆ เขาก็บอกผมว่าเขากำลังคู่หมั้นของฉันเกินม่านและที่ฉันจะมีหนึ่งปีที่จะนำกลับมาที่รักของเขากับเขาหรืออื่นฉันจะสูญเสียเธอตลอดไป
ดังนั้นที่นี่ฉันยืนหนึ่งปีต่อมาที่ด้านบนของ หลุมฝังศพลึกหกฟุตรอขณะที่ฉันสามารถผ่านม่าน ปัญหาคือผมไม่ได้ตั้งใจในการกลับมาของเขาคนที่คุณรัก ... หรือเรียกฉัน ...

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มันกล่าวว่าทั้งหมด Hallows Eve ม่านระหว่างชีวิตและความตาย คือถึงจุดที่บางที่สุด ดังนั้น ในทางทฤษฎี ถ้าคนตายและทุกสิ่งที่น่ากลัวสามารถผ่านม่านเข้าไปในโลกของเรา แน่นอนเรา กลับสามารถผ่านลงในพวกเขา .
คืนนี้ผมวางแผนทำสิ่งดังกล่าว บางท่านอาจคิดว่าผมบ้า หรือ ว่า ผมไม่ได้อยากตาย แต่ฉันมีเหตุผลของฉัน .
มันเกิดปีและคู่หมั้นของฉันและฉันอยู่ในปาร์ตี้ฮาโลวีน เมื่อเราเห็นบางแบบผู้ชาย เครื่องแต่งกายของเขาที่น่าตื่นตาตื่นใจ มันดูเกินไปจริงจะปลอม ถ้าคุณรู้ว่าฉันหมายถึงอะไร ฉันเดาว่านั่นคือความผิดพลาดครั้งแรกของเรา , ลวงตาสำหรับเครื่องแต่งกาย
ตกลงดังนั้นโดยทั่วไปประเพณีของการสวมใส่เครื่องแต่งกายวันที่กลับไปหลายร้อยปี มันคือพิธีกรรม เซลติก เก่า ซึ่งคนแต่งตัวเหมือนสิ่งมีชีวิตรูปร่างน่าเกลียดน่ากลัวเหนือผ้าคลุมหน้า กลมกลืน
อย่างไรก็ตาม ต่อมาในช่วงเย็นนี้ ปอบ หรืออะไรก็ตามที่เขาเข้ามาหาเรา เขากำลังตามหาคนที่รักหลงเหลืออยู่ในโลกนี้เหตุผลที่เขามาหาเรา เพราะเราแสดงเช่นความสนใจในเขาก่อนหน้านี้ ผิดพลาดใหญ่ .
เขาชะงักบอกว่าถ่ายจากคู่หมั้นเกินม่านและที่ฉันจะมีหนึ่งปีเพื่อให้เขารักกลับมาให้เขา ไม่งั้นฉันคงต้องเสียเธอไปตลอดกาล
ดังนั้นฉันยืนอยู่ที่นี่ ในปีต่อมาที่ด้านบนของหกฟุตลึกหลุม รอช่วงเวลาที่ฉันสามารถผ่านม่าน ปัญหาคือฉันไม่ตั้งใจจะกลับ . . . เขารักหรือเรียกฉัน . . . . . . .