1. IntroductionEnvironmental impact

1. Introduction
Environmental impact assessment (EIA), and particularly cumulative
effects assessment (CEA), typically requires the analysis of large
complex data sets involving multiple actions, environmental
resources and their selected indicators, and impact-causing factors
associated with the spatial and temporal distribution of the actions. A
potentially useful tool in CEA is geographic information systems (GIS),
because such systems have the ability to store, manipulate, analyze
and display large sets of complex, geographically referenced data and
are therefore well suited to spatial applications of this nature and
complexity (Warner and Diab, 2002).
Layers of data are frequently used for presentation of historical to
current environmental information. Such layers can be combined or
eliminated for specific analyses or displays. Further, areas of
environmental constraint, as reflected by selected indicators, can be
easily identified. Combining various layers can be accomplished via
the assignment of different importance or vulnerability weights.
These assignments can be made via the use of a consistent weighting
scheme described by Saaty (1977). Further, relative to environmental
planning, buffers can be designated around intrusions, such as power
lines or access roads, or around sensitive areas, such as nesting
habitats (Warner and Diab, 2002).
Because the GIS tool is dynamic in that new environmental
information can be added over time and space, and the importance
weights of the layers that define protected areas can be modified, it is
particularly useful in evaluating planning options (e.g., site or route
locations). Further, GIS can be used to display the consequences of
multiple actions; thus, it is also particularly useful in undertaking CEA
in designated areas or regions. However, it should be noted that the
time required to prepare the database, the initial costs of the
hardware and software, and the data collection and conversion (to
digital format) costs can be deterrents to the application of this tool in
every CEA study.
Within recent years the application of GIS technology to the EIA
process has steadily increased. Relative to typical EIA phases, GIS can
have application, either directly or as a supporting tool, to all of them.
To illustrate, Table 1 lists specific ways in which GIS could be used in
various EIA phases (after Joao and Fonseca, 1996). In addition, GIS can
be used as a tool in follow-on impact monitoring, project management,
and adaptive management. More specifically, Eedy (1995)
described the usefulness of GISs relative to EIAs' need for: (1) data
management; (2) data overlay and analysis relative to site impact
prediction, wider area impact prediction, corridor analysis, cumulative
effects analysis, and impact audits; (3) trend analyses; (4)
integration into impact models such as chemical or radio-nuclear
dispersion and pathway models, climatic change models, and decision
analysis using the Multi- Attribute Tradeoff System; (5) habitat
analysis using the Habitat Evaluation Procedures; (6) aesthetic
resources and impact analysis; and (7) public consultation.
Development and implementation of a GIS for use in the EIA
process typically involve identification and conceptualization, planning
and design, procurement and development, installation and
operation, and review and audit (World Bank. 1995). Examples of
study situations which are conducive to the use of GISs in EIA are
shown in Table 2, while some specific illustrations of how GISs can be

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1. บทนำประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA), และสะสมอย่างยิ่งประเมินผล (CEA), ต้องใช้การวิเคราะห์ของใหญ่ชุดข้อมูลที่ซับซ้อนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการหลาย สิ่งแวดล้อมทรัพยากร และตัวบ่งชี้ที่เลือก และปัจจัยที่ก่อให้เกิดผลกระทบเกี่ยวข้องกับการจัดสรรพื้นที่ และขมับของการดำเนินการ Aเครื่องมือที่อาจเป็นประโยชน์ใน CEA เป็นระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS),เนื่องจากระบบดังกล่าวมีความสามารถในการจัดเก็บ จัดการ วิเคราะห์และแสดงชุดข้อมูลที่ซับซ้อน อ้างอิงกันทางภูมิศาสตร์ขนาดใหญ่ และดังนั้นจะเหมาะสมกับโปรแกรมประยุกต์ปริภูมิของธรรมชาตินี้ และความซับซ้อน (วอร์เนอร์และ Diab, 2002)ชั้นของข้อมูลมักใช้สำหรับงานนำเสนอของประวัติศาสตร์การข้อมูลสิ่งแวดล้อมปัจจุบัน รวมเลเยอร์ดังกล่าวได้ หรือตัดเฉพาะวิเคราะห์หรือแสดง เพิ่มเติม พื้นที่ข้อจำกัดด้านสิ่งแวดล้อม สะท้อนตามตัวบ่งชี้ที่เลือก สามารถระบุได้อย่างง่ายดาย สามารถทำการรวมเลเยอร์ต่าง ๆ ได้ผ่านทางการกำหนดน้ำหนักความสำคัญหรือความเสี่ยงที่แตกต่างกันกำหนดเหล่านี้สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้น้ำหนักที่สอดคล้องกันโครงร่างโดย Saaty (1977) เพิ่มเติม สัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมการวางแผน บัฟเฟอร์สามารถกำหนดรอบรุก เช่นพลังงานบรรทัดหรือเข้าถนน หรือ สถาน พื้นที่ที่สำคัญ เช่นเนสติ้งอยู่อาศัย (วอร์เนอร์และ Diab, 2002)เนื่องจากเครื่องมือ GIS เป็นแบบไดนามิกที่สร้างสิ่งแวดล้อมคุณสามารถเพิ่มข้อมูลช่วงเวลา และพื้นที่ และความสำคัญสามารถปรับเปลี่ยนน้ำหนักของเลเยอร์ที่กำหนดพื้นที่ป้องกัน เป็นประโยชน์ในการประเมินตัวเลือกการวางแผน (เช่น ไซต์หรือกระบวนการผลิตตำแหน่ง) เพิ่มเติม สามารถใช้ GIS เพื่อแสดงผลของการดำเนินการหลาย ดังนั้น ก็ยังมีประโยชน์อย่างยิ่งในการดำเนินการ CEAในการกำหนดพื้นที่หรือภูมิภาค อย่างไรก็ตาม มันควรจะสังเกตที่การเวลาที่ต้องจัดเตรียมฐาน ต้นทุนเริ่มต้นของการฮาร์ดแวร์ และ ซอฟต์แวร์ และรวบรวมข้อมูล และแปลงกับสามารถ deterrents การประยุกต์ใช้เครื่องมือนี้ในรูปแบบดิจิทัล) ต้นทุนศึกษา CEA ทุกภายในปีที่ผ่านมาการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี GIS การ EIAกระบวนการมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สัมพันธ์กับระยะของ EIA ปกติ GIS สามารถมีโปรแกรมประยุกต์ โดยตรง หรือ เป็นเครื่องสนับสนุน มือ ทั้งหมดของพวกเขาการแสดง ตารางที่ 1 แสดงวิธีการที่สามารถใช้ GIS ในขั้นตอน EIA ต่าง ๆ (หลังจาก Joao และ Fonseca, 1996) นอกจากนี้ GIS สามารถใช้เป็นเครื่องมือใน follow-on ติดตามผลกระทบ การจัดการโครงการและการจัดการที่เหมาะสม อื่น ๆ โดยเฉพาะ Eedy (1995)อธิบายประโยชน์ของ GISs สัมพันธ์ต้อง EIAs': ข้อมูล (1)จัดการ (2) ซ้อนทับข้อมูลและการวิเคราะห์สัมพันธ์ผลกระทบของไซต์ทำนาย คาดการณ์ผลกระทบพื้นที่กว้าง วิเคราะห์ทาง สะสมวิเคราะห์ผล และการตรวจสอบผลกระทบ (3) วิเคราะห์แนวโน้ม (4)รวมเป็นรูปแบบผลกระทบ เช่นสารเคมี หรือวิทยุนิวเคลียร์รูปแบบการกระจายตัวและทางเดิน รุ่นไอ และตัดสินใจใช้มัลติ - แอตทริบิวต์ข้อดีของระบบ วิเคราะห์ (5) การอยู่อาศัยวิเคราะห์โดยใช้วิธีประเมินอยู่อาศัย ความงาม (6)ทรัพยากรและการวิเคราะห์ผลกระทบ และ (7) การปรึกษาหารือพัฒนาและการใช้งานของ GIS สำหรับใช้ในการ EIAกระบวนการโดยทั่วไปจะเกี่ยวข้องกับรหัสและ conceptualization วางแผนและการออกแบบ จัดซื้อ และ พัฒนา ติดตั้ง และการดำเนิน งาน และตรวจทาน และตรวจสอบ (ธนาคารโลก. 1995) ตัวอย่างของมีกรณีศึกษาที่เอื้อต่อการใช้ของ GISs ใน EIAแสดงในตารางที่ 2 ในขณะที่บางภาพประกอบเฉพาะของ GISs จะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1. บทนำ
การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และการสะสมโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
การประเมินผลกระทบ (CEA) ซึ่งโดยปกติจะต้องใช้การวิเคราะห์ที่มีขนาดใหญ่
ชุดข้อมูลที่ซับซ้อนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการหลายด้านสิ่งแวดล้อม
ทรัพยากรและตัวชี้วัดที่เลือกของพวกเขาและปัจจัยที่ก่อให้เกิดผลกระทบ
ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่และเวลา การกระจายตัวของการกระทำ
เครื่องมือที่มีประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นใน CEA เป็นระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ (GIS)
เพราะระบบดังกล่าวมีความสามารถในการจัดเก็บจัดการวิเคราะห์
และแสดงชุดใหญ่ที่ซับซ้อนข้อมูลอ้างอิงทางภูมิศาสตร์และ
ดังนั้นจึงเหมาะกับการใช้งานเชิงพื้นที่ของธรรมชาติและ
ความซับซ้อน ( วอร์เนอร์และ Diab, 2002).
ชั้นของข้อมูลที่ใช้บ่อยเพื่อนำเสนอประวัติศาสตร์
ข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน ชั้นดังกล่าวสามารถนำมารวมกันหรือ
ตัดออกสำหรับการวิเคราะห์ที่เฉพาะเจาะจงหรือการแสดง นอกจากนี้พื้นที่ของ
ข้อ จำกัด ด้านสิ่งแวดล้อมที่สะท้อนจากตัวชี้วัดที่เลือกสามารถ
ระบุได้อย่างง่ายดาย รวมชั้นต่างๆสามารถทำได้ผ่าน
การกำหนดความสำคัญแตกต่างกันหรือน้ำหนักความเสี่ยง.
ได้รับมอบหมายเหล่านี้สามารถทำผ่านการใช้งานของน้ำหนักที่สอดคล้อง
โครงการอธิบายโดย Saaty (1977) นอกจากนี้เมื่อเทียบกับสิ่งแวดล้อม
การวางแผนบัฟเฟอร์สามารถกำหนดรอบการโจมตีเช่นพลังงาน
หรือถนนสายเข้าหรือรอบ ๆ พื้นที่ที่สำคัญเช่นการทำรัง
ที่อยู่อาศัย (วอร์เนอร์และ Diab, 2002).
เพราะเครื่องมือระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์เป็นแบบไดนามิกในสิ่งแวดล้อมใหม่ที่
ข้อมูล สามารถเพิ่มช่วงเวลาและพื้นที่และความสำคัญ
น้ำหนักของชั้นที่กำหนดพื้นที่ที่มีการป้องกันสามารถแก้ไขได้มันเป็น
ประโยชน์อย่างยิ่งในการวางแผนการประเมินทางเลือก (เช่นเว็บไซต์หรือเส้นทาง
สถานที่) นอกจากนี้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สามารถใช้ในการแสดงผลของ
การกระทำหลาย ๆ จึงยังเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการดำเนิน CEA
ในพื้นที่ที่กำหนดหรือภูมิภาค แต่ก็ควรจะสังเกตว่า
เวลาที่ใช้ในการเตรียมความพร้อมของฐานข้อมูลค่าใช้จ่ายเริ่มต้นของ
ฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์และการเก็บรวบรวมข้อมูลและการแปลง (เพื่อ
รูปแบบดิจิตอล) ค่าใช้จ่ายที่สามารถยับยั้งการประยุกต์ใช้เครื่องมือนี้ใน
การศึกษาทุก CEA
ภายในปีที่ผ่านมาการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์เพื่อประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
กระบวนการได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เทียบกับขั้นตอนการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมโดยทั่วไประบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สามารถ
มีโปรแกรมโดยตรงหรือเป็นเครื่องมือในการสนับสนุนทั้งหมดของพวกเขา.
เพื่อแสดงให้เห็นตารางที่ 1 แสดงวิธีการเฉพาะที่ GIS สามารถนำมาใช้ใน
ขั้นตอนการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมต่างๆ (หลังจาก Joao และ Fonseca, 1996) . นอกจากนี้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สามารถ
นำมาใช้เป็นเครื่องมือในการติดตามตรวจสอบผลกระทบในการบริหารจัดการโครงการ
และการจัดการการปรับตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Eedy (1995)
อธิบายประโยชน์ของญาติ GISS ความต้องการ EIAS สำหรับ (1) ข้อมูล
การจัดการ (2) การซ้อนทับข้อมูลและการวิเคราะห์ผลกระทบเมื่อเทียบกับเว็บไซต์
ทำนายทำนายผลกระทบต่อพื้นที่กว้างการวิเคราะห์ทางเดินสะสม
การวิเคราะห์ผลกระทบและการตรวจสอบผลกระทบ; (3) การวิเคราะห์แนวโน้ม; (4)
การรวมกลุ่มในรูปแบบต่าง ๆ เช่นผลกระทบของสารเคมีหรือวิทยุนิวเคลียร์
และรูปแบบการกระจายตัวของทางเดินแบบจำลองการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและการตัดสินใจ
โดยใช้การวิเคราะห์แบบ Multi แอตทริบิวต์ระบบถ่วงดุลอำนาจ; (5) ที่อยู่อาศัย
การวิเคราะห์โดยใช้วิธีการประเมินที่อยู่อาศัย; (6) ความงาม
ทรัพยากรและการวิเคราะห์ผลกระทบ; และ (7) ให้คำปรึกษาประชาชน.
การพัฒนาและการดำเนินงานของระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์เพื่อใช้ในการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
กระบวนการมักจะเกี่ยวข้องกับประชาชนและแนวความคิดการวางแผนการ
จัดซื้อจัดจ้างและการออกแบบและการพัฒนาติดตั้งและการ
ดำเนินงานและการตรวจสอบและการตรวจสอบ (World Bank. 1995) ตัวอย่างของ
สถานการณ์การศึกษาที่เอื้อต่อการใช้งานของ GISS ใน EIA จะ
แสดงในตารางที่ 2 ในขณะที่บางภาพที่เฉพาะเจาะจงของวิธี GISS สามารถ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 . การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น ( EIA )
, และโดยเฉพาะ สะสมผลการประเมิน ( CEA ) โดยปกติจะต้องวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อนที่เกี่ยวข้องกับการกระทำหลายชุดใหญ่

และตัวชี้วัดที่เลือก ทรัพยากรสิ่งแวดล้อม และผลกระทบของปัจจัย
ที่เกี่ยวข้องกับการกระจายทางพื้นที่และเวลาของการกระทำ
เป็นที่อาจเป็นประโยชน์เครื่องมือ CEA เป็นระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ ( GIS ) ,
เพราะระบบดังกล่าวมีความสามารถในการจัดเก็บ จัดการ วิเคราะห์
และแสดงชุดใหญ่ของความซับซ้อนทางภูมิศาสตร์อ้างอิงข้อมูลและ
จึงเหมาะกับการใช้งานด้านนี้ธรรมชาติและ
ความซับซ้อน ( และวอร์เนอร์ Diab , 2002 ) .
ชั้นของข้อมูล มักใช้เพื่อการนำเสนอประวัติศาสตร์

ข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน เช่นชั้นสามารถรวมหรือ
คัดออกวิเคราะห์เฉพาะ หรือแสดง นอกจากนี้พื้นที่ของ
ข้อจำกัดด้านสิ่งแวดล้อม ที่สะท้อนโดยเลือกตัวชี้วัดสามารถ
ระบุได้อย่างง่ายดาย รวมเลเยอร์ต่าง ๆได้ผ่านงานสำคัญต่าง ๆ

หรือช่องโหว่หนักงานเหล่านี้สามารถทำได้โดยการใช้น้ำหนักที่สอดคล้องกัน
โครงการอธิบายโดย saaty ( 1977 ) เพิ่มเติม เทียบกับการวางแผนสิ่งแวดล้อม
, บัฟเฟอร์สามารถกำหนดรอบการบุกรุก เช่น สายไฟฟ้า
หรือถนนเข้า หรือรอบ ๆพื้นที่ที่อ่อนไหว เช่น แหล่งทำรัง
( วอร์เนอร์ และ Diab , 2002 ) .
เพราะ GIS เป็นเครื่องมือแบบไดนามิกในที่ใหม่สิ่งแวดล้อม
ข้อมูลที่สามารถเพิ่มเวลาและความหนักของชั้น
ที่กำหนดพื้นที่ที่สามารถแก้ไขได้ มันเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการประเมินตัวเลือกการวางแผน
( เช่นเว็บไซต์หรือเส้นทาง
สถานที่ ) เพิ่มเติม , GIS สามารถใช้เพื่อแสดงผลของการกระทำหลาย
; ดังนั้นจึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการประกอบธุรกิจในเขตพื้นที่ CEA
หรือภูมิภาค อย่างไรก็ตาม