Chagall pursued his interest in art

Chagall pursued his interest in art, going to St. Petersburg in 1907 to study art with Leon Bakst. Influenced by contemporary Russian painting, Chagall's distinctive, child-like style, often centering on images from his childhood, began to emerge.

From 1910 to 1914, Chagall lived in Paris, and there absorbed the works of the leading cubist, surrealist, and fauvist painters. It was during this period that Chagall painted some of his most famous paintings of the Jewish shtetl or village, and developed the features that became recognizable trademarks of his art. Strong and often bright colors portray the world with a dreamlike, non-realistic simplicity, and the fusion of fantasy, religion, and nostalgia infuses his work with a joyous quality. Animals, workmen, lovers, and musicians populate his figures; the “fiddler on the roof” recurs frequently, often hovering within another scene. Chagall's work of this period displays the influence of contemporary French painting, but his style remains independent of any one school of art. He exhibited regularly in the Salon des Independants.

In 1914, before the outbreak of World War I, Chagall held a one-man show in Berlin, exhibiting work dominated by Jewish images and personages. During the war, he resided in Russia, and in 1917, endorsing the revolution, he was appointed Commissar for Fine Arts in Vitebsk and then director of the newly established Free Academy of Art. The Bolshevik authorities, however, frowned upon Chagall's style of art as too modern, and in 1922, Chagall left Russia, settling in France one year later. He lived there permanently except for the years 1941—1948 when, fleeing France during World War II, he resided in the United States. Chagall's horror over the Nazi rise to power is expressed in works depicting Jewish martyrs and Jewish refugees.

In addition to images of the Hassidic world, Chagall's paintings are inspired by themes from the Bible. His fascination with the Bible culminated in a series of over 100 etchings illustrating the Bible, many of which incorporate elements from Jewish folklore and from religious life in Vitebsk. Chagall's other illustrations include works by Gogol, La Fontaine, Y. L. Peretz, and his autobiographical Ma Vie (1931; My Life 1960) and Chagall by Chagall (1979).

Chagall painted with a variety of media, such as oils, water colors, and gouaches. His work also expanded to other forms of art, including ceramics, mosaics, and stained glass. Among his most famous building decorations are the ceiling of the Opera House in Paris, murals at the New York Metropolitan Opera, a glass window at the United Nations, and decorations at the Vatican. Israel, which Chagall first visited in 1931 for the opening of the Tel Aviv Art Museum, is likewise endowed with some of Chagall's work, most notably the twelve stained glass windows at Hadassah Hospital and wall decorations at the Knesset.

Chagall received many prizes and much recognition for his work. He was also one of very few artists to exhibit work at the Louvre in their lifetime.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ชากาลติดตามเขาสนใจในศิลปะ ไปเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในเศษ ๆ เพื่อศึกษาศิลปะกับ Leon Bakst รับอิทธิพลจากจิตรกรรมร่วมสมัยรัสเซีย ของชากาลโดดเด่น เหมือนเด็กสไตล์ มักมุ่งเน้นในรูปจากวัยเด็กของเขา เริ่มโผล่จาก 1910 ถึง 1914 ชากาลอาศัยอยู่ในปารีส และมีการดูดซึมของชื่อจิตรกรทาวน์ surrealist และ fauvist ที่ชั้นนำ มันเป็นช่วงนี้ที่ชากาลทาสีบางภาพวาดของเขามีชื่อเสียงที่สุดของชาวยิว shtetl หรือหมู่บ้าน และพัฒนาคุณลักษณะที่เป็นเครื่องหมายการค้าเป็นที่รู้จักของศิลปะของเขา เข้มข้นและสีสดใสมักจะวาดภาพโลกที่ มีความเรียบง่ายความฝัน ไม่จริง และฟิวชั่นของแฟนตาซี ศาสนา และความคิดถึงจัดเตรียมงานของเขา มีคุณภาพประสบการณ์ สัตว์ สบู่ คนรัก ดนตรี และใส่ตัวเลขของเขา ที่ "พู้ทำเล่นบนดาดฟ้า" กำเริบบ่อย มักสามารถโฉบภายในฉากอื่น งานของชากาลของรอบระยะเวลานี้แสดงอิทธิพลของจิตรกรรมร่วมสมัยฝรั่งเศส แต่ลักษณะของเขายังคงขึ้นอยู่กับโรงเรียนใดหนึ่งของศิลปะ เขาจัดแสดงเป็นประจำในร้านเด IndependantsIn 1914, before the outbreak of World War I, Chagall held a one-man show in Berlin, exhibiting work dominated by Jewish images and personages. During the war, he resided in Russia, and in 1917, endorsing the revolution, he was appointed Commissar for Fine Arts in Vitebsk and then director of the newly established Free Academy of Art. The Bolshevik authorities, however, frowned upon Chagall's style of art as too modern, and in 1922, Chagall left Russia, settling in France one year later. He lived there permanently except for the years 1941—1948 when, fleeing France during World War II, he resided in the United States. Chagall's horror over the Nazi rise to power is expressed in works depicting Jewish martyrs and Jewish refugees.In addition to images of the Hassidic world, Chagall's paintings are inspired by themes from the Bible. His fascination with the Bible culminated in a series of over 100 etchings illustrating the Bible, many of which incorporate elements from Jewish folklore and from religious life in Vitebsk. Chagall's other illustrations include works by Gogol, La Fontaine, Y. L. Peretz, and his autobiographical Ma Vie (1931; My Life 1960) and Chagall by Chagall (1979).Chagall painted with a variety of media, such as oils, water colors, and gouaches. His work also expanded to other forms of art, including ceramics, mosaics, and stained glass. Among his most famous building decorations are the ceiling of the Opera House in Paris, murals at the New York Metropolitan Opera, a glass window at the United Nations, and decorations at the Vatican. Israel, which Chagall first visited in 1931 for the opening of the Tel Aviv Art Museum, is likewise endowed with some of Chagall's work, most notably the twelve stained glass windows at Hadassah Hospital and wall decorations at the Knesset.Chagall received many prizes and much recognition for his work. He was also one of very few artists to exhibit work at the Louvre in their lifetime.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Chagall ไล่ตามความสนใจของเขาในงานศิลปะไปเซนต์ปีเตอร์เบิร์กในปี 1907 เพื่อศึกษาศิลปะกับ Leon Bakst ได้รับอิทธิพลจากจิตรกรรมร่วมสมัยรัสเซีย Chagall ที่โดดเด่นสไตล์เหมือนเด็กมักจะอยู่ตรงกลางในภาพจากวัยเด็กของเขาเริ่มที่จะโผล่ออกมา. จาก 1910-1914, Chagall อาศัยอยู่ในกรุงปารีสและมีการดูดซึมการทำงานของชั้นนำ cubist, surrealist และ Fauvist จิตรกร มันเป็นช่วงเวลาที่ Chagall วาดบางส่วนของภาพวาดที่มีชื่อเสียงที่สุดของเขาได้เสียยิวหรือหมู่บ้านและการพัฒนาคุณลักษณะที่กลายเป็นเครื่องหมายการค้าที่เป็นที่รู้จักของงานศิลปะของเขา สีที่แข็งแกร่งและสดใสมักจะวาดภาพโลกที่มีความฝัน, ความเรียบง่ายที่ไม่จริงและฟิวชั่นแฟนตาซี, ศาสนาและความคิดถึงอบอวลการทำงานของเขาที่มีคุณภาพมีความสุข เลี้ยงสัตว์, คนงาน, คนรักและนักดนตรีเติมตัวเลขของเขา "การไวโอลินบนหลังคา" ยาที่พบบ่อยมักจะโฉบภายในฉากอื่น การทำงานของชากาลเวลานี้จะแสดงอิทธิพลของการวาดภาพชาวฝรั่งเศสร่วมสมัย แต่ยังคงสไตล์ของเขาเป็นอิสระจากคนใดคนหนึ่งของโรงเรียนศิลปะ เขาแสดงประจำในร้าน des Independants. ในปี 1914 ก่อนที่จะเกิดการระบาดของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง, Chagall จัดแสดงคนเดียวในกรุงเบอร์ลินจัดแสดงผลงานที่โดดเด่นด้วยภาพของชาวยิวและบุคคล ในช่วงสงครามเขาอาศัยอยู่ในรัสเซียและในปี 1917 รับรองการปฏิวัติเขาได้รับแต่งตั้งตำรวจสำหรับวิจิตรศิลป์ใน Vitebsk และจากนั้นผู้อำนวยการของสถาบันการศึกษาที่จัดตั้งขึ้นใหม่ฟรีศิลปะ เจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์ แต่ขมวดคิ้วสไตล์ของชากาลของศิลปะสมัยใหม่เกินไปและในปี 1922, Chagall ซ้ายรัสเซียปักหลักในฝรั่งเศสหนึ่งปีต่อมา เขาอาศัยอยู่ที่นั่นอย่างถาวรยกเว้นปี 1941-1948 เมื่อหนีฝรั่งเศสในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเขาอาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา สยองขวัญ Chagall กว่าการเพิ่มขึ้นของนาซีมีอำนาจจะแสดงในงานภาพวาดสักขีชาวยิวและชาวยิวอพยพ. นอกจากภาพของโลก Hassidic ภาพวาด Chagall ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปแบบจากพระคัมภีร์ เสน่ห์ของเขากับพระคัมภีร์ culminated ในชุดของการแกะสลักกว่า 100 แสดงให้เห็นถึงพระคัมภีร์หลายแห่งซึ่งรวมองค์ประกอบจากชาวบ้านชาวยิวและจากชีวิตทางศาสนาใน Vitebsk Chagall ของภาพประกอบอื่น ๆ รวมถึงผลงานของโกกอลลาฟอนเตน YL Peretz และอัตชีวประวัติของเขา Ma Vie (1931; ชีวิตของฉัน 1960). และ Chagall โดยชากาล (1979) Chagall วาดด้วยความหลากหลายของสื่อเช่นน้ำมัน, สีน้ำและ gouaches งานของเขายังขยายไปสู่รูปแบบอื่น ๆ ของศิลปะรวมทั้งเซรามิก, กระเบื้องโมเสคและกระจกสี ท่ามกลางการตกแต่งอาคารที่มีชื่อเสียงที่สุดของเขาเป็นเพดานของโอเปร่าเฮ้าส์ในกรุงปารีสภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ New York Metropolitan Opera, หน้าต่างกระจกที่สหประชาชาติและเครื่องประดับที่วาติกัน อิสราเอลซึ่ง Chagall แรกที่ไปเยือนในปี 1931 สำหรับการเปิดตัวของเทลอาวีพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่เป็น endowed เช่นเดียวกันกับบางส่วนของการทำงานของชากาลที่สะดุดตาที่สุดสิบสองหน้าต่างกระจกสีที่โรงพยาบาล Hadassah และตกแต่งผนังที่ Knesset. Chagall ได้รับรางวัลมากมายและอื่น การยอมรับสำหรับการทำงานของเขา เขายังเป็นหนึ่งในศิลปินที่น้อยมากที่จะแสดงผลงานที่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ในชีวิตของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ชากาลไล่ตามความสนใจของเขาในศิลปะ ไป เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ใน พ.ศ. 2440 เพื่อศึกษาศิลปะกับ ลีออนแบ็กสต์ . อิทธิพลจากภาพวาดร่วมสมัยรัสเซียชากาล , ที่โดดเด่น , เด็กชอบ , มักจะอยู่ตรงกลางภาพจากวัยเด็กของเขาเริ่มโผล่ออกมา

จาก 1910 ถึง 1914 ชากาลอาศัยอยู่ในปารีสและมีการดูดซึมทำงานในลูกบาศก์ Surrealist จิตรกร , และ .มันคือช่วงเวลาที่ชากาลทาสีบางส่วนของภาพวาดที่มีชื่อเสียงที่สุดของ shtetl ชาวยิวหรือหมู่บ้านและพัฒนาคุณลักษณะที่เป็นที่รู้จัก เครื่องหมายการค้าของศิลปะของเขา แข็งแรงและสดใสมักจะสีวาดภาพโลกกับเหมือนฝัน ไม่มีเหตุผล ความเรียบง่าย และฟิวชั่นแฟนตาซี ศาสนา และความคิดถึงอบอวลงานของเขาที่มีคุณภาพที่น่ายินดี สัตว์ , กองทุนเงินทดแทน , คนรัก ,และนักดนตรีใส่ตัวเลขของเขา ; " บนหลังคา " จะเกิดขึ้นอีกหลายครั้ง บ่อย บ่อยๆ อยู่ภายในฉากอื่น ชากาลงานระยะเวลานี้แสดงอิทธิพลของจิตรกรรมฝรั่งเศสร่วมสมัย แต่สไตล์ของเขายังคงเป็นอิสระของโรงเรียนศิลปะ เขาจัดแสดงเป็นประจำใน Salon des independants

ใน 1914 ก่อนที่การระบาดของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง