Defining and Measuring Income Distr

Defining and Measuring Income Distribution
Income distribution is the smoothness or equality with which income is dealt out among members of a society. If everyone earns exactly the same amount of money, then the income distribution is perfectly equal. If no one earns any money except for one person, who earns all of the money, then the income distribution is perfectly unequal. Usually, however, a society's income distribution falls somewhere in the middle between equal and unequal.
How do we measure this degree of equality or inequality? Economists often measure income equality by measuring how much income is earned by different segments of the population. For instance, if we break down all workers into five segments in terms of how much money they make: the top 20%, the second 20%, the third 20%, the fourth 20%, and the bottom 20%, and we obtain data on how much money they make, we can then create a chart detailing how much income each segment earns out of the total amount of income for all workers. The bigger the difference between the different segments, the greater the income inequality.
Let's say that the average incomes for five segments in a society are $10,000, $24,000, $50,000, $80,000, and $110,000. In order to look at income distribution, we need to see what percentage of total income each segment makes, rather than the actual amount of money each makes. Since each of the segments is equal in size, we don't need to worry about weighting the average incomes, and can do a straightforward part-over-whole calculation of each segment's earnings.
For total income we will use the sum of the five average incomes:
Total Income = 10000 + 24000 + 50000 + 80000 + 110000
Total Income = 274000
Next we find the percentage of total income that each segment of the population earns, by dividing their income by the total income:
Bottom segment percentage = 10000/274000 = 0.036 = 3.6%
Second segment percentage = 24000/274000 = 0.088 = 8.8%
Third segment percentage = 50000/274000 = 0.182 = 18.2%
Fourth segment percentage = 80000/274000 = 0.292 = 29.2%
Top segment percentage = 110000/274000 = 0.401 = 40.1%
What these figures indicate is that the bottom fifth of the population gets less than 4% of the total income, while the top fifth of the population gets over 40% of the total income, indicating a large degree of income inequality.
Economists also look at cumulative figures for income distribution. To do this, simply add the percentages together at each level, giving the amount of income earned by all people at or below a certain level. In our example, it would work as follows:
Bottom segment cumulative percentage = 3.6%
Second segment cumulative percentage = 3.6% + 8.8% = 12.4%
Third segment cumulative percentage = 12.4% + 18.2% = 30.6%
Fourth segment cumulative percentage = 30.6% + 29.2% = 59.8%
Top segment cumulative percentage = 59.8% + 40.1% = 99.9%
Note that the total cumulative percentage, which should be equal to 100%, since it represents the total income earned by all workers, is only 99.9%. This sometimes happens due to rounding of numbers.
These two figures, percentage and cumulative percentage, are usually placed in a table for easier reading:

Figure %: Income Distribution Table

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การกำหนดและการวัดการกระจายรายได้การกระจายรายได้คือ ความเรียบหรือความเสมอภาคซึ่งรายได้จะกระทำออกมาในหมู่สมาชิกของสังคม ถ้าทุกคนได้รับจำนวนเงินเดียวกันทุกประการ แล้วการกระจายรายได้จะเท่าได้อย่างสมบูรณ์ ถ้าไม่มีใครได้รับเงินใด ๆ ยกเว้นหนึ่งคน ได้รับเงินทั้งหมด แล้วการกระจายรายได้จะไม่เท่ากันอย่างสมบูรณ์แบบ มักจะ อย่างไรก็ตาม การกระจายรายได้ของสังคมกลางไหนสักเท่าและไม่เท่ากันวิธีวัดระดับของความเสมอภาคหรือไม่เท่าเทียมกัน นักเศรษฐศาสตร์มักจะวัดความเสมอภาคของรายได้ โดยการวัดรายได้เท่าใดจะได้รับตามส่วนต่าง ๆ ของประชากร เช่น ถ้าเราแบ่งคนงานเป็นห้าส่วนในแง่ของจำนวนเงินทั้งหมด ให้: 20% ด้านบน สอง 20%, 20% สาม สี่ 20% และ 20% ล่าง และเราได้รับข้อมูลในจำนวนเงินที่พวกเขาทำ เราสามารถสร้างแผนภูมิรายละเอียดรายได้เท่าใดแต่ละส่วนได้รับจากยอดรวมของรายได้ทั้งนี้ ที่ใหญ่กว่าความแตกต่างระหว่างกลุ่มต่าง ๆ ความเหลื่อมล้ำรายได้ยิ่งขึ้นสมมติว่า รายได้โดยเฉลี่ยสำหรับเซ็กเมนต์ที่ห้าในสังคมเป็น $10,000, $24,000, $50,000, $80,000 และ $110,000 เพื่อดูการกระจายรายได้ เราต้องดูที่เปอร์เซ็นต์ของรายได้รวมทำให้แต่ละส่วน แทนเงินจริงของเงินที่ให้ไว้ แต่ละส่วนมีขนาดเท่า เราไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับน้ำหนักรายได้เฉลี่ย และสามารถทำการคำนวณส่วนมากกว่าทั้งตรงไปตรงมาของรายได้ของแต่ละส่วนสำหรับรายได้ ที่เราจะใช้ผลรวมของรายได้เฉลี่ยห้า:รายได้รวม = 10000 + 24000 + 50000 + 80000 + 110000 รวมรายได้ = 274000ต่อไป เราพบเปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งหมดที่ได้รับแต่ละส่วนของประชากร โดยหารรายได้ โดยรายได้ทั้งหมด:เปอร์เซ็นต์ส่วนล่าง = 10000/274000 = 0.036 = 3.6% สอง ส่วนเปอร์เซ็นต์ = 24000/274000 = 0.088 = 8.8% สาม ส่วนเปอร์เซ็นต์ = 50000/274000 = 0.182 = 18.2% สี่ ส่วนเปอร์เซ็นต์ = 80000/274000 = 0.292 = 29.2% ด้านบนส่วนเปอร์เซ็นต์ = 110000/274000 = 0.401 = 40.1%ตัวเลขเหล่านี้หมายถึงอะไรเป็นด้านล่างที่ห้าของประชากรได้รับน้อยกว่า 4% ของรายได้ทั้งหมด ในขณะที่ด้านบนห้าของรับประชากรมากกว่า 40% ของรายได้ทั้งหมด แสดงในระดับขนาดใหญ่ของความไม่เท่าเทียมกันของรายได้นักเศรษฐศาสตร์ยังมองที่ตัวเลขสะสมสำหรับการกระจายรายได้ การทำเช่นนี้ เพียงเพิ่มเปอร์เซ็นต์กันในแต่ละระดับ ให้ยอดเงินของรายได้ที่ได้รับจากทุกคน หรือต่ำ กว่าระดับหนึ่ง ในตัวอย่าง มันจะทำงานเป็นดังนี้:ล่างส่วนเปอร์เซ็นต์สะสม = 3.6% สอง ส่วนเปอร์เซ็นต์สะสม = 3.6% + 8.8% = 12.4% สาม ส่วนเปอร์เซ็นต์สะสม = 12.4% + 18.2% = 30.6% สี่ ส่วนเปอร์เซ็นต์สะสม = 30.6% + 29.2% = 59.8% ด้านบนส่วนเปอร์เซ็นต์สะสม = 59.8% + 40.1% = 99.9%โปรดสังเกตว่า ผลรวมสะสมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งควรจะเท่ากับ 100% เนื่องจากมันแสดงถึงรายได้ที่ได้รับจากคนงานทั้งหมด เป็นเพียง 99.9% นอกจากนี้บางครั้งเกิดขึ้นเนื่องจากการปัดเศษของตัวเลขตัวเลขทั้งสอง เปอร์เซ็นต์และเปอร์เซ็นต์สะสม มักจะวางในตารางสำหรับการอ่านง่าย:รูป%: ตารางการกระจายรายได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การกำหนดและการวัดการกระจายรายได้
กระจายรายได้เรียบหรือเท่าเทียมกับรายได้ที่จะกระทำออกไปในหมู่สมาชิกของสังคม หากทุกคนมีรายได้ว่าเงินจำนวนเดียวกันแล้วการกระจายรายได้เท่ากับที่ดีเลิศ ถ้าไม่มีใครได้รับเงินใด ๆ ยกเว้นสำหรับคนคนหนึ่งที่ได้รับเงินทั้งหมดแล้วการกระจายรายได้เป็นที่ไม่เท่ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยปกติแล้วอย่างไรก็ตามการกระจายรายได้ของสังคมตกอยู่ที่ไหนสักแห่งในช่วงกลางระหว่างที่เท่าเทียมกันและไม่เท่ากัน.
ทำอย่างไรเราจะวัดระดับของความเสมอภาคหรือความไม่เท่าเทียมกันนี้หรือไม่? นักเศรษฐศาสตร์มักจะวัดความเท่าเทียมกันของรายได้จากการวัดรายได้เท่าใดจะได้รับโดยส่วนที่แตกต่างกันของประชากร ตัวอย่างเช่นถ้าเราทำลายลงคนงานทั้งหมดออกเป็นห้าส่วนในแง่ของการใช้เงินเท่าไหร่ที่พวกเขาทำ: ด้านบน 20% ที่สอง 20% ที่สาม 20% ที่สี่ 20% และ 20% ด้านล่างและเราได้รับ ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้เงินเท่าไหร่ที่พวกเขาทำให้เรานั้นจะสามารถสร้างแผนภูมิรายละเอียดรายได้เท่าใดแต่ละกลุ่มมีรายได้จากจำนวนของรายได้สำหรับคนงานทุกคน ที่ใหญ่กว่าความแตกต่างระหว่างกลุ่มที่แตกต่างกันมากขึ้นรายได้ไม่เท่าเทียมกัน.
ขอบอกว่ารายได้เฉลี่ยสำหรับห้าส่วนในสังคมเป็น $ 10,000 $ 24,000 $ 50,000 $ 80,000 และ $ 110,000 เพื่อที่จะดูที่การกระจายรายได้ที่เราจะต้องดูสิ่งที่ร้อยละของรายได้รวมแต่ละส่วนทำให้มากกว่าจำนวนเงินที่แท้จริงของเงินในแต่ละหมวด เนื่องจากแต่ละกลุ่มจะมีค่าเท่ากับในขนาดที่เราไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับน้ำหนักรายได้เฉลี่ยและสามารถทำคำนวณส่วนเกินทั้งตรงไปตรงมาของรายได้แต่ละส่วนของ.
สำหรับรายได้รวมของเราจะใช้ผลรวมของห้า รายได้เฉลี่ย:
รายได้รวม = 10000 + 24000 + 50000 + 80000 + 110000
รายได้รวม = 274,000
ถัดไปเราพบว่าร้อยละของรายได้รวมที่ส่วนของประชากรในแต่ละมีรายได้โดยการหารกำไรของพวกเขาโดยมีรายได้รวมที่
ร้อยละส่วนล่าง = 10000 / 274,000 = 0.036 = 3.6%
เปอร์เซ็นต์ส่วนที่สอง = = 0.088 24000/274000 = 8.8%
เปอร์เซ็นต์ส่วนที่สาม = 50000/274000 = 0.182 = 18.2%
เปอร์เซ็นต์ส่วนที่สี่ = 80000/274000 = 0,292 = 29,2%
เปอร์เซ็นต์ส่วนบนสุด = = 110000/274000 0.401 = 40.1%
สิ่งที่ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นเป็นที่ห้าด้านล่างของประชากรที่ได้รับน้อยกว่า 4% ของรายได้รวมขณะที่ห้าด้านบนของประชากรที่ได้รับมากกว่า 40% ของรายได้ทั้งหมดแสดงให้เห็นระดับใหญ่ของความไม่เท่าเทียมกันของรายได้
นักเศรษฐศาสตร์ยังมองที่ตัวเลขที่สะสมสำหรับการกระจายรายได้ การทำเช่นนี้เพียงแค่เพิ่มเปอร์เซ็นต์ด้วยกันในแต่ละระดับให้จำนวนของรายได้ที่ได้รับจากทุกคนที่หรือต่ำกว่าระดับหนึ่ง ในตัวอย่างของเรามันจะทำงานดังนี้
ส่วนล่างสะสมร้อยละ = 3.6%
ส่วนที่สองที่สะสมร้อยละ = 3.6% + 8.8% = 12.4%
ส่วนที่สามร้อยละสะสม = 12.4% + 18.2% = 30.6%
ส่วนที่สี่ร้อยละสะสม = 30.6% + 29.2% = 59.8%
ส่วนยอดนิยมร้อยละสะสม = 59.8% + 40.1% = 99.9%
ทราบว่าร้อยละสะสมรวมซึ่งควรจะเท่ากับ 100% เพราะมันหมายถึงรายได้รวมที่ได้รับจากคนงานทั้งหมดเป็นเพียง 99.9% ซึ่งบางครั้งอาจเกิดขึ้นเนื่องจากการปัดเศษของตัวเลข.
ทั้งสองตัวเลขร้อยละและอัตราร้อยละสะสมมักจะถูกวางไว้ในตารางสำหรับการอ่านง่ายขึ้น:

รูป% ตารางการกระจายรายได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การนิยามและการวัดการกระจายรายได้การกระจายรายได้มีความเรียบหรือความเสมอภาค ซึ่งรายได้ก็แจก ในหมู่สมาชิกของสังคม ถ้าทุกคนได้เหมือนกัน จำนวนเงิน แล้วกระจายรายได้ได้อย่างเท่าเทียมกัน ถ้าไม่มีใครได้เงินสักคน คนที่ได้รับเงินทั้งหมด แล้วกระจายรายได้สมบูรณ์ไม่เท่ากัน ปกติแล้ว อย่างไรก็ตาม การกระจายรายได้ของสังคมอยู่ตรงกลางระหว่างเท่ากันและไม่เท่ากันว่าเราวัดระดับของความเสมอภาคหรือเท่าเทียมกัน ? นักเศรษฐศาสตร์มักจะวัดเท่ากันรายได้โดยการวัดรายได้เท่าไหร่ที่ได้จากส่วนต่าง ๆของประชากร ตัวอย่าง ถ้าเราแบ่งเป็น 5 ส่วน คนงานทั้งหมดเป็นเงินเท่าไหร่ที่พวกเขาทำ : สูงสุด 20 % อีก 20 % 20 % ที่สาม ที่สี่ 20% และด้านล่าง 20% , และเราได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเท่าใดเงินที่พวกเขาทำให้เราสามารถสร้างแผนภูมิ รายละเอียดรายได้เท่าใดแต่ละส่วนได้จากผลรวมของรายได้สำหรับทุกคน ใหญ่กว่าความแตกต่างระหว่างส่วนต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น ความไม่เท่าเทียมกันของรายได้ .สมมติว่ารายได้เฉลี่ย 5 ส่วนในสังคมเป็น $ 10 , 000 , 000 $ , $ 50 , $ 80 , 000 และ $ 110 , 000 . เพื่อดูการกระจายรายได้ เราต้องเห็นค่าอะไรของรายได้รวมในแต่ละส่วนให้มากกว่าจำนวนเงินที่แท้จริงของเงินแต่ละทำ เพราะแต่ละส่วนมีขนาดเท่ากัน เราไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนัก รายได้เฉลี่ย และสามารถทำส่วนที่ตรงไปตรงมามากกว่าการคำนวณทั้งหมดของกำไรของกลุ่มในแต่ละสำหรับรายได้ทั้งหมดเราจะใช้ผลรวมของรายได้เฉลี่ย : ห้ารายได้ 10 , 000 + 24 , 000 + 50 , 000 + 80 , 000 + 110 ,รายได้รวม = 274000ต่อไปเราจะหาค่าร้อยละของรายได้รวมที่แต่ละส่วนของประชากรมีรายได้ โดยแบ่งรายได้จากรายได้รวมด้านล่างส่วนร้อยละ = 10 , 000 / 274000 = 0.036 = 3.6 %ส่วนที่สอง ร้อยละ = 24 , 000 / 274000 = 0.088 = 8.8 %3 ส่วนร้อยละ = 50 , 000 / 274000 = 0.182 = 18.2 %สี่ส่วนร้อยละ = 80 , 000 / 274000 = 0.292 = 0.05 %ด้านบนส่วนร้อยละ = 110 , 000 / 274000 = 0.401 = 40.1 %แล้วตัวเลขเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า ห้าด้านล่างของประชากรได้รับน้อยกว่า 4% ของรายได้รวม ในขณะที่ห้าด้านบนของประชากรที่ได้รับมากกว่า 40% ของรายได้รวม ซึ่งเป็นระดับใหญ่ของความไม่เท่าเทียมกันของรายได้ .นักเศรษฐศาสตร์ยังดูที่ตัวเลขรวมการกระจายรายได้ การทำเช่นนี้เพียงแค่เพิ่มเปอร์เซ็นต์ด้วยกันในแต่ละระดับให้ปริมาณของรายได้โดยคนทั้งหมดที่หรือต่ำกว่าระดับหนึ่ง ในตัวอย่างของเราจะทำงานดังนี้ด้านล่างส่วนสะสมร้อยละ = 3.6 %ส่วนที่สอง ( ร้อยละ = 3.6 % + 8.8% = 12.4%ส่วนที่สาม ( ร้อยละ = 12.4% + 18.2 % = 30.6 %สี่ส่วนสะสมร้อยละ = 30.6 % + 2 % = 59.8 %ส่วนยอดสะสมร้อยละ 59.8 % + = 40.1 % = 99.9 เปอร์เซ็นต์ทราบว่า ค่าสะสมรวม ซึ่งจะเท่ากับ 100 % เพราะมันแสดงถึงรายได้ที่ได้รับจากคนงานทั้งหมด แค่ 99.9 % บางครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากการปัดเศษตัวเลขตัวเลขสองเหล่านี้ ร้อยละ และสะสมค่ามักจะวางไว้ในโต๊ะสำหรับการอ่านง่ายขึ้น :รูป : ตารางการกระจายรายได้