Concept หลักก็คือ การที่ใครสักคนจะซื้อสินค้าจากคุณ หรือใช้บริการของคุณ การแปล - Concept หลักก็คือ การที่ใครสักคนจะซื้อสินค้าจากคุณ หรือใช้บริการของคุณ ไทย วิธีการพูด

Concept หลักก็คือ การที่ใครสักคนจะซ

Concept หลักก็คือ การที่ใครสักคนจะซื้อสินค้าจากคุณ หรือใช้บริการของคุณ คนนั้นเขาต้อง
– รู้จักคุณ → คุณต้องทำตัวให้เป็นที่รู้จัก อยู่ในสายตาคนอื่น
– ชื่นชอบในตัวคุณ → โดยการที่ตัวคุณมีคุณค่าบางอย่าง เช่น มีความรู้ เป็นผู้ให้ ไม่หวังสิ่งตอบแทน (ในสิ่งที่ให้ … แต่แน่นอน… หวังสิ่งตอบแทนจากธุรกิจของคุณ ซึ่งมันแยกจากกัน)
– ศรัทธา/เชื่อถือคุณ มั่นใจว่าคุณเป็นคนดี เชื่อถือได้ เดินตามได้ ทำตามได้

แต่ก่อนที่จะเอาแนวคิดนั้นมาประยุกต์ใช้ เพื่อให้เกิดผลทางธุรกิจ คุณต้องเลือกก่อนว่าจะทำธุรกิจอะไร ธุรกิจไหนมีความเป็นไปได้ ไม่ฉาบฉวย พื้นฐานดี ในเมื่อมันไม่มีของฟรีในโลก ไม่มีอะไรได้มาโดยง่าย ดังนั้นธุรกิจที่ดูเหมือนจะทำให้รวยเร็ว..ให้ตัดออกไปได้เลย..เชื่อผม

เมื่อเลือกธุรกิจได้แล้ว ให้ดูว่าอะไรเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในธุรกิจนั้น ถ้าเป็นการขายสินค้า มันเป็นสินค้าที่กำไรไม่เยอะแต่ต้องขายปริมาณมากๆ เหรอ หรือว่าสินค้าขายยากนิดนึงแต่กำไรสูง หรือถ้าเป็นธุรกิจเครือข่าย ต้องคิดกลยุทธ์ว่าเราจะใช้วิธีสร้างเครือข่ายนักธุรกิจไปเรื่อยๆ แล้วสร้างระบบให้เขาทำตาม หรือจะใช้วิธีหาผู้บริโภคเยอะๆ แล้วใช้ปริมาณฐานลูกค้า + กำลังซื้อต่อเนื่อง (เพราะสินค้าใช้แล้วดี) เพื่อสร้างเม็ดเงินให้เรา นี่คือตัวอย่างที่ต้องคิดในเชิงกลยุทธ์ เพื่อที่จะวางแผนธุรกิจได้อย่างถูกต้องต่อไปครับ

ผ่านมาถึงขั้นนี้ เราจะรู้ว่าใครคือ “กลุ่มเป้าหมาย” ของเรา เป็นผู้บริโภคที่อยากใช้สินค้าดีๆ สั่งซื้อง่าย สะดวก ปลอดภัย ไว้ใจได้ หรือจะเป็นนักธุรกิจ (รายใหม่และเก่า) ที่แสวงหาวิธีการสร้างรายได้ เราต้องหาให้เจอว่า กลุ่มเป้าหมายของเราอยู่ตรงไหน (ใช้ Internet เยอะ / เดินตามถนน / ชอบเดินห้าง / อยู่ต่างจังหวัด ฯลฯ) และที่สำคัญ กลุ่มเป้าหมายของเรามีปัญหาอะไร อะไรจะทำให้เขาได้ขยับเข้าใกล้สิ่งที่เขาอยากได้ อยากมี อยากประสบความสำเร็จ เช่น อยากผอม อยากเพิ่มน้ำหนัก อยากผิวขาว อยากสุขภาพดี อยากรวย อยากเลิกทำงานประจำ ฯลฯ

การที่กลุ่มเป้าหมายเหล่านั้นจะได้ในสิ่งที่เขาอยากได้ เขาจะเสาะหาวิธีการ เครื่องมือ สินค้า บริการ ฯลฯ ถ้าเขาเสาะหา (หรือได้พบเห็น) คนที่รู้วิธีการ มีเครื่องมือ/สินค้า/บริการ ที่จะช่วยแก้ปัญหาให้เขาได้ และถ้าเขาเชื่อถือในบุคคล/วิธีการ/สินค้า/บริการ มั่นใจว่ามันจะช่วยแก้ปัญหาให้เขาได้ เขาก็จะตัดสินใจ

คุณจะเห็นแล้วว่า ถ้าคุณจะทำธุรกิจกับคนพวกนั้น คุณต้องมีในสิ่งที่เขาอยากได้ คุณต้องเป็นในสิ่งที่เขาอยากเห็น และคุณต้องมอบสิ่งที่เขาต้องการได้ ดังนั้น คุณก็จะต้องพัฒนาตนเองให้เป็นคนที่มีคุณค่าในจุดที่ตรงกับปัญหาของกลุ่มเป้าหมายของคุณ แสดงตน และเข้าให้ถึงกลุ่มเป้าหมาย (หรือหาวิธีที่กลุ่มเป้าหมายจะค้นพบคุณได้) และเริ่มที่จะเป็นผู้ให้ ให้ในสิ่งที่เกี่ยวข้อง (แต่ไม่ใช่สินค้า/บริการ/ธุรกิจของคุณ) เพื่อสร้างความเชื่อถือ ศรัทธา และ “จุดเกรงใจ”

คุณจะอยู่ในฐานะผู้นำ มีอำนาจเหนือ และผู้คนจะมา “ต่อคิว” ไม่ใช่มา “ต่อราคา” กับคุณ

ลองอ่านข้างบนดูอีกรอบ แต่ละย่อหน้าจะมี keyword หลายคำ ที่พอยกขึ้นมาคำหนึ่งแล้ว มีเรื่องอีกร้อยแปดให้ต้องทำ เช่น

– “ทำตัวให้เป็นที่รู้จัก” แค่นี้ก็คิดกันแปดตลบแล้วเหมือนกัน จะทำอย่างไรดี ไปตามงานสัมมนา/นิทรรศการต่างๆ เพื่อเข้าสังคมและสร้างเครือข่าย หรือจะทำเว็บไซต์แล้วโปรโมทด้วยวิธีต่างๆ (ก็ต้องมาศึกษาวิธีการสร้างเว็บไซต์ ศึกษาวิธีการโปรโมทเว็บไซต์ กันอีก)

– “ทำตัวให้มีคุณค่า” โอ..อย่างไรเนี่ย นี่ก็เป็นสิ่งที่ต้องค้นหา สร้าง และพัฒนาทักษะของเราในเรื่องที่ตรงกับปัญหา/ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย

ผมแนะนำว่า อย่าเริ่มต้นด้วยการพยายามเรียนรู้ในสิ่งที่ไม่ถนัด เพราะมันจะเสียเวลามาก บางอย่างเป็นพรสวรรค์ ไม่ใช่พรแสวง ยังมีคนเก่งอยู่ข้างนอกนั่นอีกเยอะ คนที่เก่งจริง จะสามารถค้นหาคนที่เก่งกว่าตน และดึงมาร่วมธุรกิจ หรือเอามาเป็นลูกน้องได้

ผมแนะนำให้เริ่มจากการ
1) ค้นหา “จุดแข็ง” ของตัวเราเอง พัฒนาและเน้นย้ำให้สุดยอด ให้โดดเด่น
2) ค้นหา “แรงบันดาลใจ” ของตัวเราเอง เพื่อให้การทำงาน (ธุรกิจ) ของเรานั้น “มีพลัง”
3) ค้นหา “ธุรกิจ” ที่เราสามารถใช้จุดแข็ง และ/หรือ แรงบันดาลใจของเราเป็นส่วนหนึ่งได้ หาธุรกิจที่พื้นฐานดี ไม่ฉาบฉวย อย่าเอาเร็วเอาง่ายเข้าว่า เพราะนั่นเป็นหลุมพรางที่ดึงดูดคนโง่และคนโลภเข้าไปอยู่รวมกัน ที่สำคัญอีกอย่างคือ จงค้นหาธุรกิจที่เหมาะกับคุณ อย่าปล่อยให้ธุรกิจมาค้นหาคุณซะแทน
4) ค้นหา “ปัจจัยหลักที่ทำให้ธุรกิจนั้นประสบความสำเร็จ” (Key Success Factors) เพื่อกำหนดหากลุ่มเป้าหมายและวิธีการ
5) สร้าง “กลยุทธ์การตลาด” ที่จะทำให้กลุ่มเป้าหมายได้ค้นพบเรา วิธีการที่จะทำให้เขาชื่นชอบเรา และมั่นใจในตัวเรา/สินค้า/บริการ/โอกาสทางธุรกิจของเรา
6) เรียนรู้และฝีกทักษะในส่วนที่จำเป็น

อีกอย่างหนึ่งที่ผมขอฝากไว้ ณ ที่นี้ก็คือ ความสำเร็จของธุรกิจนั้น อยู่ที่ Business Model และ ความสามารถในการหาคนเก่งมาประกอบรวมกัน เพื่อสร้างความแตกต่างที่เหนือความคาดหมาย ไม่ได้เกิดจาก superman คนเดียวทำทุกอย่าง ผมยึดหลักที่ว่า ถ้าธุรกิจมันดีจริง ต่อให้ต้องจ้างคนอีก 10 คนมาทำสิ่งต่างๆ เพื่อทำให้ได้เร็ว ได้ดีกว่าที่เราคนเดียวจะทำเอง ผมก็ยอมจ้าง เพราะรู้ว่าอย่างไร..มันก็ต้องคืนทุนแน่นอน
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
Concept หลักก็คือ การที่ใครสักคนจะซื้อสินค้าจากคุณ หรือใช้บริการของคุณ คนนั้นเขาต้อง– รู้จักคุณ → คุณต้องทำตัวให้เป็นที่รู้จัก อยู่ในสายตาคนอื่น– ชื่นชอบในตัวคุณ → โดยการที่ตัวคุณมีคุณค่าบางอย่าง เช่น มีความรู้ เป็นผู้ให้ ไม่หวังสิ่งตอบแทน (ในสิ่งที่ให้ … แต่แน่นอน… หวังสิ่งตอบแทนจากธุรกิจของคุณ ซึ่งมันแยกจากกัน)– ศรัทธา/เชื่อถือคุณ มั่นใจว่าคุณเป็นคนดี เชื่อถือได้ เดินตามได้ ทำตามได้แต่ก่อนที่จะเอาแนวคิดนั้นมาประยุกต์ใช้ เพื่อให้เกิดผลทางธุรกิจ คุณต้องเลือกก่อนว่าจะทำธุรกิจอะไร ธุรกิจไหนมีความเป็นไปได้ ไม่ฉาบฉวย พื้นฐานดี ในเมื่อมันไม่มีของฟรีในโลก ไม่มีอะไรได้มาโดยง่าย ดังนั้นธุรกิจที่ดูเหมือนจะทำให้รวยเร็ว..ให้ตัดออกไปได้เลย..เชื่อผมเมื่อเลือกธุรกิจได้แล้ว ให้ดูว่าอะไรเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในธุรกิจนั้น ถ้าเป็นการขายสินค้า มันเป็นสินค้าที่กำไรไม่เยอะแต่ต้องขายปริมาณมากๆ เหรอ หรือว่าสินค้าขายยากนิดนึงแต่กำไรสูง หรือถ้าเป็นธุรกิจเครือข่าย ต้องคิดกลยุทธ์ว่าเราจะใช้วิธีสร้างเครือข่ายนักธุรกิจไปเรื่อยๆ แล้วสร้างระบบให้เขาทำตาม หรือจะใช้วิธีหาผู้บริโภคเยอะๆ แล้วใช้ปริมาณฐานลูกค้า + กำลังซื้อต่อเนื่อง (เพราะสินค้าใช้แล้วดี) เพื่อสร้างเม็ดเงินให้เรา นี่คือตัวอย่างที่ต้องคิดในเชิงกลยุทธ์ เพื่อที่จะวางแผนธุรกิจได้อย่างถูกต้องต่อไปครับผ่านมาถึงขั้นนี้ เราจะรู้ว่าใครคือ “กลุ่มเป้าหมาย” ของเรา เป็นผู้บริโภคที่อยากใช้สินค้าดีๆ สั่งซื้อง่าย สะดวก ปลอดภัย ไว้ใจได้ หรือจะเป็นนักธุรกิจ (รายใหม่และเก่า) ที่แสวงหาวิธีการสร้างรายได้ เราต้องหาให้เจอว่า กลุ่มเป้าหมายของเราอยู่ตรงไหน (ใช้ Internet เยอะ / เดินตามถนน / ชอบเดินห้าง / อยู่ต่างจังหวัด ฯลฯ) และที่สำคัญ กลุ่มเป้าหมายของเรามีปัญหาอะไร อะไรจะทำให้เขาได้ขยับเข้าใกล้สิ่งที่เขาอยากได้ อยากมี อยากประสบความสำเร็จ เช่น อยากผอม อยากเพิ่มน้ำหนัก อยากผิวขาว อยากสุขภาพดี อยากรวย อยากเลิกทำงานประจำ ฯลฯการที่กลุ่มเป้าหมายเหล่านั้นจะได้ในสิ่งที่เขาอยากได้ เขาจะเสาะหาวิธีการ เครื่องมือ สินค้า บริการ ฯลฯ ถ้าเขาเสาะหา (หรือได้พบเห็น) คนที่รู้วิธีการ มีเครื่องมือ/สินค้า/บริการ ที่จะช่วยแก้ปัญหาให้เขาได้ และถ้าเขาเชื่อถือในบุคคล/วิธีการ/สินค้า/บริการ มั่นใจว่ามันจะช่วยแก้ปัญหาให้เขาได้ เขาก็จะตัดสินใจคุณจะเห็นแล้วว่า ถ้าคุณจะทำธุรกิจกับคนพวกนั้น คุณต้องมีในสิ่งที่เขาอยากได้ คุณต้องเป็นในสิ่งที่เขาอยากเห็น และคุณต้องมอบสิ่งที่เขาต้องการได้ ดังนั้น คุณก็จะต้องพัฒนาตนเองให้เป็นคนที่มีคุณค่าในจุดที่ตรงกับปัญหาของกลุ่มเป้าหมายของคุณ แสดงตน และเข้าให้ถึงกลุ่มเป้าหมาย (หรือหาวิธีที่กลุ่มเป้าหมายจะค้นพบคุณได้) และเริ่มที่จะเป็นผู้ให้ ให้ในสิ่งที่เกี่ยวข้อง (แต่ไม่ใช่สินค้า/บริการ/ธุรกิจของคุณ) เพื่อสร้างความเชื่อถือ ศรัทธา และ “จุดเกรงใจ”
คุณจะอยู่ในฐานะผู้นำ มีอำนาจเหนือ และผู้คนจะมา “ต่อคิว” ไม่ใช่มา “ต่อราคา” กับคุณ

ลองอ่านข้างบนดูอีกรอบ แต่ละย่อหน้าจะมี keyword หลายคำ ที่พอยกขึ้นมาคำหนึ่งแล้ว มีเรื่องอีกร้อยแปดให้ต้องทำ เช่น

– “ทำตัวให้เป็นที่รู้จัก” แค่นี้ก็คิดกันแปดตลบแล้วเหมือนกัน จะทำอย่างไรดี ไปตามงานสัมมนา/นิทรรศการต่างๆ เพื่อเข้าสังคมและสร้างเครือข่าย หรือจะทำเว็บไซต์แล้วโปรโมทด้วยวิธีต่างๆ (ก็ต้องมาศึกษาวิธีการสร้างเว็บไซต์ ศึกษาวิธีการโปรโมทเว็บไซต์ กันอีก)

– “ทำตัวให้มีคุณค่า” โอ..อย่างไรเนี่ย นี่ก็เป็นสิ่งที่ต้องค้นหา สร้าง และพัฒนาทักษะของเราในเรื่องที่ตรงกับปัญหา/ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย

ผมแนะนำว่า อย่าเริ่มต้นด้วยการพยายามเรียนรู้ในสิ่งที่ไม่ถนัด เพราะมันจะเสียเวลามาก บางอย่างเป็นพรสวรรค์ ไม่ใช่พรแสวง ยังมีคนเก่งอยู่ข้างนอกนั่นอีกเยอะ คนที่เก่งจริง จะสามารถค้นหาคนที่เก่งกว่าตน และดึงมาร่วมธุรกิจ หรือเอามาเป็นลูกน้องได้

ผมแนะนำให้เริ่มจากการ
1) ค้นหา “จุดแข็ง” ของตัวเราเอง พัฒนาและเน้นย้ำให้สุดยอด ให้โดดเด่น
2) ค้นหา “แรงบันดาลใจ” ของตัวเราเอง เพื่อให้การทำงาน (ธุรกิจ) ของเรานั้น “มีพลัง”
3) ค้นหา “ธุรกิจ” ที่เราสามารถใช้จุดแข็ง และ/หรือ แรงบันดาลใจของเราเป็นส่วนหนึ่งได้ หาธุรกิจที่พื้นฐานดี ไม่ฉาบฉวย อย่าเอาเร็วเอาง่ายเข้าว่า เพราะนั่นเป็นหลุมพรางที่ดึงดูดคนโง่และคนโลภเข้าไปอยู่รวมกัน ที่สำคัญอีกอย่างคือ จงค้นหาธุรกิจที่เหมาะกับคุณ อย่าปล่อยให้ธุรกิจมาค้นหาคุณซะแทน
4) ค้นหา “ปัจจัยหลักที่ทำให้ธุรกิจนั้นประสบความสำเร็จ” (Key Success Factors) เพื่อกำหนดหากลุ่มเป้าหมายและวิธีการ
5) สร้าง “กลยุทธ์การตลาด” ที่จะทำให้กลุ่มเป้าหมายได้ค้นพบเรา วิธีการที่จะทำให้เขาชื่นชอบเรา และมั่นใจในตัวเรา/สินค้า/บริการ/โอกาสทางธุรกิจของเรา
6) เรียนรู้และฝีกทักษะในส่วนที่จำเป็น

อีกอย่างหนึ่งที่ผมขอฝากไว้ ณ ที่นี้ก็คือ ความสำเร็จของธุรกิจนั้น อยู่ที่ Business Model และ ความสามารถในการหาคนเก่งมาประกอบรวมกัน เพื่อสร้างความแตกต่างที่เหนือความคาดหมาย ไม่ได้เกิดจาก superman คนเดียวทำทุกอย่าง ผมยึดหลักที่ว่า ถ้าธุรกิจมันดีจริง ต่อให้ต้องจ้างคนอีก 10 คนมาทำสิ่งต่างๆ เพื่อทำให้ได้เร็ว ได้ดีกว่าที่เราคนเดียวจะทำเอง ผมก็ยอมจ้าง เพราะรู้ว่าอย่างไร..มันก็ต้องคืนทุนแน่นอน
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
แนวคิดหลักก็คือการที่ใครสักคน จะซื้อสินค้าจากคุณหรือใช้บริการของคุณคนนั้นเขาต้อง
- รู้จักคุณ→คุณต้องทำตัวให้เป็น ที่รู้จักอยู่ในสายตาคนอื่น
- ชื่นชอบในตัวคุณ→โดยการ ที่ตัว คุณมีคุณค่าบางอย่างเช่นมีความ รู้เป็นผู้ให้ไม่หวังสิ่งตอบแทน (ในสิ่งที่ให้ ... แต่แน่นอน ... หวังสิ่งตอบแทนจากธุรกิจของคุณซึ่ง มันแยกจากกัน )
- ศรัทธา / เชื่อถือคุณมั่นใจว่าคุณเป็นคนดี เชื่อถือ ได้เดินตามได้ทำตามได้

แต่ก่อนที่จะเอาแนวคิดนั้นมาประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดผลทางธุรกิจที่คุณคุณคุณต้องเลือกก่อนว่าได้จะทำธุรกิจอะไรธุรกิจไหนมีความสามารถเป็นไปได้ไม่ฉาบฉวยพื้นฐานดีในห้างหุ้นส่วนจำกัดเมื่อมันไม่มีของเรียกเข้าโหลดฟรีในห้างหุ้นส่วนจำกัด โลกไม่มีอะไรได้มาโดยง่ายดังนั้น ธุรกิจที่ดูเหมือนจะทำให้รวยเร็ว .. ให้ตัดออกไปได้เลย.. เชื่อผม

เมื่อเลือกธุรกิจได้แล้วให้ดูว่าได้อะไรเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ประสบความสามารถสำเร็จในห้างหุ้นส่วนจำกัดธุรกิจนั้นถ้าเป็นการ ขายสินค้ามันเป็นสินค้าที่กำไรไม่ เยอะ แต่ต้องขายปริมาณมาก ๆ เหรอหรือว่าสินค้าขายยากนิดนึง แต่กำไรสูงหรือถ้าเป็นธุรกิจเครือข่ายต้องคิดกลยุทธ์ว่าเราจะใช้วิธีสร้างเครือข่ายนักธุรกิจไปเรื่อย ๆ แล้ว สร้างระบบให้เขาทำตามหรือจะ ใช้วิธีหาผู้บริโภคเยอะ ๆ แล้วใช้ปริมาณฐานลูกค้า + กำลังซื้อต่อเนื่อง (เพราะสินค้าใช้แล้วดี) เพื่อสร้างเม็ดเงินให้เรานี่คือ ตัวอย่างที่ต้องคิดในเชิงกลยุทธ์เพื่อที่จะ วางแผนธุรกิจได้อย่างถูกคุณต้องต่อไปได้ครับ

ทางทหารผ่านมาถึงขั้นนี้เราจะรู้ว่าได้ใครคือ "กลุ่มเป้าหมาย" ของเราเป็นผู้บริโภคที่อยากใช้ สินค้าดีๆสั่งซื้อง่ายสะดวกปลอดภัยไว้ใจได้หรือจะเป็นนักธุรกิจ (รายใหม่และ เก่า) ที่แสวงหาวิธีการสร้างรายได้เรา ต้องหาให้เจอว่ากลุ่มเป้าหมายของเราอยู่ตรงไหน (ใช้อินเทอร์เน็ตเยอะ / เดินตามถนน / ชอบเดินห้าง / อยู่ต่างจังหวัด ฯลฯ ) และที่สำคัญกลุ่มเป้าหมายของเรามี ปัญหาอะไรอะไร จะทำให้เขาได้ขยับเข้าใกล้สิ่งที่เขาใหม่อยากได้ใหม่อยากมีใหม่อยากประสบความสามารถสำเร็จเช่นใหม่อยากผอมใหม่อยากเพิ่มน้ำหนักใหม่อยากผิวขาวตั้งใหม่อยากสุขภาพดีใหม่อยากรวยใหม่อยากเลิกทำงานประจำความ ฯลฯ

หัวเรื่อง: การที่กลุ่มเป้าหมายเหล่านั้นจะได้ในห้างหุ้นส่วนจำกัดสิ่งที่เขาใหม่อยาก ได้เขาจะเสาะหาวิธีการเครื่องมือ สินค้าบริการ ฯลฯ ถ้าเขาเสาะหา (หรือได้พบเห็น) คนที่รู้วิธีการมีเครื่องมือ / สินค้า / บริการที่จะช่วยแก้ปัญหาให้เขา ได้และถ้าเขาเชื่อถือในบุคคล / วิธีการ / สินค้า / บริการมั่นใจว่าได้มันจะช่วยแก้ปฐมวัยให้เขาได้เขาก็จะตัดสินใจ

ที่คุณคุณจะเห็นแล้วว่าได้ถ้าที่คุณคุณจะทำธุรกิจกับของคุณคนพวกนั้นที่คุณคุณคุณต้องมีในห้างหุ้นส่วนจำกัดสิ่งที่เขาใหม่อยากได้ที่คุณคุณคุณต้องเป็นในห้างหุ้นส่วนจำกัดสิ่งที่เขาใหม่อยากเห็นและที่คุณคุณ ต้องมอบสิ่งที่เขาต้องการได้ดังนั้น คุณก็จะต้องพัฒนาตนเองให้เป็นคนที่มีคุณค่าในจุดที่ตรงกับปัญหาของกลุ่มเป้าหมายของคุณแสดงตนและเข้าให้ถึงกลุ่มเป้าหมาย (หรือหาวิธีที่กลุ่มเป้าหมายจะค้น พบคุณ ได้) และเริ่มที่จะเป็นผู้ให้ให้ ในสิ่งที่เกี่ยวข้อง ( แต่ไม่ใช่สินค้า / บริการ / ธุรกิจของคุณ) เพื่อสร้างความเชื่อถือศรัทธาและ "จุดเกรงใจ"

คุณจะอยู่ในฐานะผู้นำมีอำนาจ เหนือและผู้คนจะมา " ต่อคิว "ไม่ใช่มา" ต่อราคา "กับที่คุณคุณ

ลองอ่านข้างบนดูอีกรอบแต่ละย่อหน้าจะมีคำหลักหลายคำที่พอยกขึ้นมาคำ หนึ่งแล้วมีเรื่องอีกร้อยแปดให้ต้องทำเช่น

-" ทำตัวให้เป็นที่รู้จัก "แค่ นี้ก็คิดกันแปดตลบแล้ว เหมือนกันจะทำอย่างไรดีไปตามงานสัมมนา / นิทรรศการต่างๆเพื่อเข้าสังคมและสร้างเครือ ข่ายหรือจะทำเว็บไซต์แล้วโปรโมทด้วยวิธีต่างๆ (ก็ต้องมาศึกษาวิธีการสร้างเว็บไซต์ ศึกษาวิธีการโปรโมท เว็บไซต์กันอีก)

-.. "ทำตัวให้มีคุณค่า" โออย่างไรเนี่ยนี่ก็เป็นสิ่ง ที่ต้องค้นหาสร้างและพัฒนาทักษะของเราในเรื่องที่ตรงกับปัญหา / ความสามารถต้องการของกลุ่มเป้าหมาย

ผมแนะนำว่าได้เพลงอย่าเริ่มคุณต้นด้วยหัวเรื่อง: การ พยายามเรียนรู้ในสิ่งที่ไม่ถนัด เพราะมันจะเสียเวลามากบางอย่างเป็นพรสวรรค์ไม่ใช่พรแสวงยังมีคนเก่งอยู่ข้างนอกนั่นอีกเยอะคนที่เก่งจริงจะสามารถค้นหาคนที่เก่งกว่าตนและดึงมาร่วมธุรกิจหรือเอา มาเป็นลูกน้องได้

ผมแนะนำให้เริ่มจากเนชั่หัวเรื่อง: การ
1) ค้นหา "จุดแข็ง" ของตัวเราเองพัฒนาและเน้นย้ำ ให้สุดยอดให้โดดเด่น
2) ค้นหา "แรงบันดาลใจ" ของตัวเราเองเพื่อให้การทำงาน (ธุรกิจ) ของเรานั้น "มีพลัง"
3) ค้นหา "ธุรกิจ" ที่เราสามารถใช้จุดแข็งและ / หรือแรงบันดาลใจของเราเป็นส่วน หนึ่งได้หาธุรกิจที่พื้นฐานดีไม่ฉาบฉวยอย่าเอาเร็วเอาง่ายเข้าว่าเพราะนั่นเป็นหลุมพรางที่ ดึงดูดคนโง่และคนโลภเข้าไปอยู่ รวมกันที่สำคัญอีกอย่างคือจงค้นหาธุรกิจที่เหมาะกับคุณอย่าปล่อยให้ธุรกิจมาค้นหาคุณซะแทน
4) ค้นหา "ปัจจัยหลักที่ทำให้ธุรกิจนั้นประสบความ สำเร็จ " (ปัจจัยสำคัญในความสำเร็จ) เพื่อกำหนดหากลุ่มเป้าหมายและวิธีการ
5) สร้าง "กลยุทธ์การตลาด" ที่จะทำให้กลุ่มเป้าหมายได้ค้นพบ เราวิธีการที่จะทำให้เขาชื่นชอบเราและมั่นใจในตัวเรา / สินค้า / บริการ / โอกาสทางธุรกิจของเรา
6 ) เรียนรู้และฝีกทักษะในห้างหุ้นส่วนจำกัดส่วนที่จำเป็น

อีกอย่างคุณหนึ่งที่ผมขอฝากไว้ ณ ที่นี้ก็คือความสามารถสำเร็จของธุรกิจนั้นขณะนี้ที่รูปแบบธุรกิจและความสามารถในการหาคนเก่ง มาประกอบรวมกันเพื่อสร้างความแตกต่างที่ เหนือความคาดหมายไม่ได้เกิดจากซูเปอร์แมนคนเดียวทำทุกอย่างผมยึดหลัก ที่ว่าถ้าธุรกิจมันดีจริงต่อให้ต้องจ้างคนอีก 10 คนมาทำสิ่งต่างๆเพื่อทำให้ได้ เร็วได้ดีกว่าที่เราคนเดียวจะทำเองผม ก็ยอมจ้างเพราะรู้ว่าอย่างไร.. มันก็ต้องคืนทุนแน่นอน
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: