Sra Kampaeng Yai Khmer Ruins. (ปราส

Sra Kampaeng Yai Khmer Ruins. (ปราสาทสระกำแพงใหญ่) Located in Wat Sra Kampaeng Yai, Ban Kampaeng Yai, Tambon Sra Kampaeng Yai, it is the biggest and most perfect Khmer Ruins in the province. The Khmer Ruins comprises three stupas on the same base lining in North-South direction and facing east. The main stupa, at the middle, made from sandstone and bricks in some part, houses carved lintel depicting God Indra on the back of Erawan Heavenly Elephant above the kirtimukha. Other two stupas are made of brick with sandstone decorations such as lintel, gable frame and door frame. Behind the southern stupa is another brick stupa. Before all are two brick vihara surrounded with walls made from laterite and sandstone and 4 Gopuras at all directions.
Brick vihara at north houses a carved lintel depicting Reclining Vishnu. The southern brick vihara houses a lintel depicting God Shiva and Goddess Uma seated on Nonthi Cow. Presently, this Khmer Ruins belongs to the division of Archeology, Fine Arts Department. Many antiques are found from this site such as lintels depicting Shiva God, Krissna God fighting Vattana Cow, Buddha statue in the attitude of meditation under naga, Buddha statue in attitude of meditation, and terra cotta Buddha images.
By the style appearing on gables, lintels, and antique, particularly inscription at the doorframe of Sra Kampaeng Yai Khmer Ruins, this ruins was probably build in the 11th Century with Bapuan Art style of Khmer. It was served as shrine for God Shiva before changing into Mahayana Buddhist temple in 13th Century.
How to get there: The Khmer Ruins is 26 km from Sisaket City and 2 km from Amphoe Uthumphon Pisai, via highway 226.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สระ Kampaeng ใหญ่เขมรซากปรักหักพัง (ปราสาทสระกำแพงใหญ่) ตั้งอยู่ในวัดสระ Kampaeng ใหญ่ บ้าน Kampaeng ใหญ่ ตำบลสระ Kampaeng ใหญ่ ได้ใหญ่ที่สุด และสมบูรณ์แบบที่สุดเขมรซากปรักหักพังในจังหวัด เขมรซากปรักหักพังประกอบด้วยสามพระธาตุบนฐานเดียวกันในทิศทางเหนือใต้ และหันหน้าไปทางทิศตะวันออก เจดีย์หลัก กลาง ทำจากหินทรายและอิฐในบางส่วน บ้านแกะสลักทับหลังพระอินทร์บนหลังช้างเอราวัณสวรรค์เหนือ kirtimukha แสดง พระธาตุอื่น ๆ ทั้งสองที่ทำจากอิฐกับตกแต่งหินทรายเช่นทับหลัง ช่อฟ้ากรอบ และกรอบประตู หลังเจดีย์ใต้เป็นเจดีย์อิฐอีก ก่อนที่ทั้งหมดมีสองวิหารอิฐที่ล้อมรอบ ด้วยผนังที่ทำจากศิลาแลง และหินทราย และ Gopuras 4 ในทุกทิศทางวิหารอิฐที่เหนือบ้านทับหลังแกะสลักการแสดงนารายณ์นอน วิหารอิฐใต้บ้านทับหลังที่แสดงให้เห็นถึงเทพเจ้าและเทพธิดาอุมานั่งบนวัว Nonthi ปัจจุบัน นี้เขมรซากปรักหักพังเป็นกองโบราณคดี กรมศิลปากร โบราณวัตถุมากมายจะพบจากเว็บไซต์นี้เช่นทับหลังบรรจงแสดงพระอิศวร พระ Krissna ต่อสู้วัว Vattana พุทธในทัศนคติของการทำสมาธิภายใต้พญานาค รูปปั้นพระพุทธรูปในท่านั่งสมาธิ และ terra cotta พระพุทธรูปโดยลักษณะปรากฏ บนหน้าจั่ว ทับหลังบรรจง โบราณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักที่ doorframe เขมรใหญ่ Kampaeng สระพัง ซากปรักหักพังนี้ถูกคงสร้างสมัยศตวรรษที่ 11 ด้วยศิลปะ Bapuan สไตล์ของเขมร จะถูกเสิร์ฟเป็นศาลเจ้าสำหรับเทพเจ้าก่อนเปลี่ยนแปลงเป็นวัดพุทธมหายานในศตวรรษที่ 13วิธีการเดินทาง: ซากปรักหักพังเขมรเป็น 26 กิโลเมตร จากตัว เมืองศรีสะเกษ และ 2 กม.จากอำเภออุทุมพร Pisai ผ่านทางหลวงหมายเลข 226

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สระกำแพงใหญ่เขมรซากปรักหักพัง (ปราสาทสระกำแพงใหญ่) ตั้งอยู่ในวัดสระกำแพงใหญ่, บ้านกำแพงใหญ่, ตำบลสระกำแพงใหญ่, มันเป็นซากปรักหักพังเขมรที่ใหญ่ที่สุดและสมบูรณ์แบบที่สุดในจังหวัด ซากปรักหักพังเขมรประกอบด้วยสามเจดีย์บนเยื่อบุฐานเดียวกันในทิศทางทิศตะวันตกเฉียงใต้และหันหน้าไปทางทิศตะวันออก เจดีย์หลักอยู่ตรงกลางที่ทำจากหินทรายและอิฐในบางส่วนบ้านแกะสลักทับหลังภาพวาดพระอินทร์บนหลังช้างเอราวัณบนสวรรค์ข้างต้น kirtimukha อีกสองเจดีย์ที่ทำจากอิฐกับการตกแต่งหินทรายเช่นทับหลังกรอบหน้าบันและกรอบประตู เบื้องหลังเจดีย์ภาคใต้เป็นอิฐเจดีย์อื่น ก่อนที่ทุกคนมีสองอิฐวิหารล้อมรอบด้วยกำแพงที่ทำจากศิลาแลงและหินทรายและ 4 gopuras ที่ทุกทิศทาง.
อิฐวิหารที่บ้านเหนือทับหลังแกะสลักภาพวาดพระนารายณ์ไสยาสน์ อิฐบ้านวิหารภาคใต้ทับหลังภาพวาดพระเจ้าพระอิศวรและเทพธิดา Uma นั่งอยู่บนวัวนนทรี ปัจจุบันนี้ซากปรักหักพังเขมรเป็นส่วนหนึ่งของโบราณคดีกรมศิลปากร โบราณวัตถุจำนวนมากจะพบได้จากเว็บไซต์นี้เช่นทับหลังภาพวาดพระอิศวรพระเจ้า Krissna พระเจ้าต่อสู้วัววัฒนา, พระพุทธรูปในทัศนคติของการทำสมาธิภายใต้นาค, พระพุทธรูปในทัศนคติของการทำสมาธิและดินเผาพระพุทธรูป.
โดยรูปแบบที่ปรากฏบนหน้าจั่ว ทับหลังและโบราณโดยเฉพาะอย่างยิ่งจารึกที่ doorframe ของสระกำแพงใหญ่เขมรซากซากปรักหักพังนี้อาจจะสร้างในศตวรรษที่ 11 ที่มีสไตล์ Bapuan ศิลปะเขมร . มันก็ทำหน้าที่เป็นศาลเจ้าที่มีต่อพระเจ้าพระอิศวรก่อนจะเปลี่ยนเป็นวัดในพุทธศาสนามหายานในศตวรรษที่ 13
วิธีการเดินทาง: ซากปรักหักพังเขมรเป็น 26 กิโลเมตรจากตัวเมืองศรีสะเกษและ 2 กิโลเมตรจากอำเภอเมือง Pisai ผ่านทางหลวง 226

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สระกำแพงใหญ่เขมรซากปรักหักพัง ( ปราสาทสระกำแพงใหญ่ ) ตั้งอยู่ในวัดสระกำแพงใหญ่บ้านกำแพงใหญ่ ตำบลสระกำแพงใหญ่ เป็นที่ใหญ่ที่สุดและสมบูรณ์แบบมากที่สุดในเขมรซากปรักหักพังในจังหวัด เขมรซากปรักหักพังประกอบด้วยสามเจดีย์บนเยื่อบุฐานเดียวกันในทิศทางเหนือใต้ หันหน้าไปทางทิศตะวันออก เมืองหลักที่ตรงกลาง ผลิตจากหินทรายและอิฐในบางส่วนบ้านภาพแกะสลักรูปพระอินทร์บนหลังช้างเอราวัณสวรรค์เหนือ kirtimukha . มีอีกสองเจดีย์ก่อด้วยอิฐ ด้วยหินทราย เช่น ทับหลัง หน้าบันตกแต่งกรอบวงกบประตู หลังเจดีย์ เป็นเจดีย์ก่ออิฐใต้อีก . ก่อนที่ทั้งหมดจะถูกล้อมรอบด้วยกำแพงอิฐสองวิหารทำจากศิลาแลงและหินทรายและ 4 gopuras
ที่ทุกเส้นทางบ้านอิฐ ) ภาพแกะสลักรูปพระนารายณ์นอนเหนือ อิฐใต้วิหารบ้านทับหลังภาพพระศิวะเทพและเทพธิดาอุมานั่งอยู่บน nonthi วัว ปัจจุบัน นี้เป็นของเขมรซากปรักหักพังกองโบราณคดี กรมศิลปากร โบราณวัตถุที่พบจากหลายเว็บไซต์เช่น ทับหลังรูปพระอิศวรพระเจ้า กฤษณาพระเจ้าต่อสู้ vattana วัวพระพุทธรูปในท่าสมาธินาคปรก , พระพุทธรูปในทัศนคติของการทำสมาธิและ Terra Cotta พระพุทธรูป โดยลักษณะที่ปรากฏบน
หน้าจั่ว ทับหลัง และจารึกโบราณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อู่เรือของสระกำแพงใหญ่เขมรพัง ภาพแบบนี้คงสร้างในศตวรรษที่ 11 ด้วยศิลปะแบบบาปวนของเขมรมันทำหน้าที่เป็นปูชนียสถานของพระศิวะเทพ ก่อนเปลี่ยนเป็นวัดในพุทธศาสนาฝ่ายมหายานในศตวรรษที่ 13 .
การเดินทาง : เขมรซากปรักหักพัง 26 กิโลเมตร จากตัวเมืองศรีสะเกษ และ 2 กม. จากอำเภออุทุมพร pisai ผ่านทางหลวง 226 .