ในครอบครัวของดิฉันมีสมาชิกทั้งหมด 4 คน ดิฉันเป็นลูกคนแรก และดิฉันมีน้องชาย 1 คน พ่อแม่ของดิฉันได้แยกทางกันตั้งแต่ฉันอายุ 14 ปี ดิฉันและน้องชายก็เลยได้มาอยู่กับตาและยาย ตอนนี้ดิฉันกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเลยอนุกูลวิทยา ส่วนน้องชายของดิฉันกำลังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านนาดินดำ ตากะยายมีอาชีพทำไร่ทำนา ตอนกลางท่านก็ไปทำไร่ ปลูกข้าวโพด ปลูกผัก พอตกกลางคืนท่านก็ไปกรีดยาง ดิฉันอยากไปช่วยท่าน แต่ท่านบอกว่าไม่ต้องไปเดี๋ยวตื่นสายไปโรงเรียนไม่ทัน ดิฉันก็ได้แต่มองและคอยเป็นห่วง สงสารท่านที่ท่านทำงานหนักเพื่อที่จะให้ลูกหลานมีกินมีใช้ไปโรงเรียน ดิฉันจะตั้งใจเรียนเพื่อที่จะมีอาชีพที่ดีๆแล้วมาเลี้ยงดูและมาตอบแทนบุญคุณตากับยาย เพื่อที่จะไม่ให้ท่านไปทำงานหนัก ให้ท่านได้พักผ่อน
บ้านในฝันของดิฉัน คือ ดิฉันอยากได้บ้านที่ไม่ต้องใหญ่ ไม่ต้องเริดหรูอลังการ สีบ้านก็จะทาเป็นสีเหลืองอ่อน รอบบ้านเต็มไปด้วยพื้นหญ้าสีเขียว มีอากาศที่บริสุทธ์ สงบเงียบไม่มีสิ่งใดมารบกวน มีที่ให้น้องชายได้วิ่งเล่น มีที่ให้ยายปลูกพืชผักไว้รับประทาน มีม้านั่งสำหรับให้ตานั่งอ่านหนังสือพิมพ์ มีที่ขี่จักรยานชมวิว มีวิวถ่ายรูปสวยๆ มองไปจะเห็นแต่ภูเขาต้นไม้ดอกไม้ ธรรมชาติ นกบินลอยเต็มท้องฟ้า มีระเบียงให้พอตกกลางคืนจะได้นอนมองดูดาว มีสุนัขพันธุ์อเมริกันพิทบูล 2 ตัว เพื่อที่จะได้เฝ้าบ้านในยามที่คนไม่อยู่บ้าน และจะได้มาวิ่งเล่นกับน้องชายขี้ดื้อของดิฉัน และอยากให้บ้านในฝันของดิฉันเป็นบ้านที่อบอุ่น อยากให้พ่อกับแม่มาอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา ดำรงชีวิตอยู่แบบพอกินพอใช้ ที่สำคัญคือการมีความเอื้อเฟื่อเผื่อแผ่ ความรัก การมีความร่วมมือร่วมใจกันในการทำงานต่างๆและการมีความเอื้อเฟื่อเผื่อแผ่ ไม่ว่าบ้านจะหลังใหญ่โตสักเท่าไหร่ ถ้าไม่มีความรัก ความเอื้อเฟื่อต่อกันก็จะทำให้บ้านหลังนั้นไม่มีความอบอุ่น ก็จะมีแต่ความขัดแย้ง