The mechanical properties of iron a

The mechanical properties of iron and its alloys can be evaluated using a variety of tests, including the Brinell test, Rockwell test and the Vickers hardness test. The data on iron is so consistent that it is often used to calibrate measurements or to compare tests.[6][7] However, the mechanical properties of iron are significantly affected by the sample's purity: pure research-purpose single crystals of iron are actually softer than aluminium,[5] and the purest industrially produced iron (99.99%) has a hardness of 20–30 Brinell.[8] An increase in the carbon content of the iron will initially cause a significant corresponding increase in the iron's hardness and tensile strength. Maximum hardness of 65 Rc is achieved with a 0.6% carbon content, although this produces a metal with a low tensile strength.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คุณสมบัติทางกลของเหล็กและโลหะผสมสามารถถูกประเมินโดยใช้ความหลากหลายของการทดสอบ การทดสอบบริเนล ร็อคเวลล์ทดสอบ และทดสอบความแข็งวิกเกอร์ส ข้อมูลเหล็กเพื่อให้สอดคล้องกันว่า มักจะใช้การวัด หรือ การเปรียบเทียบการทดสอบได้ [6] [7] อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติทางกลของเหล็กอยู่มากได้ผลกระทบจากความบริสุทธิ์ของตัวอย่าง: วัตถุประสงค์การวิจัยบริสุทธิ์ผลึกเดี่ยวของเหล็กเป็นจริงเบากว่าอลูมิเนียม, [5] และเหล็กผลิต industrially นี่ (99.99%) มีความแข็งบริเนล 20 – 30 ของ. [ 8] การเพิ่มคาร์บอนของเหล็กจะเริ่มต้นทำให้เพิ่มความสอดคล้องในความแข็งความแข็งแรงของเหล็ก ความแข็งสูงสุด 65 Rc ทำกับเนื้อหาคาร์บอน 0.6% แม้นี้ผลิตโลหะที่ มีความต้านแรงดึงต่ำสุด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สมบัติเชิงกลของเหล็กและโลหะผสมที่สามารถได้รับการประเมินโดยใช้ความหลากหลายของการทดสอบรวม​​ถึงการทดสอบบริเนลทดสอบถอดแบบและการทดสอบความแข็งวิคเกอร์ ข้อมูลเกี่ยวกับเหล็กเพื่อให้สอดคล้องกันว่ามันมักจะใช้ในการสอบเทียบวัดหรือเปรียบเทียบการทดสอบ [6] [7] อย่างไรก็ตามสมบัติเชิงกลของเหล็กได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญโดยความบริสุทธิ์ตัวอย่างของ. บริสุทธิ์วิจัยวัตถุประสงค์ผลึกเดี่ยวของเหล็ก จริงนุ่มกว่าอลูมิเนียม [5] และบริสุทธิ์อุตสาหกรรมผลิตเหล็ก (99.99%) มีความแข็ง 20-30 บริเนลได้. [8] การเพิ่มขึ้นของปริมาณคาร์บอนเหล็กในขั้นแรกจะทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่สอดคล้องกันในความแข็งของเหล็ก และความต้านทานแรงดึง ความแข็งสูงสุด 65 Rc จะประสบความสำเร็จกับ 0.6% ปริมาณคาร์บอนแม้ว่านี้ผลิตโลหะที่มีความต้านทานแรงดึงต่ำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คุณสมบัติเชิงกลของเหล็กและโลหะผสมไทเทเนียมสามารถประเมินโดยใช้ความหลากหลายของการทดสอบรวมถึงการทดสอบแบบบริเนลร็อคเวลล์และความแข็งวิกเกอร์ทดสอบ ข้อมูลเหล็กเพื่อให้สอดคล้องกันว่า มันมักจะใช้ในการสอบเทียบวัดหรือเปรียบเทียบการทดสอบ [ 6 ] [ 7 ] อย่างไรก็ตามสมบัติเชิงกลของเหล็ก เป็นปัจจัย โดยตัวอย่างความบริสุทธิ์ :วัตถุประสงค์การวิจัยบริสุทธิ์ผลึกเดี่ยวของเหล็กจะเบากว่าอลูมิเนียม [ 5 ] และ purest industrially ผลิตเหล็ก ( 99.99% ) มีความแข็งบริเนล 20 – 30 . [ 8 ] การเพิ่มปริมาณคาร์บอนของเหล็กจะเริ่มเกิดที่เพิ่มขึ้นที่สำคัญในความแข็งของเหล็กและความต้านทานแรงดึง ค่าความแข็งสูงสุด 65 RC ได้กับปริมาณคาร์บอนเป็น 0.6 %แม้ว่านี้ผลิตโลหะที่มีความแข็งแรงดึงต่ำ