AbstractPurpose: In this study, a c

Abstract
Purpose: In this study, a comparison was made between muscle strength, power and muscle and tendon (k(m), and k(t) respectively) stiffness of the triceps surae muscle group and running economy (RE) in trained male runners. Methods: Twelve well-trained male runners (age = 21 +/- 2.7 y, height = 178.1 +/- 7.1 cm, body mass = 66.7 +/- 3.2 kg, VO(2)max = 68.3 +/- 4.3 mL.kg(-1).min(-1), 5000-m time = 15:04 min:s) undement passive stiffness testing using a free oscillation method. Muscle strength was determined via a maximal isometric squat test and power determined via a maximal countermovement jump (CMJ). On a separate day, subjects performed an incremental treadmill test and their RE, lactate threshold, and VO(2)max were determined. Fingertip blood lactate was determined at the end of each 3-min stage. Lactate threshold was defined as a nonlinear increase in lactate accumulation. Results: A statistically significant correlation was found between k(m) and VO(2) at stage 6 (r = 0.69, P = .01). In addition, statistically significant correlations were observed between CMJ peak force production and VO(2) at stage 2 (r = .66, P = .02), stage 3 (r = .70, P = .01), and stage 4 (r = .58, P = .04). No other statistically significant correlations were observed. Conclusion: These data suggest that greater muscle stiffness and less power are associated with greater RE. Future study in this area should focus on determining the mechanisms behind this relationship and how to best apply them to a running population through training techniques.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อวัตถุประสงค์: ในการศึกษานี้ การเปรียบเทียบทำระหว่างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ พลังงาน และกล้ามเนื้อ และเอ็น (k(m) และ k(t) ตามลำดับ) ความแข็งแรงของกลุ่มกล้ามเนื้อ surae หน้าและทำเศรษฐกิจ (RE) นักวิ่งชายที่ผ่านการฝึกอบรม วิธี: นักวิ่งชายอบรมสิบสอง (อายุ = 21 +/-2.7 y ความสูง = 178.1 +/-7.1 ซม. ร่างกายมวล = 66.7 +/-3.2 กก. VO (2) = 68.3 +/-4.3 mL.kg(-1).min(-1) สูงสุด 5000m เวลา = 15:04 min:s) undement แฝงความแข็งการทดสอบโดยใช้วิธีการสั่นฟรี พิจารณาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อผ่านทดสอบสควอช isometric สูงและพลังงานที่กำหนดผ่านการกระโดดสูงสุด countermovement (CMJ) ในวันแยกต่างหาก วิชาทำการทดสอบเพิ่มขึ้นลู่วิ่ง และการ RE เกณฑ์แลคเตท และสูงสุด VO (2) กำหนด น้ำนมเลือดปลายนิ้วถูกกำหนดในตอนท้ายของแต่ละขั้นตอน 3 นาที แลคเตทขีดจำกัดถูกกำหนดเป็นการเพิ่มขึ้นเชิงเส้นในน้ำนมสะสม ผลลัพธ์: ความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่พบระหว่าง k(m) และ VO(2) ในขั้นตอนที่ 6 (r = 0.69, P =.01). นอกจากนี้ ความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติถูกตั้งข้อสังเกตระหว่างการผลิต CMJ สูงสุดแรงและ VO(2) ในขั้นตอนที่ 2 (r =.66, P =.02), ระยะที่ 3 (r =.70, P =.01), และขั้นตอนที่ 4 (r =.58, P =.04). ความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติไม่ถูกสังเกต สรุป: ข้อมูลเหล่านี้แนะนำให้กล้ามเนื้อตึงมากขึ้นและพลังงานเกี่ยวข้องกับเรื่องมากขึ้น การศึกษาในอนาคตบริเวณนี้ควรเน้นการกำหนดกลไกที่อยู่เบื้องหลังความสัมพันธ์นี้และวิธีการที่ดีที่สุดใช้ประชากรทำงานผ่านการฝึก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์: ในการศึกษานี้เปรียบเทียบได้ทำระหว่างแข็งแรงของกล้ามเนื้อพลังงานและกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น (k (M) และ K (T) ตามลำดับ) ความแข็งของไขว้ surae กลุ่มกล้ามเนื้อและการทำงานเศรษฐกิจ (อีกครั้ง) ในการฝึกอบรมนักวิ่งชาย . วิธีการ: สิบสองมีการฝึกอบรมนักวิ่งชาย (อายุ = 21 +/- 2.7 Y, height = 178.1 +/- 7.1 ซมมวลกาย = 66.7 +/- 3.2 กิโลกรัม VO (2) สูงสุด = 68.3 +/- 4.3 มิลลิลิตร กก. (-1) .min (-1) เวลา 5000-M = 15:04 นาที: s) undement ทดสอบความแข็งเรื่อย ๆ โดยใช้วิธีการสั่นฟรี แข็งแรงของกล้ามเนื้อได้รับการกำหนดโดยผ่านการทดสอบหมอบสูงสุดมีมิติเท่ากันและมีอำนาจกำหนดผ่านการกระโดดสูงสุด countermovement (CMJ) ในวันที่แยกต่างหากอาสาสมัครดำเนินการทดสอบที่เพิ่มขึ้นลู่วิ่งอีกครั้งของพวกเขาเกณฑ์นมและ VO (2) แม็กซ์ได้รับการพิจารณา แลคเตทในเลือดปลายนิ้วถูกกำหนดในตอนท้ายของแต่ละขั้นตอน 3 นาที เกณฑ์นมถูกกำหนดเป็นเพิ่มขึ้นไม่เชิงเส้นในการสะสมแลคเตท ผล: ความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญคือการพบกันระหว่าง K (M) และ VO (2) ในขั้นตอนที่ 6 (r = 0.69, P = .01) นอกจากนี้ความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญถูกตั้งข้อสังเกตระหว่างการผลิต CMJ แรงสูงสุดและ VO (2) ในขั้นตอนที่ 2 (r = 0.66, P = 0.02) ระยะที่ 3 (r = 0.70, P = 0.01) และ 4 ขั้นตอน (r = 0.58, P = 0.04) ไม่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญอื่น ๆ ที่ถูกตั้งข้อสังเกต สรุป: ข้อมูลเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่ากล้ามเนื้อตึงมากขึ้นและพลังงานน้อยมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องมากขึ้น การศึกษาในอนาคตในพื้นที่นี้ควรให้ความสำคัญเกี่ยวกับการกำหนดกลไกที่อยู่เบื้องหลังความสัมพันธ์นี้และวิธีการที่ดีที่สุดที่นำไปใช้กับประชากรวิ่งผ่านเทคนิคการฝึกอบรม ความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญคือการพบกันระหว่าง K (M) และ VO (2) ในขั้นตอนที่ 6 (r = 0.69, P = .01) นอกจากนี้ความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญถูกตั้งข้อสังเกตระหว่างการผลิต CMJ แรงสูงสุดและ VO (2) ในขั้นตอนที่ 2 (r = 0.66, P = 0.02) ระยะที่ 3 (r = 0.70, P = 0.01) และ 4 ขั้นตอน (r = 0.58, P = 0.04) ไม่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญอื่น ๆ ที่ถูกตั้งข้อสังเกต สรุป: ข้อมูลเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่ากล้ามเนื้อตึงมากขึ้นและพลังงานน้อยมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องมากขึ้น การศึกษาในอนาคตในพื้นที่นี้ควรให้ความสำคัญเกี่ยวกับการกำหนดกลไกที่อยู่เบื้องหลังความสัมพันธ์นี้และวิธีการที่ดีที่สุดที่นำไปใช้กับประชากรวิ่งผ่านเทคนิคการฝึกอบรม ความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญคือการพบกันระหว่าง K (M) และ VO (2) ในขั้นตอนที่ 6 (r = 0.69, P = .01) นอกจากนี้ความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญถูกตั้งข้อสังเกตระหว่างการผลิต CMJ แรงสูงสุดและ VO (2) ในขั้นตอนที่ 2 (r = 0.66, P = 0.02) ระยะที่ 3 (r = 0.70, P = 0.01) และ 4 ขั้นตอน (r = 0.58, P = 0.04) ไม่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญอื่น ๆ ที่ถูกตั้งข้อสังเกต สรุป: ข้อมูลเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่ากล้ามเนื้อตึงมากขึ้นและพลังงานน้อยมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องมากขึ้น การศึกษาในอนาคตในพื้นที่นี้ควรให้ความสำคัญเกี่ยวกับการกำหนดกลไกที่อยู่เบื้องหลังความสัมพันธ์นี้และวิธีการที่ดีที่สุดที่นำไปใช้กับประชากรวิ่งผ่านเทคนิคการฝึกอบรม ขั้นตอนที่ 3 (r = 0.70, P = 0.01) และระยะที่ 4 (r = 0.58, P = 0.04) ไม่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญอื่น ๆ ที่ถูกตั้งข้อสังเกต สรุป: ข้อมูลเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่ากล้ามเนื้อตึงมากขึ้นและพลังงานน้อยมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องมากขึ้น การศึกษาในอนาคตในพื้นที่นี้ควรให้ความสำคัญเกี่ยวกับการกำหนดกลไกที่อยู่เบื้องหลังความสัมพันธ์นี้และวิธีการที่ดีที่สุดที่นำไปใช้กับประชากรวิ่งผ่านเทคนิคการฝึกอบรม ขั้นตอนที่ 3 (r = 0.70, P = 0.01) และระยะที่ 4 (r = 0.58, P = 0.04) ไม่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญอื่น ๆ ที่ถูกตั้งข้อสังเกต สรุป: ข้อมูลเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่ากล้ามเนื้อตึงมากขึ้นและพลังงานน้อยมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องมากขึ้น การศึกษาในอนาคตในพื้นที่นี้ควรให้ความสำคัญเกี่ยวกับการกำหนดกลไกที่อยู่เบื้องหลังความสัมพันธ์นี้และวิธีการที่ดีที่สุดที่นำไปใช้กับประชากรวิ่งผ่านเทคนิคการฝึกอบรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทคัดย่อวัตถุประสงค์ : ศึกษาเปรียบเทียบได้ระหว่างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ พลังกล้ามเนื้อและเอ็น ( K ( , m ) และค่า K ( T ) ตามลำดับ ) ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ triceps สัญญาณไฟฟ้าและกลุ่มเศรษฐกิจวิ่ง ( อีกครั้ง ) ในนักวิ่งชายที่ผ่านการอบรม วิธีการ : 12 พัทยามาราธอน ( ชายอายุ = 21 + / - 2 y , ความสูง = ปี + / - 7.1 เซนติเมตร มวลกาย = + / - ส่วน 3.2 กิโลกรัม หวอ ( 2 ) สูงสุด = 68.3 + / - 4.3 ค่าที่ ( 1 ) min ( - 1 ) , 5000-m เวลา = 15:04 มิน : s ) undement เรื่อยๆความแข็งการทดสอบใช้วิธีการนี้ฟรี ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อถูกกำหนดผ่านมหาโตหมอบทดสอบและอำนาจตัดสินใจผ่านข้าม countermovement สูงสุด ( CMJ ) ในวันที่แยกต่างหาก เพื่อทำการทดสอบวิ่งที่เพิ่มขึ้นและจะให้น้ำนมธรณีประตูและหวอ ( 2 ) แม็ก ตัวอย่าง เจาะเลือดและมุ่งมั่นที่ส่วนท้ายของแต่ละขั้นตอน 3-min . และเริ่มกำหนดเป็นเส้นเพิ่มในการสะสมกรดแลคติก . ผลการศึกษา : พบความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่าง k ( M ) และ O ( 2 ) ในขั้นตอนที่ 6 ( r = 0.69 , p = . 01 ) นอกจากนี้ พบว่ามีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างการผลิตสูงสุดและแรง CMJ VO ( 2 ) ระยะที่ 2 ( r = . 66 , p = . 01 ) ระยะที่ 3 ( r = . 70 , p = . 01 ) และระยะที่ 4 ( r = . 58 , p = . 04 ) ไม่มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติอื่น ๆ พบว่า สรุป : ข้อมูลเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมากขึ้นและพลังงานน้อยกว่าที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง การศึกษาในอนาคตบริเวณนี้ควรเน้นการกำหนดกลไกเบื้องหลังความสัมพันธ์นี้และวิธีการที่ดีที่สุดใช้ให้วิ่งประชากรโดยใช้เทคนิคการฝึกอบรม