If perceived self-efficacy is high,

If perceived self-efficacy is high, the outcome expectation is also high and the individual’s likelihood of doing it is high. In order to increase outcome expectancy, individuals should set a goal and conduct self-monitoring.
Bandura delineates four ways that self-efficacy belief can be changed in relation to health behaviors. Individuals develop their self-efficacy by interpreting information, primarily, through: enactive mastery experiences, vicarious experiences or modeling, verbal persuasion, and physiological and affective states.
Previous studies on health promotion in adolescents, using Pender’s HPM and social cognitive theory, have revealed that perceived benefits, perceived barriers, interpersonal influences (social support, social norms, and modeling) and perceived self-efficacy have an influence on physical activity. Of these, self-efficacy is the strongest predictor of physical activity among adolescents.Empirical evidence has shown that children and adolescents, who enjoy physical activity, are more likely to participate in physical activity.Thai children and adolescents have reported their reasons for participating in physical activity are having to comply with the required physical education lessons and for enjoyment.
Empirical evidence regarding physical activity intervention with adolescent girls came from studies that employed different physical activity intervention programs. Results have shown that in one intervention study, conducted with girls and women, using the DAMET (Daughters and Mothers Exercising Together) Project and based on social cognitive theory (perceived self-efficacy), the subjects’ physical activity increased significantly after attending the program.In another study, the Active Winners Program was implemented, using social cognitive theory and Pender’s HPM in a community-based intervention, among students in grade five who were followed to grade seven. According to the study’s

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ถ้ามองเห็นตนเองประสิทธิภาพจะสูง ความคาดหวังผลลัพธ์เป็นสูง และโอกาสของแต่ละคนทำมันสูง เพื่อเพิ่มเสถียรภาพในผล บุคคลควรกำหนดเป้าหมาย และดำเนินการตรวจสอบตนเอง Bandura delineates สี่วิธีที่สามารถเปลี่ยนความเชื่อประสิทธิภาพตนเองเกี่ยวกับพฤติกรรมสุขภาพ บุคคลพัฒนาประสิทธิภาพตนเองของพวกเขา โดยการตีความข้อมูล หลัก ผ่าน: ประสบการณ์เป็นครู enactive กิยามะฮ์ประสบการณ์ หรือโมเดล จูงใจวาจา และอเมริกาสรีรวิทยา และผลการ ส่งเสริมสุขภาพในวัยรุ่น ใช้ของ Pender HPM และทฤษฎีการรับรู้ทางสังคม การศึกษาก่อนหน้านี้ได้เปิดเผยว่า รับรู้ประโยชน์ อุปสรรค มนุษยสัมพันธ์ในการรับรู้มีผลต่อ (สนับสนุนทางสังคม บรรทัดฐานทางสังคม และการสร้างโมเดล) และถือว่ามีผลต่อกิจกรรมทางกายภาพประสิทธิภาพตนเอง เหล่านี้ ประสิทธิภาพตนเองเป็นจำนวนประตูที่แข็งแกร่งของกิจกรรมทางกายภาพในหมู่วัยรุ่น มีแสดงหลักฐานประจักษ์ว่า เด็กและวัยรุ่น ที่เพลิดเพลินกับกิจกรรมทางกายภาพ มีแนวโน้มที่จะเข้าร่วมในกิจกรรมทางกายภาพ เด็ก ๆ และวัยรุ่นมีรายงานของสาเหตุในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางกายภาพจะต้องสอดคล้องการเรียนพลศึกษาต้อง และหย่อน ประจักษ์หลักฐานเกี่ยวกับการแทรกแซงกิจกรรมทางกายภาพกับเด็กหญิงมาจากศึกษาที่โปรแกรมแทรกแซงกิจกรรมทางกายภาพที่แตกต่างกัน ผลลัพธ์ได้แสดงซึ่งในการศึกษาการแทรกแซงที่หนึ่ง ดำเนินการกับหญิงและหญิง การใช้โครงการ DAMET (ลูกสาวและแม่ออกกำลังกายร่วมกัน) และตามทฤษฎีการรับรู้ทางสังคม (มองเห็นตนเองประสิทธิภาพ), กิจกรรมทางกายภาพของหัวข้อที่เพิ่มขึ้นหลังจากการเข้าร่วมโปรแกรมอย่างมีนัยสำคัญ ในการศึกษาอื่น ๆ โปรแกรมผู้ใช้งานได้ดำเนินการ การใช้ทฤษฎีการรับรู้ทางสังคมและของ Pender HPM ในที่ชุมชนแทรกแซง ระหว่างนักเรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ห้าที่ตามไปชั้นเจ็ด ตามการศึกษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ถ้ารับรู้ความสามารถของตนเองอยู่ในระดับสูงคาดหวังผลที่ได้ยังเป็นที่สูงและความน่าจะเป็นของแต่ละบุคคลในการทำมันเป็นสูง เพื่อเพิ่มความคาดหวังในผลที่บุคคลควรกำหนดเป้าหมายและดำเนินการตรวจสอบตนเอง.
บันดูระให้สัตยาบันสี่วิธีการที่ความเชื่อของตนเองประสิทธิภาพสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในความสัมพันธ์กับพฤติกรรมสุขภาพ บุคคลที่พัฒนาประสิทธิภาพในตัวเองของพวกเขาโดยการตีความข้อมูลส่วนใหญ่ผ่าน:. ประสบการณ์การเรียนรู้ enactive
ประสบการณ์ชะลอหรือการสร้างแบบจำลองการชักชวนด้วยวาจาและรัฐทางสรีรวิทยาและอารมณ์ศึกษาก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพในวัยรุ่นโดยใช้HPM เพ็นเดอร์และทฤษฎีองค์ความรู้ทางสังคมได้เปิดเผย ว่าผลประโยชน์การรับรู้การรับรู้อุปสรรคที่มีอิทธิพลต่อความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล (การสนับสนุนทางสังคมบรรทัดฐานทางสังคมและการสร้างแบบจำลอง) และรับรู้ความสามารถของตนเองมีอิทธิพลต่อกิจกรรมทางกายภาพ ของเหล่านี้ด้วยตนเองประสิทธิภาพเป็นปัจจัยบ่งชี้ที่แข็งแกร่งของการออกกำลังกายในหมู่ adolescents.Empirical หลักฐานแสดงให้เห็นว่าเด็กและวัยรุ่นที่ชื่นชอบการออกกำลังกายมีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมในทางกายภาพ activity.Thai เด็กและวัยรุ่นที่มีรายงานว่ามีเหตุผลของการมีส่วนร่วมใน การออกกำลังกายจะมีเพื่อให้สอดคล้องกับการเรียนการศึกษาทางกายภาพที่จำเป็นและเพื่อความบันเทิง.
หลักฐานเชิงประจักษ์เกี่ยวกับการแทรกแซงการออกกำลังกายกับสาววัยรุ่นที่มาจากการศึกษาที่แตกต่างกันที่การจ้างงานโปรแกรมการแทรกแซงการออกกำลังกาย ผลที่ได้แสดงให้เห็นว่าในการศึกษาการแทรกแซงหนึ่งดำเนินการกับเด็กหญิงและหญิงโดยใช้ DAMET (ลูกสาวและแม่ออกกำลังกายร่วมกัน) โครงการและอยู่บนพื้นฐานทฤษฎีองค์ความรู้ทางสังคม (รับรู้ความสามารถของตนเอง) การออกกำลังกายอาสาสมัครเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังจากที่เข้าร่วมโปรแกรม .in การศึกษาอื่นผู้ชนะโครงการที่ใช้งานได้ดำเนินการโดยใช้ทฤษฎีองค์ความรู้ทางสังคมและ HPM เพ็นเดอร์ในการแทรกแซงของชุมชนตามในหมู่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ห้าตามมาถึงชั้นเจ็ด จากการศึกษาของ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ถ้าการรับรู้สมรรถนะในตนเองสูง ความคาดหวังก็สูง และของแต่ละบุคคลโอกาสทำมันอยู่สูง เพื่อเพิ่มความคาดหวังผล บุคคลควรกำหนดเป้าหมายและความประพฤติตน .
แบนดูราอธิบายสี่วิธีที่ตนเองสามารถเปลี่ยนความเชื่อที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมสุขภาพ บุคคลที่พัฒนาตนเองของพวกเขาโดยการตีความข้อมูลเป็นหลัก ด้วยการจัดประสบการณ์ของประสบการณ์หรือโมเดลลิ่ง , การชักชวนด้วยวาจา และสรีรวิทยา และทางรัฐ
การศึกษาก่อนหน้านี้ในการส่งเสริมสุขภาพของเพนเดอร์ในวัยรุ่นโดยใช้ hpm และทฤษฎีปัญญาสังคม ได้พบว่า การรับรู้ประโยชน์ การรับรู้อุปสรรค อิทธิพลระหว่างบุคคล ( การสนับสนุนทางสังคม บรรทัดฐานทางสังคมและแบบจำลอง ) และการรับรู้ความสามารถของตนเองที่มีอิทธิพลต่อกิจกรรมทางกาย เหล่านี้คือตัวแรงที่สุดของการออกกำลังกายของวัยรุ่น หลักฐานเชิงประจักษ์พบว่าเด็กและวัยรุ่นที่สนุกกับกิจกรรมทางกายภาพ , มีโอกาสที่จะมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางกาย